ฟิทช์คงอันดับเครดิต ปตท. ที่ 'BBB+’ แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ

อังคาร ๐๗ พฤษภาคม ๒๐๑๙ ๑๔:๔๙
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ (International Long-Term Foreign-Currency Issuer Default Rating) และอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินในประเทศ (International Long-Term Local-Currency Issuer Default Rating) ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. ที่ระดับ 'BBB+' และอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ระยะยาวที่ระดับ 'AAA(tha)' แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ รายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดของ ปตท. อยู่ในส่วนสุดท้ายของรายงานนี้

การคงอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะเครดิตโดยลำพัง (Standalone Credit Profile) ของปตท. ที่ระดับ 'bbb+' ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตของประเทศไทย ('BBB+' แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ) อันดับเครดิตของปตท. จะยังคงเท่ากับอันดับเครดิตของประเทศไทย ในกรณีที่สถานะเครดิตโดยลำพังของปตท. ถูกปรับลดลง หากฟิทช์พิจารณาว่าความสัมพันธ์ระหว่าง ปตท. และภาครัฐฯ ภายใต้หลักเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตองค์กรที่มีความสัมพันธ์กับภาครัฐฯ (Government-Related Entities Rating Criteria) ของฟิทช์ ยังคงเหมือนเดิม สถานะเครดิตโดยลำพัง (Standalone Credit Profile) ของปตท. สะท้อนถึงการเป็นบริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติครบวงจร รวมถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมของบริษัทฯ ยังคงเผชิญกับความท้าทายอยู่ แต่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้น อัตราส่วนหนี้สิน ณ ปัจจุบันของบริษัทฯ ที่ต่ำ น่าจะช่วยรองรับการลงทุนในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่อาจจะเพิ่มขึ้นจากการแก้ปัญหาเรื่องปริมาณสำรองน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ โดยไม่ทำให้อัตราส่วนหนี้สินสูงขึ้นจนกระทบอันดับเครดิต

ปัจจัยที่มีผลต่ออันดับเครดิต

ธุรกิจสำรวจและผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติน่าจะปรับตัวดีขึ้น: แผนในการเข้าซื้อกิจการธุรกิจสำรวจและผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของ Murphy Oil ในประเทศมาเลเซียมูลค่า 2.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่เพิ่งประกาศออกมา พร้อมกับการชนะการประมูลแหล่งก๊าซธรรมชาติบงกชและเอราวัณ น่าจะช่วยทำให้ธุรกิจสำรวจและผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของบริษัทฯ ที่ดำเนินธุรกิจโดยบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. สผ. ปรับตัวดีขึ้น โดยปริมาณการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในช่วงห้าปีข้างหน้าน่าจะเพิ่มขึ้นจากเดิมที่เคยคาดการณ์ว่าจะลดลง ปริมาณสำรองน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของบริษัทฯ น่าจะเพิ่มขึ้น แม้ว่าน่าจะยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าระดับเฉลี่ยของบริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่ฟิทช์จัดอันดับเครดิตในกลุ่ม 'BBB'

นอกจากนี้ การชนะการประมูลแหล่งก๊าซธรรมชาติบงกชและเอราวัณยังช่วยทำให้ความเสี่ยงจากการสูญเสียการผลิตจากแหล่งก๊าซธรรมชาติบงกชหมดไปอีกด้วย ซึ่งในปี 2561 บริษัทมีปริมาณการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากแหล่งบงกชคิดเป็นร้อยละ 27 ของการผลิตทั้งหมด และยังทำให้ ปตท. สผ. เพิ่มความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำในธุรกิจสำรวจและผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในประเทศไทยอีกด้วย โดยก๊าซธรรมชาติที่ผลิตจากแหล่งบงกชและเอราวัณคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 60 ของการผลิตก๊าซธรรมชาติในประเทศไทยทั้งหมดในปี 2561

อัตราส่วนหนี้สินที่ต่ำ เพื่อรองรับการลงทุน: ฟิทช์คาดว่าสถานะทางการเงินของ ปตท. จะยังคงแข็งแกร่งและสอดคล้องกับอันดับเครดิตปัจจุบัน ถึงแม้ฟิทช์คาดการว่าอัตราส่วนหนี้สินของบริษัทฯจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากแผนการเข้าซื้อกิจการดังกล่าว และแผนการลงทุนที่สูงขึ้นเพื่อสนับสนุนการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของ ปตท. สผ. ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน (FFO adjusted net leverage) ของปตท. จะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 1.3-1.5 เท่าในปี 2562-2564 จาก 0.7 เท่าในปี 2561 นอกจากนี้ ปตท.สผ. มีเงินสดจำนวนมากประมาณ 4.0 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ณ สิ้นปี 2561 ซึ่งน่าจะเพียงพอสาหรับการเข้าซื้อกิจการนี้ และยังคงมีสถานะเป็น Net Cash อยู่ ปตท.สผ. มีอัตราส่วนหนี้สินต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจาหน่าย (Debt to EBITDA) ในระดับต่าที่ 0.6 เท่า ณ สิ้นปี 2561

การลงทุนที่สูงในระยะปานกลาง: ฟิทช์คาดว่าค่าใช้จ่ายในการลงทุนของบริษัทฯ และบริษัทย่อย น่าจะปรับเพิ่มขึ้นอีกในปี 2562 จากปี 2561 ที่ใช้เงินลงทุน 1.56 แสนล้านบาท เนื่องจากการลงทุนของบริษัทย่อยที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ปตท. ยังมีแผนที่จะลงทุนในธุรกิจใหม่ที่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด เช่น ธุรกิจห่วงโซ่คุณค่าของก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG Value Chain) เทคโนโลยีการกักเก็บพลังงาน (Energy Storage) และ โครงการเมืองอัจฉริยะ (Smart City) เพื่อขยายธุรกิจของบริษัทฯ โดยปตท. ได้กำหนดงบการลงทุนเบื้องต้นที่ประมาณ 1.88 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังไม่มีแผนที่เป็นรูปธรรมที่ชัดเจนสำหรับการลงทุนเหล่านี้

ความเป็นบริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติครบวงจร: อันดับเครดิตของ ปตท. สะท้อนถึงการดำเนินธุรกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติแบบครบวงจร และความมีเสถียรภาพจากการที่ ปตท. มีขนาดธุรกิจกลางน้ำและปลายน้ำที่มีขนาดใหญ่และมั่นคง ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจจำหน่ายและขนส่งก๊าซธรรมชาติ ธุรกิจจำหน่ายปลีกน้ำมัน ธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน และธุรกิจปิโตรเคมี โดยธุรกิจเหล่านี้ช่วยลดผลกระทบจากผลการดำเนินงานของธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่ปรับตัวลดลงมาตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2557

กระแสเงินสดจากการดำเนินงานของธุรกิจก๊าซที่มีความสม่ำเสมอ: สถานะทางการเงินของ ปตท. ได้รับประโยชน์จากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของธุรกิจก๊าซธรรมชาติที่มีความสม่ำเสมอ อันเป็นผลมาจากอุปสงค์ที่มีความมั่นคง และสัญญาการจัดจำหน่ายระยะยาวซึ่งมีการกำหนดปริมาณการซื้อขั้นต่ำจากคู่สัญญาในลักษณะ take-or-pay รวมถึงโครงสร้างราคาที่สามารถส่งผ่านต้นทุนการขายให้แก่ลูกค้าได้ อัตราการทำกำไรของธุรกิจท่อขนส่งก๊าซธรรมชาติ และการขายก๊าซธรรมชาติให้แก่โรงไฟฟ้าและโรงแยกก๊าซ ไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมากนัก อย่างไรก็ตามกำไรจากธุรกิจโรงแยกก๊าซและการขายก๊าซธรรมชาติให้แก่โรงงานอุตสาหกรรม ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่สูงกว่า เนื่องจากการปรับราคาของต้นทุนก๊าซธรรมชาติตามสัญญาการซื้อขายระยะยาว จะช้ากว่าการปรับราคาของราคาผลิตภัณฑ์

แนวโน้มการสนับสนุนจากภาครัฐฯ ต่อปตท. อยู่ในระดับสูง: ฟิทช์มองว่าสัดส่วนการถือหุ้นและการควบคุมของภาครัฐฯ ต่อปตท. อยู่ในระดับปานกลาง โดยรัฐบาลถือหุ้นโดยตรงในปตท. ร้อยละ 51 และมีส่วนในการคัดเลือกคณะกรรมการบริษัทฯ นอกจากนี้ ฟิทช์มองว่าการสนับสนุนจากภาครัฐฯ ต่อปตท. อยู่ในระดับสูง แม้ว่าที่ผ่านมาไม่ได้มีการสนับสนุนทางการเงินให้กับบริษัทฯ เนื่องจากปตท. มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ฟิทช์คาดว่าภาครัฐฯ น่าจะสนับสนุนทางการเงินให้กับปตท. ในกรณีที่บริษัทมีความต้องการ เนื่องจากปตท. มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์และเป็นตัวจักรสำคัญในธุรกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในประเทศไทย

ฟิทช์มองว่าผลกระทบต่อสังคมและการเมืองในกรณีที่ปตท. ผิดนัดชำระหนี้อยู่ในระดับสูง ซึ่งหากเกิดขึ้น ฟิทช์คาดว่าน่าจะมีผลกระทบต่อการจัดหาก๊าซธรรมชาติสำหรับใช้บริโภคภายในประเทศเป็นอย่างมาก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการผลิตไฟฟ้าและความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ นอกจากนี้ฟิทช์คาดว่าการผิดนัดชำระหนี้อาจจะมีผลกระทบอย่างมากต่อการกู้ยืมของภาครัฐฯ และองค์กรที่มีความสัมพันธ์กับภาครัฐฯ อื่นๆ อีกด้วย

จากปัจจัยในการพิจารณาแนวโน้มการสนับสนุนจากภาครัฐฯ ต่อปตท. ข้างต้น ฟิทช์จัดอันดับเครดิตของ ปตท. อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตของประเทศไทย ในกรณีที่สถานะเครดิตโดยลำพังของปตท. ที่ระดับ 'bbb+' ถูกปรับลดลง ปัจจุบัน ฟิทช์ยังไม่ได้นำปัจจัยนี้เข้าไปกำหนดอันดับเครดิตของ ปตท. เนื่องจากสถานะเครดิตโดยลำพังของ ปตท. อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตของประเทศไทย

การกำหนดอันดับเครดิตโดยสรุป

อันดับเครดิตของปตท. สะท้อนถึงความเป็นบริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติครบวงจร ฟิทช์คาดว่าสถานะทางธุรกิจของธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมของบริษัทฯ ที่อ่อนแอเมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่ฟิทช์จัดอันดับเครดิตที่ 'BBB+' จะปรับตัวดีขึ้น แต่การดำเนินธุรกิจแบบครบวงจรไปถึงธุรกิจกลางน้ำและปลายน้ำ รวมถึงธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่มีการผลิตก๊าซธรรมชาติเป็นหลักซึ่งมีความผันผวนที่น้อยกว่า เป็นปัจจัยที่ช่วยสนันสนุนอันดับเครดิตของบริษัทฯ

อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงขนาดธุรกิจที่มีขนาดกลางของบริษัทฯ แม้ว่า ปตท. มีขนาดธุรกิจที่เล็กกว่ามากเมื่อเทียบกับบริษัท China National Petroleum Corporation (อันดับเครดิต A+ แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ) และบริษัท Petroliam Nasional Berhad (PETRONAS, อันดับเครดิต A- แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ) ซึ่งอันดับเครดิตของบริษัททั้งสองถูกจำกัดด้วยอันดับเครดิตของประเทศ ปตท. มีขนาดธุรกิจที่ใหญ่กว่าบริษัท OMV AG (อันดับเครดิต A- แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ) และบริษัท Repsol, S.A. (อันดับเครดิต BBB แนวโน้มเครดิตเป็นบวก) ในด้านรายได้และกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) แต่บริษัทฯ มีปริมาณสำรองน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่ต่ำกว่า เมื่อเทียบกับ OMV ปตท. มีอัตราส่วนทางการเงินที่ใช้ในการพิจารณาอันดับเครดิตอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันกับ OMV แต่ OMV ดำเนินธุรกิจในประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า และเมื่อเทียบกับ Repsol ปตท. มีอัตราส่วนทางการเงินที่แข็งแกร่งกว่า

สมมุติฐานที่สำคัญ

สมมุติฐานที่สำคัญของฟิทช์ที่ใช้ในการประมาณการ

- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ที่ราคา 65 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรลในปี 2562, 62.5 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรลในปี 2563, 60 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรลในปี 2564, 57.5 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรลในปี 2565 และปีถัดๆไป

- ปริมาณการขายของธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 ถึง 8 ต่อปีโดยเฉลี่ย ในปี 2562-2566 (ปี 2561 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2)

- EBITDA จากธุรกิจก๊าซธรรมชาติ และธุรกิจปิโตรเคมีและโรงกลั่นน้ำมันลดลงในปี 2562 แต่ยังคงอยู่ในระดับที่สูง

- ค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนเพิ่มขึ้นในปี 2562-2563 (2561 มีการลงทุนทั้งสิน 1.56 แสนล้านบาท)

- การเข้าซื้อกิจการของ Murphy Oil ในประเทศมาเลเซีย มูลค่า 2.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2562 แต่ไม่รวมการควบรวมและการเข้าซื้อกิจการอื่นๆ

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

ปัจจัยบวก

- การปรับเพิ่มอันดับเครดิตสากลระยะยาวของประเทศไทยโดยที่ความสัมพันธ์ระหว่าง ปตท. และภาครัฐฯ ยังคงเหมือนเดิม

- การปรับเพิ่มอันดับเครดิตโดยลำพังของ ปตท. ไม่น่าจะเกิดขึ้นในช่วง 18-24 เดือนข้างหน้า เนื่องจากความอ่อนแอของธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมโดยเฉพาะสถานะปริมาณสำรองน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ

ปัจจัยลบ

- การปรับลดอันดับเครดิตสากลของประเทศไทย

ปัจจัยที่อาจมีผลต่อการปรับลดอันดับเครดิตโดยลำพังของ ปตท. รวมไปถึง:

- การลงทุนจำนวนมากโดยใช้เงินกู้ยืม หรือ กระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่ต่ำกว่าที่คาด ซึ่งทำให้อัตราส่วนหนี้สินสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งวัดจาก FFO adjusted net leverage ที่สูงกว่า 2.8 เท่า (ปี 2561 อยู่ที่ 0.7 เท่า)

- สถานะทางการเงินของธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท. สผ.) ที่อ่อนแอลง ซึ่งวัดจาก FFO adjusted net leverage ที่สูงกว่า 2.5 เท่า และการที่ปริมาณสำรองน้ำมันและก๊าซธรรมชาติลดลงอย่างต่อเนื่องในระยะสองถึงสามปีข้างหน้า

- การเปลี่ยนแปลงในเรื่องกฎระเบียบ การแก้ไขสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติและการปรับค่าผ่านท่อก๊าซที่ส่งผลกระทบในแง่ลบต่อ ปตท.

สำหรับอันดับเครดิตของประเทศไทย มีปัจจัยที่อาจมีผลกับอันดับเครดิตในอนาคต ซึ่งได้แสดงไว้ในรายงานเครดิตลงวันที่ 7 ธันวาคม 2561 ดังนี้

ปัจจัยบวก:

- ความต่อเนื่องของการเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาโดยไม่ทำให้เกิดการขาดดุล

- การบรรเทาลงของความกดดันทางการเมืองและสังคม ในระดับที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินนโยบายภาครัฐในการบริหารประเทศและดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น

ปัจจัยลบ:

- ความไม่มั่นคงทางการเมืองที่เกิดขึ้นใหม่ในระดับที่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ

- การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องของหนี้สินของรัฐบาล เช่น เนื่องจากฐานะทางการคลังที่แย่ลง หรือการเพิ่มขึ้นอย่างมากของหนี้สาธารณะที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต (contingent liabilities)

สภาพคล่อง

สภาพคล่องที่แข็งแกร่ง: สภาพคล่องของ ปตท. ได้รับการสนับสนุนจากเงินสดที่มีอยู่จำนวนมากถึงประมาณ 4 แสนล้านบาท ณ สิ้นปี 2561 เมื่อเทียบกับหนี้ที่ครบกำหนดชำระในอีก 12 เดือนข้างหน้าจำนวน 8.9 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง และสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ง่าย รวมทั้งบริษัทฯ ยังมีภาระการชำระคืนหนี้ที่บริหารจัดการได้ โดยมีอายุเฉลี่ยของหนี้ที่ครบกำหนดชำระประมาณ 8.4 ปี

รายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดของปตท. มีดังนี้

- คงอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ (International Long-term Foreign-Currency Issuer Default Rating) ที่ระดับ 'BBB+'; แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ

- คงอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินในประเทศ (International Long-term Local-Currency Issuer Default Rating) ที่ระดับ 'BBB+'; แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ

- คงอันดับเครดิตสากลระยะสั้นสกุลเงินต่างประเทศ (International Short-term Foreign-Currency Issuer Default Rating) ที่ระดับ 'F2'

- คงอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ระยะยาวที่ระดับ 'AAA(tha)'; แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ

- คงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ระดับ 'F1+(tha)'

- คงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิที่ระดับ 'AAA(tha)'

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4