TMA โชว์ผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของ IMD เผย ไทยดีขึ้น 3 อันดับในปีนี้

ศุกร์ ๓๑ พฤษภาคม ๒๐๑๓ ๑๑:๕๑
สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA)ซึ่งเป็น Partner Institute กับ World Competitiveness Center แห่งสถาบัน IMD (International Institute for Management Development) ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ในโครงการ World Competitiveness Survey มาตั้งแต่ปี 2540 เผยผลถึงการประกาศผลของ IMD ในการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่างๆรวม 60 ประเทศทั่วโลกประจำปี 2556ซึ่งในปีนี้สหรัฐอเมริกาได้รับการจัดอยู่ในอันดับสูงสุด เลื่อนขึ้นหนึ่งอันดับจากเมื่อปีที่แล้ว รองลงมาได้แก่ สวิสเซอร์แลนด์ซึ่งเลื่อนขึ้นหนึ่งอันดับเช่นกัน ในขณะที่ฮ่องกงซึ่งเคยเป็นอันดับหนึ่งในปีที่แล้วเลื่อนลงอยู่อันดับสาม

สำหรับประเทศไทย ผลการจัดอันดับในปี 2556 ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันอยู่ในลำดับที่ 27 สูงขึ้นจากลำดับที่ 30 ในปี 2555 โดยมีอันดับดีขึ้นในทั้ง 4 หมวดที่ IMD ใช้ในการจัดอันดับ ดังนี้

1. สมรรถนะทางเศรษฐกิจ(Economic Performance) มีการปรับตัวดีขึ้นมากที่สุด โดยดีขึ้นถึง 6 อันดับจากอันดับที่ 15 ในปี 2555 มาเป็นอันดับที่ 9 ในปี 2556 เนื่องมาจากปัจจัยชี้วัดย่อยส่วนใหญ่ปรับตัวดีขึ้นโดยเฉพาะสภาพเศรษฐกิจภายในประเทศ(Domestic Economy)ปรับตัวขึ้นมาเป็นอันดับที่ 14 จากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศภายหลังสถานการณ์น้ำท่วมนอกจากนั้นยังมีการปรับตัวดีขึ้นในด้านการค้าระหว่างประเทศ และการลงทุนระหว่างประเทศและมีการปรับตัวลงเล็กน้อยในด้านการจ้างงานและระดับราคาในประเทศ

2. ประสิทธิภาพของภาครัฐ(Government Efficiency) ได้รับการจัดอันดับดีขึ้น 4 อันดับจากอันดับที่ 26 ในปี2555 มาเป็นอันดับที่22ในปี 2556 เนื่องมาจากปัจจัยย่อยส่วนใหญ่ปรับตัวดีขึ้นได้แก่ นโยบายการคลังกรอบการบริหารด้านสถาบัน ในขณะที่ด้านการเงินภาครัฐปรับตัวลดลง 1 อันดับนอกจากนี้ มีประเด็นที่ยังควรได้รับการปรับปรุงถึงแม้จะมีอันดับที่ดีขึ้นอีก 2 ด้าน ได้แก่ กฎหมายด้านธุรกิจ และกรอบดำเนินการด้านสังคม ที่อยู่ในอันดับที่ 43 และ 48 ตามลำดับ

3. ประสิทธิภาพของภาคธุรกิจ(Business Efficiency)ปรับตัวดีขึ้น 5 อันดับจากอันดับที่ 23 ในปี 2555 มาเป็นอันดับที่ 18 ในปี 2556 โดยมีการปรับตัวดีขึ้นเกือบทุกด้านทั้งทางด้านตลาดแรงงานด้านการเงินและแนวปฏิบัติด้านการบริหารจัดการโดยมีอันดับคงเดิมในด้านทัศนคติและค่านิยม แต่ประเด็นที่ควรได้รับการปรับปรุงคือด้านผลิตภาพและประสิทธิภาพที่ยังคงอยู่ในอันดับค่อนข้างต่ำ (อันดับ 44) ถึงแม้ว่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว

4. โครงสร้างพื้นฐานอันดับของประเทศไทยในหมวดนี้ยังคงอยู่ในระดับต่ำถึงแม้จะปรับตัวดีขึ้น1 อันดับจากอันดับที่49 ในปี 2555 มาเป็นอันดับที่ 48ในปี 2556 โดยเกือบทุกปัจจัยยังอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างต่ำถึงแม้จะปรับตัวดีขึ้นบ้างได้แก่ โครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี(อันดับ 47)การศึกษา (อันดับ 51) และโครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ (อันดับ 40)รวมถึงการเข้าถึงบริการสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมีอันดับลดลงอีก (อันดับที่ 55)

นางพรกนก วิภูษณวรรณ Director, TMA Center for Competitiveness กล่าวว่า “จากผลการจัดอันดับดังกล่าวพบว่าจุดเด่นและจุดด้อยของประเทศไทยในภาพรวมยังคงใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยประเด็นที่ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับค่อนข้างดีได้แก่ ตลาดแรงงานและการจ้างงาน การค้าระหว่างประเทศ และนโยบายการคลัง ส่วนประเด็นที่ยังอยู่ในอันดับต่ำได้แก่ ด้านการเข้าถึงบริการสุขภาพและสิ่งแวดล้อม การศึกษา กรอบการดำเนินการด้านสังคม กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ผลิตภาพและประสิทธิภาพของแรงงานและภาคการผลิต รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีซึ่งถือเป็นประเด็นท้าทายสำหรับประเทศไทย ที่ต้องมีการกำหนดยุทธศาสตร์ในการเสริมสร้างและใช้ประโยชน์จากจุดเด่นรวมทั้งปรับปรุงแก้ไขจุดด้อยเพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขัน”

ด้วยตระหนักถึงความจำเป็นดังกล่าว สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) ที่มีส่วนร่วมกับการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศของ IMD มากว่า 15 ปี จึงได้ริเริ่มโครงการ Thailand Competitiveness Enhancement Program ขึ้นตั้งแต่ปี 2552 โดยร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จัดให้มีการระดมความคิดเห็นจากผู้บริหารทั้งภาครัฐและเอกชนเกี่ยวกับประเด็นปัญหาและข้อเสนอแนะเพื่อนำมาจัดทำยุทธศาสตร์เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยมีการกำหนดแนวทางและบทบาทของทั้งภาครัฐและเอกชนในดำเนินการ และมีการติดตามผล ทบทวนและนำเสนอความคืบหน้าในการสัมมนา Thailand Competitiveness Conference เป็นประจำทุกปี รวมทั้งมีการนำเสนอข้อมูลต่อรัฐบาลเพื่อกำหนดแนวทางในการดำเนินการของภาครัฐ ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายการพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของประเทศไว้ในยุทธศาสตร์ประเทศที่ได้มีการประกาศเมื่อเดือนมกราคม 2556

ด้าน นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธาน TMA กล่าวว่า “TMA เชื่อว่าความสำเร็จในการพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของประเทศจะเกิดขึ้นได้ ทุกภาคส่วนของประเทศทั้งภาครัฐและเอกชนจะต้องดำเนินการอย่างสอดคล้องมุ่งไปในทิศทางเดียวกัน โดยภาครัฐเป็นผู้สร้างปัจจัยสนับสนุนและสร้างสภาพแวดล้อมและกฎกติกาที่ทำให้ภาคเอกชนดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ภาคเอกชนต้องพัฒนาศักยภาพของตนเองให้มีความเข้มแข็ง มีความสามารถในการปรับตัวได้ทันกับสภาพแวดล้อมของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และควรมีหน่วยงานทำหน้าที่ศูนย์กลางในการเชื่อมโยงการดำเนินการของหน่วยงานต่างๆ ทั้งในภาครัฐและเอกชนกับยุทธศาสตร์การพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ซึ่งในภาคเอกชน TMA ได้จัดตั้ง TMA Center for Competitiveness ขึ้น เพื่อประสานและผลักดันการดำเนินการของภาคเอกชนตามยุทธศาสตร์ดังกล่าว โดยมีการเชื่อมโยงกับภาครัฐผ่านสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ทั้งนี้ นอกเหนือจากการประสานผลักดันความร่วมมือในภาคเอกชนแล้วTMA ยังพร้อมสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันขององค์กรด้านความเป็นเลิศในการบริหารจัดการอีกด้วย”

ทั้งนี้ ในปี 2556TMA กำหนดจัดงาน Thailand Competitiveness Enhancement Program 2013 ในวันที่ 11-12 กันยายน 2556 เพื่อนำเสนอความคืบหน้าการดำเนินการตามยุทธศาสตร์การพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยจะมีผู้บริหารของIMD World Competitiveness Center มานำเสนอและวิเคราะห์แนวโน้มความเปลี่ยนแปลงของโลกที่จะมีผลต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รวมทั้งวิเคราะห์ผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในงานดังกล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๔ กทม. เตรียมปรับปรุงพัฒนาระบบการให้บริการงานทะเบียนสำนักงานเขต
๑๗:๑๗ สมาคมเพื่อนชุมชน ส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางลดก๊าซเรือนกระจก
๑๗:๔๑ กทม. เร่งติดตั้งเสา-ตะแกรงรั้วกั้นเกาะกลางถนนวิสุทธิกษัตริย์ที่ถูกรถชนเสียหาย
๑๗:๐๔ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ขอเชิญชวนนักศึกษา และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมงาน M-Sci JOB FAIR 2024 หางานที่ใช่ สร้างงาน สร้างโอกาส วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น. ณ หอประชุม รักตะกนิษฐ
๑๗:๒๘ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอโซลูชั่นดิจิทัลลุยตลาดอาคารอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน
๑๖:๒๙ จิม ทอมป์สัน เผยทิศทางการพา แบรนด์ผ้าเมืองไทย ผงาดเวทีโลก ส่องกลยุทธ์การครีเอตผลงานคุณภาพให้สอดรับเทรนด์สิ่งทอระดับสากล
๑๖:๓๘ อาดิดาสจับมือนักฟุตบอลระดับตำนาน ส่งแคมเปญ 2006 JOSE 10 สร้างแรงบันดาลใจและความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดให้กับเหล่านักฟุตบอลเยาวชนหญิง
๑๖:๑๐ Maison Berger Paris พาชมเครื่องหอมบ้าน 2 คอลเลคชั่นใหม่ MOLECULE และ JOY จัดเต็มเซ็ตของขวัญ ครบทุกรูปแบบความหอม สร้างบรรยากาศหรูหราพร้อมกลิ่นหอมบริสุทธิ์
๑๖:๕๗ กทม. เตรียมระบบเฝ้าระวัง-ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 หลังเทศกาลสงกรานต์
๑๕:๑๕ NCC. ผนึก ททท. ขยายตลาดท่องเที่ยวมูลค่าสูง ชี้ตลาดท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Niche Market) โต ลุยจัดงาน Thailand Golf Dive Expo plus OUTDOOR Fest