ความน่าหลงใหล ประสิทธิภาพการทำงานที่เหนือชั้น และการความหรูหราอย่างมีระดับ รวมตัวกันอยู่ใน : พานาเมร่า เทอร์โบ เอส (Panamera Turbo S)

พฤหัส ๒๑ เมษายน ๒๐๑๑ ๑๐:๒๑
ด้วยความเป็นที่สุดของรุ่นแกรนด์ทัวริสโม่ของรุ่นพานาเมร่า เทอร์โบ เอส (Panamera Turbo S) ใหม่นี้เองจะทำให้ ปอร์เช่ เอจี สามารถกลายมาเป็นผู้นำของตลาดรถยนต์สปอร์ต 4 ที่นั่งแบบหรูหราได้อย่างไม่ต้องสงสัย พานาเมร่า เทอร์โบ เอส (Panamera Turbo S) คันนี้คือการรวบรวมไว้ซึ่งประสิทธิภาพการทำงานที่ทรงพลัง การขับขี่ที่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ ความคล่องตัว และความสะดวกสบายเมื่อยามขับขี่ เครื่องยนต์มีขนาด 4.8 ลิตร V8 Biturbo 550 แรงม้า (410 กิโลวัตต์) ซึ่งหมายถึง 50 แรงม้าที่เพิ่มขึ้นจากรุ่นพานาเมร่า เทอร์โบ (Panamera Turbo) เลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านั้นแรงบิดยังเพิ่มขึ้นจากเดิม 700 นิวตันเมตรเป็น 750 นิวตันเมตรด้วยเช่นกัน และเมื่อผู้ขับขี่ทำการปรับเปลี่ยนเข้าสู่โหมด "Sport" และโหมด"Sport Plus" ที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานใน Sport Chrono Package Turbo และการ kick-down ในโหมดปกติแล้วนั้น เครื่องยนต์ 8 สูบจะสามารถเร่งเครื่องไปได้อย่างเต็มพลังตามการทำงานของฟังก์ชั่น Overboost และนำไปสู่แรงบิดที่สูงสุดถึง 800 นิวตันเมตรได้อย่างเหนือชั้น

ขุมพลังที่เต็มเปี่ยมของพานาเมร่านี้เองที่จะทำให้เกิดบันทึกหน้าใหม่ในการออกตัวรถได้อย่างน่าประทับใจ ซึ่งต้องขอขอบคุณต่อระบบควบคุมการออกตัว (Launch Control) ที่อำนวยให้รถสามารถทะยานจากจุดหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (62 ไมล์ต่อชั่วโมง) ได้ในเวลาเพียงแค่ 3.8 วินาทีเท่านั้น อีกทั้งความเร็วสูงสุดยังสูงถึง 306 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (191 ไมล์ต่อชั่วโมง) เลยทีเดียว และแม้ว่าพานาเมร่ารุ่นท็อปสุดคันนี้จะมีประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้นแต่อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงยังคงอยู่ในระดับเดียวกันกับรุ่นพานาเมร่า เทอร์โบ (Panamera Turbo) ซึ่งเป็นการพัฒนาเครื่องยนต์ให้มีประสิทธิภาพที่เต็มเปี่ยมหากแต่คงไว้ซึ่งความประหยัดตามหลักปรัชญาของปอร์เช่ “ประสิทธิภาพการทำงานอย่างอัจฉริยะของปอร์เช่” (Porsche Intelligent Performance) นั่นเอง ในรูปแบบวงจรการขับขี่แบบ NEDC นั้น แกรนด์ทัวริสโม่คันนี้มีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่แค่เพียง 11.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร และจะประหยัดได้มากขึ้นหากติดตั้งล้อแบบ 19 นิ้วพร้อมยางแบบ all-season ของมิชลินโดยอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงจะอยู่แค่เพียง 11.3 ลิตรต่อ 100 กม. เพียงเท่านั้น

ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นพานาเมร่า เทอร์โบ (Panamera Turbo) มาจากสององค์ประกอบหลักๆ นั่นคือการพัฒนาปรับปรุงเทอร์โบชาร์จ (turbochargers) ด้วยการใช้ก้านแบบไทเทเนียม-อลูมิเนียมและการปรับปรุงการควบคุมเครื่องยนต์ ซึ่งการใช้นวัตกรรมโลหะผสมไททาเนียม-อลูมิเนียมนี้จะช่วยลดน้ำหนักของก้านลง รวมไปถึงล้อคอมเพรสเซอร์ (compressor wheel) และส่งผลให้ช่วงเวลาของความเฉื่อยนั้นน้อยลงและทำให้เกิดการตอบสนองของเครื่องยนต์ดีขึ้นและเพิ่มความคล่องตัวให้มากขึ้นอีกด้วย

สำหรับความเป็นรุ่นที่หรูหราและเด่นที่สุดนี้เองปอร์เช่คันนี้จึงได้รับการติดตั้งอุปกรณ์พิเศษต่างๆมาอย่างครบครัน และเพื่อรักษาแนวคิดความเป็นสปอร์ตของประสิทธิภาพการทำงานของพานาเมร่า (Panamera) ในขั้นสูงระบบการควบคุมการขับขี่ที่คล่องตัวจึงติดตั้งมาเป็นระบบมาตรฐานเช่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่น ระบบการควบคุมตัวถัง (Porsche Dynamic Chassis Control (PDCC)) กับระบบการรักษาเสถียรภาพรถแบบ Active roll stabilization system ทั้ง 2 ระบบนี้จะช่วยให้รถทรงตัวได้ดีเมื่อเข้าโค้ง ดังนั้นจึงเป็นการเพิ่มความคล่องตัวและความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยม ระบบ Porsche Torque Vectoring Plus (PTV Plus) มีผลทำให้เกิดการถ่ายกำลังแรงบิดไปยังล้อหลัง ร่วมกับระบบขับเคลื่อนที่ควบคุมแบบอิเล็กทรอนิคส์ที่ส่งถ่ายกำลังจากเครื่องยนต์ไปเพลาและลงไปยังล้อหลัง และทำให้มั่นใจได้ว่ารถจะเต็มไปด้วยการขับเคลื่อนที่คล่องตัวมากขึ้น ทรงตัวได้ดีขึ้นในทุกๆ สภาวะการขับขี่ ระบบ Servotronic จะควบคุมความเร็วของพวงมาลัย ระบบ Sport Chrono Package Turbo จะทำการปรับระบบช่วงล่างและส่งขุมพลังที่เพิ่มขึ้นและทำให้มีความเป็นสปอร์ตมากขึ้นได้ด้วยการกดปุ่ม “Sport Plus” ซึ่งติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เสริมเพิ่มเติมด้วยระบบท่อไอเสียแบบสปอร์ต (Sports exhaust system) ที่จะเพิ่มความสุนทรีย์ให้กับผู้ขับขี่มากยิ่งขึ้นผ่านเสียงของเครื่องยนต์ได้อีกด้วย

ลักษณะความเป็นสปอร์ตของพานาเมร่า เทอร์โบ เอส (Panamera Turbo S) นั้นไม่ได้ปรากฎแค่เพียงสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ดีเยี่ยมเพียงเท่านั้น หากแต่ยังสะท้อนให้เห็นได้จากรูปลักษณ์ภายนอกเช่นกัน เริ่มต้นจากล้อขนาด 20 นิ้วลาย Turbo II ที่มาพร้อมกับความกว้างของเพลาหลังที่เพิ่มขึ้น ตามมาด้วยกระจังข้างที่ได้รับการออกแบบจาก Porsche Exclusive และสปอร์ยเลอร์หลังสี่ทิศทางสีเดียวกันกับสีภายนอกที่ขยายออกมาเพื่อเพิ่มรูปลักษณ์ของความเป็นสปอร์ตที่สวยงามและโดดเด่น ภายในมีความโดดเด่นและความเป็นสปอร์ตได้ถูกหลอมรวมกันไว้อย่างลงตัวและถูกแสดงออกมาด้วยหนังแบบเบ็จเสร็จ (leather finish) 2 สีที่มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน นั่นคือ สีดำ/ครีม ที่ได้นำเสนอออกมาสำหรับรุ่นพานาเมร่า เทอร์โบ เอส (Panamera Turbo S) หรือเลือกสีเทา/ครีม ได้เช่นกัน

พานาเมร่า เทอร์โบ เอส (Panamera Turbo S) สามารถเริ่มส่งมอบได้ในเดือนมิถุนายน 2011 สำหรับประเทศไทย ท่านสามารถสอบถามเกี่ยวกับรถยนต์ปอร์เช่ พานาเมร่า เทอร์โบ เอส (Panamera Turbo S) ได้จาก บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมบริการ (Service Teams) ที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนีโดยตรง พร้อมให้บริการรถปอร์เช่ของท่าน

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ปอร์เช่ ได้ที่ แผนกขาย โทร. 02-522-6655 ต่อ 101-102 หรือเยี่ยมชมเว็บไซด์ได้ที่ www.porsche.co.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๐๐ DEK ดิจิทัลมีเดีย SPU บุก Thailand Toy Expo 2024 โชว์ผลงานสุดคูล!
๑๖:๕๘ Zoho ยกระดับแอปพลิเคชันทางธุรกิจ ด้วยการทำงานร่วมกันของ Generative AI และ Low-Code
๑๖:๐๓ Dent Talk : Fresh Up Your Knowledge ไม่รู้.ไม่ได้แล้ววว สำนักวิชาทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้า
๑๖:๓๕ โรงแรมเชอราตันหัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปา ต้อนรับนักหมากรุกรวม 300 คน กว่า 50 ประเทศ ในการแข่งขัน Bangkok Chess Club Open ครั้งที่ 21 ประจำปี
๑๖:๓๑ 'Water War Chiang Mai 2024' เทศกาลดนตรีใหญ่ที่สุด เปียกสุด! เดือดสุด! จัดเต็มอย่างยิ่งใหญ่ใจกลางเมืองเชียงใหม่
๑๖:๒๗ TB Media Global จับมือ MQDC จัดกิจกรรมสงกรานต์ The Vibrant Forestias :Sook-San Songkran บนผืนป่าของ The
๑๖:๔๗ SE Life อาคเนย์ประกันชีวิต รับรางวัลแบรนด์ยอดเยี่ยมประจำปี 2023
๑๖:๐๐ โรงพยาบาลหัวเฉียว จัดโครงการธรรมโอสถ บรรยายธรรมะเรื่อง สุขในงานเบิกบานในชีวิต
๑๖:๒๙ หมู่บ้านเกษตรกรรมกำแพงเพชร ต่อยอดความสำเร็จธนาคารน้ำใต้ดิน สร้างความมั่นคงทรัพยากรน้ำ
๑๖:๒๘ คณะดิจิทัลมีเดีย SPU ขอเชิญร่วมกิจกรรมเสวนา หัวข้อ AI Trends Unlock Limitless Creative Potential in Digital