เปิดตัวปอร์เช่ พานาเมร่า (Panamera) ใหม่ สุดยิ่งใหญ่อลังการครั้งแรกในประเทศไทย

จันทร์ ๑๐ ตุลาคม ๒๐๑๖ ๑๕:๔๒
ครั้งแรกในประเทศไทยด้วยความภาคภูมิใจของ บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย สำหรับการประกาศเปิดตัวปอร์เช่พานาเมร่า เทอร์โบ (Panamera Turbo) ใหม่ เพื่อเป็นการนำเสนอข้อมูลอันน่าสนใจของรถสปอร์ต 4 ประตูคันดังกล่าวแด่ สื่อมวลชน, ลูกค้า และกลุ่มเป้าหมายทุกท่าน งานนี้นับเป็นการโหมโรงเพื่อส่งสัญญาณการมาถึงของยนตกรรมสปอร์ตแกรนทัวริ่ง 4 ประตูเจเนอเรชั่นที่ 2 จากปอร์เช่หลังการเปิดตัวครั้งแรกของโลกที่นครเบอร์ลินและการปรากฎโฉมอย่างน่าประทับใจภายในมหกรรมยานยนต์ Paris Motor Show ก่อนหน้าเพียง 1 วัน โรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนีได้นำส่ง พานาเมร่า เทอร์โบ (Panamera Turbo) มายังประเทศไทยด้วยความพิเศษสุด เฉพาะสื่อมวลชนและลูกค้าที่เพื่อรับมอบประสบการณ์อันยอดเยี่ยมจากการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสักขีพยานในการเปิดตัวรถยนต์ 4 ประตูสุดหรูคันนี้ Panamera Sneak Preview คือการประกาศแนะนำตัวอย่างเป็นทางการของยนตกรรม ปอร์เช่ พานาเมร่า เทอร์โบ (Panamera Turbo) ใหม่ ซึ่งมาพร้อมพละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดถึง 550 แรงม้า พานาเมร่า 4เอส (Panamera 4S) พละกำลัง 440 และ พานาเมร่า 4เอส อี-ไฮบริด (Panamera 4 E-Hybrid) พละกำลัง 462 แรงม้า

จากการพัฒนา คิดค้นและปรับปรุงทุกสิ่งขึ้นใหม่ ผลลัพธ์ที่ได้คือปอร์เช่ พานาเมร่า (Panamera) ใหม่ ยอดยนตกรรมสปอร์ตซาลูนที่ก่อกำเนิดขึ้นด้วยการผสมผสานคุณสมบัติที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้วให้รวมเป็นหนึ่งเดียวได้ปรากฎการณ์ใดที่เคยเกิดขึ้นสมรรถนะการขับขี่ที่ตอบสนองในลักษณะของรถสปอร์ตสายพันธุ์แท้ประสานรวมกับความนุ่มนวลสะดวกสบายสูงสุดในรูปแบบของซาลูนหรู ทุกรายละเอียดได้รับการสรรค์สร้างขึ้นตามหลักการอย่างมีแบบแผน ปอร์เช่ พานาเมร่า (Panamera) ใหม่ คือยานยนต์ที่กำหนดมาตรฐานในด้านของสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือระดับยิ่งกว่ารถยนต์ในกลุ่มเดียวกัน เครื่องยนต์และระบบส่งกำลังได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ ระบบตัวถังที่เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบล้ำอนาคตด้วยแนวคิดนวัตกรรมเทคโนโลยีควบคุมฟังก์ชั่นการทำงานด้วยหน้าจอสัมผัส นอกจากนี้งานดีไซน์ของ พานาเมร่า (Panamera) ใหม่ยังสื่อให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกับรถสปอร์ตในตำนานที่มีชื่อเสียงอย่างปอร์เช่ 911 ไม่ว่าจะเป็น เส้นสายตัวถังที่ละม้ายคล้ายคลึงหรือเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่มีอยู่ในยนตกรรมสปอร์ตพันธุ์แท้ของปอร์เช่เท่านั้น

"ปอร์เช่ พานาเมร่า (Panamera) รุ่นแรกเป็นรถยนต์ที่สร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้แก่วงการยานยนต์สปอร์ตซาลูน นับตั้งแต่การเปิดตัวต่อสายตาชาวโลกในปี 2009 ด้วยยอดจำหน่ายที่มากกว่า 150,000 คัน สำหรับทายาทลำดับที่ 2 ของ พานาเมร่า (Panamera) คุณจะพบว่ามันได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อความสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง ทั้งระบบเครื่องยนต์งานออกแบบใหม่ และเทคโนโลยีล้ำยุคมากมาย ดีไซน์ที่สะท้อนให้เห็นถึงภาพลักษณ์ที่ได้รับการสืบทอดจากรถสปอร์ต 911 ในตำนาน ทั้งหมดคือสิ่งที่ทำให้เรามั่นใจว่า ปอร์เช่ พานาเมร่า (Panamera) ใหม่คือรถยนต์ที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของยนตกรรมสปอร์ตซาลูนหรูอย่างแท้จริง" ปีเตอร์ โรห์เวอร์ กรรมการผู้จัดการ ปอร์เช่ ประเทศไทย กล่าว

เครื่องยนต์ V6 และ V8 biturbo ใหม่

ส่วนผสมที่ลงตัวของประสิทธิภาพการทำงานและสมรรถนะที่เหนือชั้นพร้อมนวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากปอร์เช่เครื่องยนต์ V6 และ V8 biturbo ซึ่งได้รับการคิดค้นและพัฒนาขึ้นสำหรับติดตั้งลงใน พานาเมร่า (Panamera) ใหม่โดยเฉพาะ ขุมพลังทุกขนาดความจุนั้นล้วนแล้วแต่ผ่านการยกระดับให้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นทั้งในแง่ของพละกำลังสูงสุดที่มากยิ่งขึ้นแต่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ที่ต่ำ เมื่อเครื่องยนต์ชั้นเลิศประจำการร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะคลัทช์คู่ 8 จังหวะ หรือ PDK II จึงไม่น่าแปลกใจที่จะให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่าถึง 16 เปอร์เซ็นต์เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์ในรุ่นก่อน เครื่องยนต์ biturbo direct injection ทั้ง 2 รุ่นได้รับการติดตั้งลงในปอร์เช่ พานาเมร่า (Panamera) ใหม่ซึ่งประกอบด้วย พานาเมร่า เทอร์โบ (Panamera Turbo) , พานาเมร่า 4เอส (Panamera 4S) ครั้งแรกสำหรับการติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อหรือ permanent all-wheel drive system และเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 8 จังหวะ PDK ใหม่ลงใน พานาเมร่า (Panamera) โดยเครื่องยนต์เบนซิน V8 ให้พละกำลังสูงสุดถึง 550 แรงม้า/404 กิโลวัตต์ ประจำการอยู่ในพานาเมร่า เทอร์โบ (Panamera Turbo) และเครื่องยนต์เบนซิน V6 พละกำลัง 440 แรงม้า/324 กิโลวัตต์ ประจำการอยู่ใน พานาเมร่า 4เอส (Panamera 4S)

ปอร์เช่ พานาเมร่า เทอร์โบ (Panamera Turbo) คือรุ่นที่ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินอันทรงพลังที่สุดในรุ่น พานาเมร่า (Panamera) จากสมรรถนะของขุมพลังขนาดความจุ 4.0 ลิตร biturbo V8 สามารถผลิตกำลังสูงสุดได้ถึง 550 แรงม้า/404 กิโลวัตต์ (ที่ 5,750 รอบต่อนาที) และให้แรงบิดสูงสุดถึง 770 นิวตันเมตร (ที่ 1,960 ถึง 4,500 รอบต่อนาที) เพิ่มขึ้นถึง 30 แรงม้า รวมทั้งแรงบิดสูงสุดเพิ่มขึ้นถึง 70 นิวตันเมตร เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นเดิม เครื่องยนต์ 8 สูบดังกล่าวทำให้ปอร์เช่ พานาเมร่า เทอร์โบ (Panamera Turbo) มีอัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่งไปยังความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลาเพียง 3.8 วินาที และ 3.6 วินาทีเมื่อได้รับการติดตั้งชุดแต่งสปอร์ต โครโน (Sport Chrono Package) พานาเมร่า เทอร์โบ (Panamera Turbo) ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 306 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตัวเลขของสมรรถนะที่ได้นั้นแสดงให้เห็นถึงอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนัก (power-to-weight ratio) ที่ดีเยี่ยมในระดับ 3.6 กิโลกรัมต่อแรงม้า

อันเป็นผลทำให้เครื่องยนต์มีภาระในการแบกรับน้ำหนักน้อยลงและนำพาตัวรถให้พุ่งทะยานไปข้างหน้าได้อย่างไร้ขีดจำกัด พร้อมสมรรถนะชั้นเลิศ เครื่องยนต์ของ พานาเมร่า เทอร์โบ (Panamera Turbo) ให้ประสิทธิภาพในการประหยัดอย่างเหลือเชื่อด้วยอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยเพียง 10.6 – 10.7 กิโลเมตรต่อลิตร (9.4-9.3 ลิตร/100 กิโลเมตร) เป็นตัวเลขที่ดีขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นเดิมถึง 1.1 ลิตรต่อระยะทาง100กิโลเมตร (ทดสอบตามมาตรฐาน New European Driving Cycle หรือ NEDC) ยิ่งไปกว่านั้นยังปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ Co2 emissions ในอัตราเพียง 214 – 212 กรัมต่อกิโลเมตร

อีกรุ่นของปอร์เช่ พานาเมร่า (Panamera) คือรุ่น พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด (Panamera 4 E-Hybrid) ซึ่งได้รับการติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เปี่ยมด้วยศักยภาพในการเดินทางด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้เป็นระยะทางถึง 50 กิโลเมตร ให้กำลังสูงสุดถึง 462 แรงม้า (340 กิโลวัตต์) จากการทำงานร่วมกันของเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่น่าอัศจรรย์ในระดับ 40 กิโลเมตรต่อลิตร (2.5/100 กิโลเมตร) ตามมาตรฐานการทดสอบอัตราการบริโภคเชื้อเพลิงของยานพาหนะ plug-in hybrid ของ NEDC ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ (Co2) ในอัตราที่ต่ำเพียง 56 กรัมต่อกิโลเมตร รถยนต์ปอร์เช่ รุ่น plug-in hybrid ใหม่ล่าสุดคันนี้สามารถออกสตาร์ทได้ด้วยพลังงานจากระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวและเดินทางต่อเนื่องได้เป็นระยะทางถึง 50 กิโลเมตร ในฐานะของยานพาหนะที่ปราศจากมลภาวะความเร็วสูงสุด 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อรับหน้าที่ในการถ่ายทอดแรงบิดมหาศาลกว่า 700 นิวตันเมตรลงสู่พื้นถนนได้อย่างสมบูรณ์ นำพาตัวรถทำความเร็วสูงสุดทะลุ 278 กิโลเมตรได้อย่างง่ายดาย รถสปอร์ต 4 ประตู hybrid คันนี้มีอัตราเร่งจากจุดสตาร์ทไปที่ความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในระยะเวลาเพียง 4.6 วินาทีเท่านั้น ซึ่งทั้งหมดมาพร้อมประสิทธิภาพในการบังคับควบคุมและยึดเกาะถนนเป็นเยี่ยมด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อและระบบช่วงล่างแบบถุงลม three-chamber air suspension เพื่อให้ผู้ขับขี่มั่นใจในเสถียรภาพการทรงตัวเฉกเช่นรถสปอร์ต ในขณะเดียวกันยังกับการได้รับความนุ่มนวลสะดวกสบายในทุกเส้นทางตามนิยามของซาลูนสุดหรูหรา

เอกลักษณ์ของงานดีไซน์ที่ได้รับการถ่ายทอดจากปอร์เช่ 911ส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างสมรรถนะและความสะดวกสบาย

เพียงแรกสัมผัสด้วยสายตา หัวใจหลักในการออกแบบที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวของปอร์เช่ถูกสะท้อนให้เห็นอย่างเด่นชัดในงานดีไซน์ที่น่าประทับใจ พานาเมร่า (Panamera)ใหม่ที่เต็มไปด้วยความสมบูรณ์แบบ รถสปอร์ตที่ปราศจากข้อผิดพลาด เส้นสายของตัวถังที่พลิ้วไหวไร้จุดสิ้นสุด แนวซุ้มล้อที่บ่งบอกถึงความแข็งแกร่ง แนวหลังคาด้านหลังที่ลดระดับความสูงลงต่ำกว่าเดิมถึง 20 มิลลิเมตร ให้มุมมองที่บ่งบอกถึงลักษณะความพร้อมจะพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณจะสามารถพบเห็นได้จากสุดยอดรถสปอร์ตแห่งตำนาน ปอร์เช่ 911

เพิ่มขีดความสามารถทั้งสมรรถนะการขับขี่และความนุ่นนวลสะดวกสบาย ปอร์เช่ พานาเมร่า (Panamera) ใหม่ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกหลากหลาย อาทิ ระบบช่วงล่างแบบถุงลม three-chamber air suspension ระบบช่วยเลี้ยวล้อหลัง rear axle steering และระบบควบคุมการทำงานของตัวถัง electronic 4D Chassis Control รวมไปถึงระบบช่วยเหลือล้ำสมัยอีกมากมายที่เพิ่มทั้งความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

ปอร์เช่ยังได้นำนวัตกรรมแนวคิดใหม่ในการควบคุมฟังก์ชั่นการทำงานของตัวรถผ่านหน้าจอแสดงผลความละเอียดสูง ติดตั้งลงในยนตกรรม แกรน ทัวริ่ง เจเนอเรชั่นที่ 2 คันนี้อีกด้วย นั่นคือ ระบบ Porsche Advanced Cockpit ซึ่งมีหลักการทำงานที่ไม่แตกต่างจากสมาร์ทโฟนโดยผู้ใช้สามารถควบคุมการทำงานของฟังก์ชั่นต่างๆ ผ่าน Interfaces และปรับตั้งค่าผ่านหน้าจอสัมผัส LED ความละเอียดสูงได้อย่างง่ายดาย

ปอร์เช่ ประเทศไทย โดยบริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการ ได้สร้างความเชื่อมั่นในด้านการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าปอร์เช่ทุกท่าน ด้วยทีมวิศวกรผ่านการทดสอบระดับเหรียญทอง (ZPT3 Gold Theory Test & Recertification) ถึง 10 คน ซึ่งถือว่ามีจำนวนมากที่สุดของศูนย์รถยนต์ปอร์เช่ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคทั้งหมด 13 ประเทศ สะท้อนถึงการให้ความสำคัญในเรื่องการให้บริการหลังการขายของ เอเอเอส โดยทุ่มเทงบการอบรมวิศวกรของเราให้มีคุณภาสูงสุดตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า "เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ" "AAS Looking after YOU and your CAR" เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า AAS The Name you can Trust ซึ่งได้พิสูจน์ให้ท่านเห็นแล้วตลอดระยะเวลาดำเนินการมากกว่า 30 ปี

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Porsche Centre Bangkok ถ.วิภาวดีรังสิตโทร. 02-522-6655

Porsche Centre Pattanakarn ถ.พัฒนาการโทร. 02-369-1111

Porsche City Showroom Siam Paragon ชั้น 2 โทร. 02-610-9911

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๒:๑๔ องค์การบรรจุภัณฑ์โลก จับมือ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ร่วมจัดกิจกรรมสัมมนาออนไลน์
๑๒:๑๒ การแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลรายการ King Power International Ladies' Polo Tournament 2024
๑๒:๔๔ DEXON ปักธงรายได้ปี 67 ทะลุ 700 ลบ. โชว์ Backlog เฉียด 280 ลบ. ล็อคมาร์จิ้น 35-40%
๑๒:๑๐ JPARK ร่วมงาน Dinner Talk ผู้บริหารจดทะเบียนพบนักลงทุน จ.ราชบุรี
๑๒:๒๓ นีเวีย ซัน และ วัตสัน จับมือต่อปีที่สองชวนดูแลท้องทะเล กับโครงการ เพราะแคร์ จึงชวนแชร์ ร่วมพิทักษ์รักษ์ทะเลไทย
๑๒:๕๗ Cloud เทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัว เพียงแค่คุณไม่รู้เท่านั้นเอง
๑๒:๒๘ โรยัล คานิน ร่วมกับ เพ็ทแอนด์มี จัดงาน Royal Canin Expo 2024: PAWRENTS' DAY เพื่อสร้างโลกที่ดีขึ้นสำหรับน้องแมวและน้องหมา
๑๒:๑๐ STEAM Creative Math Competition
๑๒:๔๔ A-HOST ร่วมวาน MFEC Inspire ขึ้นบรรยายพร้อมจัดบูธ Cost Optimization Pavilion
๑๒:๔๗ ฟินเวอร์! ส่องความคิ้วท์ 'ฟอส-บุ๊ค' ควงคู่ร่วมงาน Discover Thailand เสิร์ฟโมเมนต์ฉ่ำให้แฟนๆ ได้ดับร้อนกันยกด้อมรับซัมเมอร์ และร่วมส่งต่อความสุขในกิจกรรม 'Exclusive Unseen Food Trip กับ คู่ซี้