ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI ผู้นำการสร้างสรรค์สื่อนวัตกรรมยานยนต์และการจัดกิจกรรมครบวงจรเพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสู่นานาชาติ เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2561 (ม.ค. – มี.ค. 2561) สามารถสร้างการเติบโตได้เป็นที่น่าพอใจเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า โดยมีกำไรสุทธิ 119.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 94.51 ล้านบาท และยังเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่มีผลการดำเนินงานขาดทุน เช่นเดียวกับรายได้จากการขายและบริการที่ทำได้ 354.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายและบริการ 301.49 ล้านบาท และสูงกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่มีรายได้จากการขายและบริการ 143.49 ล้านบาท
ปัจจัยการเติบโตมาจากผลการดำเนินงานกลุ่มธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้าและกิจกรรมและกลุ่มธุรกิจรับจ้างพิมพ์ที่เติบโตได้ดี โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้าและกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการรับรู้รายได้บางส่วนจากการจัดงาน Bangkok International Motor Show 2018 ซึ่งจัดตรงกับวันที่ 26 มีนาคม - 8 เมษายนที่ผ่านมา หลังบริษัทฯ ปรับขึ้นค่าบริการพื้นที่ 7% และกลุ่มธุรกิจรับจ้างพิมพ์ที่มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการได้รับงานพิมพ์ ส.ค.ส.ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา
"ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของปีนี้สะท้อนถึงการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ โดยนอกจากการที่บริษัทฯ มุ่งเน้นสร้างรายได้เพิ่มขึ้นแล้ว ในขณะเดียวกันเราได้มุ่งเน้นการบริหารต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่ายในทุกกลุ่มธุรกิจ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ถือว่าน่าพอใจ ส่งผลดีให้เราสามารถสร้างการเติบโตได้ตามเป้าหมาย" ดร.ปราจิน กล่าว
จากผลการดำเนินงานที่ดี ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ จึงมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากงวดผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2561 ในอัตรา 0.15 บาทต่อหุ้น กำหนดปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินปันผลในวันที่ 25 พฤษภาคมและกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 7 มิถุนายนนี้
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GPI กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าผลักดันผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเพิ่มรายได้จากธุรกิจที่ดำเนินงานในปัจจุบันและมองโอกาสขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเพื่อสร้างรายได้เพิ่มขึ้น โดยผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/61 จะได้รับผลดีจากการรับรู้รายได้จากการจัดงาน Bangkok International Motor Show 2018 ส่วนที่เหลืออีก 8 วัน (1 - 8 เม.ย. 2561) ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยหลักที่จะผลักดันการเติบโตให้แก่ GPI
นอกจากนี้ บริษัทฯ ประเมินว่าจะได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของภาพรวมอุตสาหกรรมการผลิตและจำหน่ายยานยนต์ทั้งในประเทศและการส่งออก ซึ่งสะท้อนจากยอดจองรถภายในงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ที่สูงกว่าปีก่อนและการกำหนดเป้าหมายการผลิตรถเพิ่มขึ้นของค่ายผู้ประกอบการยานยนต์ต่างๆ ที่จะเป็นปัจจัยบวกต่อโอกาสการขายพื้นที่โฆษณาในสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อออนไลน์เพิ่มขึ้น โดยบริษัทฯ ยังคงกำหนดเป้าหมายรายได้ในปีนี้เติบโตขึ้นประมาณ 10 - 15% และรักษาอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดี