คอนติเนนทอลประกาศปรับโครงสร้างแยกธุรกิจ Powertrain

พฤหัส ๐๒ สิงหาคม ๒๐๑๘ ๑๑:๑๐
ดร. เอลมาร์ ดีเกนฮาร์ท ประธานกรรมการบริหารของคอนติเนนทอล บริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีอัจฉริยะสำหรับผู้ใช้ยานยนต์ ประกาศการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่เพื่อให้บริษัทดำเนินงานได้คล่องตัวมากขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต โดยล่าสุดทางบริษัทฯ มีการแบ่งธุรกิจหลักออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ด้วยกัน คือ คอนติเนนทอล รับเบอร์ (Continental Rubber) คอนติเนนทอล ออโตโมทีฟ (Continental Automotive) และระบบขับเคลื่อน (Powertrain) โดยทั้งสามกลุ่มธุรกิจดังกล่าวจะยังคงอยู่ภายใต้บริษัทหลัก คือ คอนติเนนทอล เอจี การปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรใหม่มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

กลุ่มธุรกิจระบบขับเคลื่อน (Powertrain) จะแยกออกเป็นอิสระจากกลุ่มธุรกิจหลักออโตโมทีฟ โดยชื่อบริษัทใหม่จะมีการประกาศในช่วงต้นปี 2562 ในขณะเดียวกันก็จะมีการเสนอขายหุ้น (IPO) บางส่วนเพื่อการระดมทุนในการดำเนินธุรกิจต่อไป ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเริ่มช่วงกลางปี 2562

กลุ่มธุรกิจหลักคอนติเนนทอล ออโตโมทีฟ จะปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่โดยจากเดิมที่มีกลุ่มธุรกิจช่วงล่างและความปลอดภัย (Chassis & Safety) และกลุ่มธุรกิจอุปกรณ์ภายในรถยนต์ (Interior) ในช่วงต้นปี 2563 ทั้งสองกลุ่มธุรกิจจะมีชื่อใหม่ คือ เทคโนโลยีระบบขับขี่อัตโนมัติ (Autonomous Driving Technologies) และเทคโนโลยีระบบเชื่อมต่อยานยนต์ (Vehicle Networking Technologies) โดยทั้งสองกลุ่มธุรกิจจะได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานส่วนกลางศูนย์วิจัยและพัฒนาออโตโมทีฟ

กลุ่มธุรกิจหลักคอนติเนนทอล รับเบอร์ ยังคงมีกลุ่มธุรกิจยางรถยนต์ และกลุ่มธุรกิจยางเฉพาะทางอิลาสโทเมอร์เหมือนเดิม

นอกจากนี้ ดร. ดีเกนฮาร์ท กล่าวว่า "การปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรในครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของคอนติเนนทอล เรามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบขับขี่แห่งอนาคตอย่างเต็มรูปแบบและเต็มความสามารถ ด้วยความพร้อมและศักยภาพของคอนติเนนทอล ทำให้เรามีความสามารถในการแข่งขันทางการตลาดสูง ซึ่งการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้จะทำให้เรามีความยืดหยุ่นและความคล่องตัวมากขึ้นในการเผชิญกับความท้ายทายใหม่ๆ และยังคงความสามารถทางการแข่งขันทั้งในปัจจุบันและในอนาคต รวมถึงเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีอัจฉริยะสำหรับผู้ใช้ยานยนต์ ในอีกสิบปีต่อจากนี้ไปอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบประวัติศาสตร์กว่า 130 ปี คอนติเนนทอลจึงเล็งเห็นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ทันการเปลี่ยนแปลงของโลกอุตสาหกรรมยานยนต์ตั้งแต่เริ่มต้น ด้วยความแข็งแกร่งและความเชื่อมั่น คอนติเนนทอลจึงเป็นผู้แต่งแต้มอนาคตและผู้นำการเปลี่ยนแปลงทางด้านอุตสาหกรรมยานยนต์มาโดยตลอด"

คอนติเนนทอล เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะสำหรับผู้ใช้ยานยนต์ และผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ชั้นนำ ในฐานะพันธมิตรที่เชื่อถือได้ ผู้จัดจำหน่ายยานยนต์ระหว่างประเทศ ผู้ผลิตยางคุณภาพ และคู่ค้าทางธุรกิจในภาคอุตสาหกรรม คอนติเนนทอลนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีความปลอดภัยสูง พร้อมความสะดวกสบาย ปรับการใช้งานได้ตามความต้องการ และราคาเหมาะสม คอนติเนนทอลประกอบไปด้วยธุรกิจ 5 กลุ่ม คือ ธุรกิจช่วงล่างและความปลอดภัย ธุรกิจอุปกรณ์ภายในรถยนต์ ธุรกิจระบบขับเคลื่อน ธุรกิจยางรถยนต์ และธุรกิจยางเฉพาะทางอิลาสโทเมอร์ ซึ่งมียอดขายรวม 44 พันล้านยูโรในปี 2560 ปัจจุบัน คอนติเนนทอลมีพนักงานกว่า 240,000 คนใน 61 ประเทศทั่วโลก

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๒:๓๖ โรงพยาบาลพระรามเก้า คว้ารางวัล Digital Transformation Initiative of the Year 2024 จากเวที Healthcare Asia Awards
๑๒:๐๐ กลับมาอีกครั้งกับงานช้อปอย่างมีสไตล์ รายได้เพื่อชุมชน ครั้งที่ 14 เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ ติวานนท์ ชวนมาช้อป ชม ของดี ของเด็ดประจำจังหวัดปทุมธานี ระหว่าง 4 - 10
๑๒:๓๙ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ สนับสนุนพื้นที่ กรมพลศึกษา จัดแข่งขันกีฬากระบี่กระบองระหว่างโรงเรียน กิจกรรมสร้างสรรค์เสริมทักษะเยาวชน ส่งเสริม SOFT POWER
๑๑:๑๕ TOA ย้ำแชมป์สีเบอร์หนึ่ง คว้า 2 รางวัลใหญ่ 'สุดยอดองค์กร และแบรนด์สีที่ผู้บริโภคเชื่อมั่นมากที่สุด' 13 ปีซ้อน Thailand's Most Admired Company Brand ปี
๑๑:๔๒ ไทยพีบีเอสยกระดับรู้เท่าทันภัยออนไลน์ ผนึกกำลัง 8 หน่วยงาน ป้องกัน-กวาดล้างอาชญากรรมไซเบอร์
๑๑:๕๘ ศิษย์เก่าวิศวฯ SPU กว่า 5 ทศวรรษ ร่วมย้อนวันวานในงาน วิศวฯ คืนถิ่น SEAN HOMECOMING 2024
๑๑:๑๓ เฮงลิสซิ่ง ร่วมสืบสานประเพณีท้องถิ่น ฉลองวันแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี ประจำปี 2567
๑๑:๔๕ YouTrip สาดความคุ้มต้อนรับสงกรานต์กับ 2 โปรพิเศษ 4.4 Travel Sale และ Japan Mega Cashback รับส่วนลดสุดคุ้มจากแบรนด์ท่องเที่ยวดัง และเงินคืนสูงสุด 2,000
๑๑:๕๒ คณะเศรษฐศาสตร์ ม.รามคำแหง เชิญเข้าร่วมงานสัมมนาวิชา อนาคตเศรษฐกิจไทย: ยืดหยุ่นและยั่งยืน
๑๑:๑๐ เจแอลแอล ประเทศไทย เผยเทรนด์ ESG ของปี 2567 และเป้าหมายสู่อุตสาหกรรมสีเขียวของวงการอสังหาฯ