“เมอร์เซเดส-เบนซ์” สานต่อ “Mercedes me” จับมือ “วันเดอร์ฟรุ๊ต” ชวนเหล่าวันเดอเรอร์สัมผัสมิติใหม่ของการนำเสนอประสบการณ์ด้านไลฟ์สไตล์จากแบรนด์ยนตรกรรมระดับโลก

ศุกร์ ๐๗ ธันวาคม ๒๐๑๘ ๑๕:๓๓
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ชูแนวคิด "คัสตอมเมอร์ เซ็นทริค" (Customer Centric) เดินหน้ามอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า และกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง พร้อมสานต่อ "เมอร์เซเดส มี" (Mercedes me) โกลบอล เอ็กซ์พีเรียนซ์ แพลตฟอร์ม ที่มุ่งสร้างประสบการณ์ตรงระหว่างแบรนด์กับลูกค้า และกลุ่มเป้าหมายผ่านกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ ล่าสุดร่วมมือกับ "วันเดอร์ฟรุ๊ต"(Wonderfruit) เฟสติวัลระดับโลกโดยคนไทย แสดงเจตนารมณ์ในการร่วมสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นในสังคม ผ่านกิจกรรมสุดสร้างสรรค์ทั้งศิลปะ ดนตรี และอาหาร ที่เน้นย้ำเรื่องความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในทุกรายละเอียด ให้เหล่าวันเดอเรอร์จากทั่วโลก ได้สัมผัสกันอย่างเต็มอิ่มระหว่างวันที่ 13-16 ธันวาคมนี้ ณ เดอะ ฟิลด์ แอท สยามคันทรี คลับ

มร. โรลันด์ เซบาสเตียน โฟลเกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ในปีนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังคงให้ความสำคัญกับแนวคิด 'Customer Centric' ที่เน้นให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลางในทุกมิติ ทั้งการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงสานต่อกลยุทธ์ 'Best Customer Experience' อันเป็นนโยบายหลักที่ผสานแนวทางด้านการตลาด การขาย และการบริการหลังการขายเข้าไว้ด้วยกัน โดย 'Mercedes me' เป็นหนึ่งในโกลบอล เอ็กซ์พีเรียนซ์ แพลตฟอร์ม ที่สะท้อนจิตวิญญาณของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในการนำเสนอนวัตกรรม และประสบการณ์รูปแบบใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภคอยู่เสมอ"

"และเพื่อเป็นการสานต่อ 'Mercedes me' ล่าสุด เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ 'วันเดอร์ฟรุ๊ต' (Wonderfruit) เฟสติวัลระดับโลกที่จัดขึ้นโดยคนไทย ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สะท้อนถึงแนวคิดที่ต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคมด้วยการใช้ศิลปะเป็นสื่อกลางในการสร้างชุมชนแห่งความยั่งยืน นำเสนอในรูปแบบของไลฟ์สไตล์เฟสติวัลที่ช่วยให้ทุกคนได้เข้าถึงแนวคิดด้านความยั่งยืน และตระหนักถึงการสร้างประโยชน์ให้กับโลกใบนี้มากขึ้น ซึ่งจากแนวคิดดังกล่าวสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยสร้างความยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ การเปิดตัวแบรนด์เทคโนโลยี 'EQ – Electric Intelligence by Mercedes-Benz' เพื่อปูทางไปสู่การขับขี่แบบปลอดการปล่อยไอเสีย หรือซีโร่ อีมิชชั่น (Zero Emission) โดยการร่วมมือกับวันเดอร์ฟรุ๊ตในครั้งนี้ 'เมอร์เซเดส-เบนซ์' ถือเป็นแบรนด์ยนตรกรรมแบรนด์แรก และแบรนด์เดียว ที่ร่วมสื่อสารถึงเจตนารมณ์ในการสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นในสังคมผ่านการใช้โกลบอล เอ็กซ์พีเรียนซ์ แพลตฟอร์มอย่าง 'Mercedes me' ในการถ่ายทอดประสบการณ์สร้างสรรค์ที่ดีที่สุด ด้วยรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งยังตอบความต้องการในทุกไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงใจ" มร. โรลันด์ กล่าวเสริม

มร.ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "Mercedes me เป็นเสมือนจุดเชื่อมต่อของประสบการณ์ที่จะให้เมอร์เซเดส-เบนซ์ สร้างปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายทั้งกลุ่มที่เป็นลูกค้าและบุคคลทั่วไปให้รู้สึกใกล้ชิดกับแบรนด์ได้มากขึ้น ด้วยการนำเสนอประสบการณ์ที่ดีที่สุด ผ่านอาหาร ศิลปะ และดนตรีภายใต้คอนเซปต์ที่โดดเด่น ตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่เปี่ยมไปด้วยพลัง และความคิดสร้างสรรค์ สะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานใหม่ของการมอบประสบการณ์ ที่ตอบโจทย์ให้กับลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี โดยกิจกรรมที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จัดขึ้นภายใต้แพลตฟอร์ม Mercedes me ล้วนได้รับการตอบรับและถูกพูดถึงในวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็นการเปิดช็อกโกแลตบาร์แห่งแรกของเมืองไทย ไปจนถึงการเปิดสไตลิช ลีฟวิ่ง สเปซ ที่ใหญ่ ที่สุดใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นการรวบรวม "สิ่งที่ดีที่สุด" ในหลากหลายด้านไว้ในที่เดียว ซึ่งผลตอบรับต่างๆ ดังจะเห็นได้จากยอดผู้เข้าใช้บริการตลอดระยะเวลากว่า 4เดือนที่เปิดให้บริการมีผู้สนใจเข้ามารับประทานอาหาร และเยี่ยมชมร้านมากกว่า 20,000 คน อีกทั้งยังมีการติดแฮชแท็กและเช็คอินผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียทั้งในเฟซบุ๊คและอินสตาแกรมกว่า 5,000 ครั้ง การร่วมมือกับวันเดอร์ฟรุ๊ตในครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสดีที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ จะได้สร้างปรากฎการณ์ด้านไลฟ์สไตล์ เพื่อมอบประสบการณ์แปลกใหม่และความประทับใจให้กับผู้บริโภคอีกครั้ง"

"สำหรับไฮไลท์ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ เตรียมมอบให้กับเหล่าวันเดอเรอร์จากทั่วโลกที่เตรียมเข้าร่วมงานในครั้งนี้ คือ "me @SOT" (มี แอท เอสโอที) เออร์เบิน สเปซ ที่รวบรวมที่สุดของประสบการณ์ไลฟ์สไตล์แบบคนเมืองมาให้เหล่าวันเดอร์เรอร์ได้สัมผัสกันอย่างเต็มอิ่มตลอดโปรแกรมการจัดงาน มีการออกแบบพื้นที่จัดงานโดยผสานศิลปะแบบ "อานามอร์ฟิค" (Anamorphic installation) ศิลปะลวงตาที่จะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ที่มาสัมผัส ตลอดจนการนำเสนอ Signature Menu by 'me' เมนูอาหารและเครื่องดื่มสุดพิเศษที่รังสรรค์ขึ้นโดยเชฟจากกลุ่มร้านอาหารชื่อดังย่านทองหล่อ ที่สร้างสรรค์ขึ้นสำหรับงานวันเดอร์ฟรุ๊ตโดยเฉพาะ รวมถึงการแสดงดนตรีจากเหล่าศิลปินชื่อดังหลากหลายแนวของเมืองไทยและต่างประเทศ อาทิ TWOPEE Southside ภูมิ-วิภูริศ ศิริทิพย์ (Phum Viphurit) Kweku Collins และ Skratch Bastid เป็นต้น" มร.ฟรังค์ กล่าวสรุป

งาน 'วันเดอร์ฟรุ๊ต 2018' จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 13-16 ธันวาคมนี้ ณ เดอะฟิลด์ แอท สยามคันทรี คลับ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถซื้อบัตรเข้าร่วมงานได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อบัตร และการจองที่พักได้ที่เว็บไซต์ของวันเดอร์ฟรุ๊ต www.wonderfruit.co

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4