เมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในอินสตาแกรม มียอดไลก์ในอินสตาแกรมแล้วถึง 1 พันล้านไลก์

จันทร์ ๑๗ ธันวาคม ๒๐๑๘ ๑๘:๐๙
เมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในอินสตาแกรม

เมอร์เซเดส-เบนซ์มียอดไลก์ในอินสตาแกรมแล้วถึง 1 พันล้านไลก์

เมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นแบรนด์ที่มียอดไลก์สูงที่สุดในอินสตาแกรมจากการสำรวจ "อินเตอร์แบรนด์ เบสท์ โกลบอล แบรนด์ส 2018 (Interbrand Best Global Brands 2018)"

- บัญชีอินสตาแกรมทางการของเมอร์เซเดส-เบนซ์ทุกช่องทางมีผู้ติดตามรวมกันกว่า 35 ล้านคนทั่วโลก

- ในโอกาสพิเศษนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์จึงขอบคุณผู้สนับสนุนทุกท่านด้วยการนำเสนอทั้งเว็บไซต์พิเศษและจัดตั้งนิทรรศการที่พิพิธภัณฑ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ในเมืองชตุทท์การ์ท

เมอร์เซเดส-เบนซ์สร้างปรากฏการณ์แห่งความสำเร็จครั้งสำคัญในอินสตาแกรม จากการสำรวจ "อินเตอร์แบรนด์ เบสท์ โกลบอล แบรนด์ส2018" ครั้งล่าสุดที่จัดทำโดย ที4 มีเดีย (T4 Media) บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลดิจิทัลชื่อดัง ซึ่งผลการสำรวจที่เผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ https://t4media.de/onebillionlikes/ เปิดเผยว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นแบรนด์ที่มียอดไลก์ในอินสตาแกรมอย่างเป็นทางการสูงถึง 1 พันล้านไลก์ และเป็นแบรนด์แรกที่สามารถทำสถิตินี้ได้ในบรรดาแบรนด์ระดับโลกที่ดีที่สุดแห่งปี 2018 (Best Global Brands 2018) ตามการจัดอันดับของอินเตอร์แบรนด์ ที่เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านแบรนด์ชั้นนำของสหรัฐฯ ซึ่งในโอกาสพิเศษนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์จึงจัดนิทรรศการแสดงภาพถ่ายที่พิพิธภัณฑ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ เมืองชตุทท์การ์ท เพื่อนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจต่างๆ ในสื่อออนไลน์ของบริษัทฯ และเป็นการแสดงความขอบคุณต่อลูกค้าและผู้ติดตามทุกท่าน

เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ตั้งบัญชีอินสตาแกรมทางการขึ้นตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งการวิเคราะห์ข้อมูลชี้ให้เห็นว่าบัญชี @mercedesbenz มียอดการกดไลก์โดยเฉลี่ย 27.6ล้านครั้งต่อเดือน และในปัจจุบันมีผู้ติดตามรวมกันถึง 35.66 ล้านคนทั่วโลก ในโอกาสนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์จึงได้แสดงความขอบคุณต่อลูกค้าและผู้ติดตามที่มีส่วนช่วยให้เมอร์เซเดส-เบนซ์ก้าวไปถึงความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่นี้ ด้วยการเปิดเว็บไซต์ http://mb4.me/one-billion-likes ที่ตั้งขึ้นเพื่อกิจกรรมนี้โดยเฉพาะ โดยในเว็บไซต์ได้จัดแสดงภาพถ่ายจากแฟนๆ ทั่วโลกที่แสดงให้เห็นถึงความรักที่มีต่อแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ รวมถึงการนำเสนอเนื้อหาที่มีความแปลกใหม่ และสนุกสนาน ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากผู้ติดตาม เช่น ภาพของหญิงชราสุดเท่ที่ขับรถยนต์สมรรถนะสูงของเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี การอวยพรที่ไม่เหมือนใครในวันครบรอบของบีเอ็มดับเบิลยูจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ รวมไปถึงภาพถ่ายที่มีสุนัขเป็นองค์ประกอบด้วย

ผู้มาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในเมืองชตุทท์การ์ท ระหว่างวันที่ 5 - 31 มกราคม 2019 จะมีโอกาสเข้าชมนิทรรศการพิเศษที่รวบรวมโพสต์ที่โดดเด่นที่สุดประมาณ 20 โพสต์จากบัญชีอินสตาแกรมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ รวมถึงได้สัมผัสรถยนต์และรถยนต์ต้นแบบ 2 คันที่ผู้ติดตามบัญชีอินสตาแกรมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ชื่นชอบมากที่สุด อย่างรถยนต์ต้นแบบรุ่นวิชั่น เมอร์เซเดส-มายบัค 6 คาบริโอเลต์ (Vision Mercedes-Maybach 6 Cabriolet) และรถยนต์เอเอ็มจี จีที โรดสเตอร์ เอดิชั่น 50 (AMG GT Roadster Edition 50) ซึ่งมีอัตราการใช้พลังงานแบบผสมผสานที่ 11.4 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรและมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แบบผสมผสานที่ 259 กรัมต่อกิโลเมตร1

กลยุทธ์การสื่อสารทางการตลาดแบบหลากหลายช่องทางคือหัวใจหลักของความสำเร็จ

"กลยุทธ์การสื่อสารทางการตลาดแบบหลากหลายช่องทางช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้อีกครั้ง" คุณนาธาเนล ซิจานตา (Natanael Sijanta) หัวหน้าฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กรของกลุ่มธุรกิจรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเมอร์เซเดส-เบนซ์ กล่าว "เราผสมผสานทั้งเนื้อหาของเราเองและของที่แฟนๆ สร้างขึ้นเพื่อสร้างความประทับใจและมอบความบันเทิงให้กับผู้ติดตาม"

คุณซิจานตายังเชื่อว่า การทำงานร่วมกับผู้มีอิทธิพลทางความคิด หรือ อินฟลูเอนเซอร์ (influencer) นั้น มีความสำคัญเท่าๆ กับการนำเสนอเนื้อหาที่แฟนๆ สร้างสรรค์ขึ้น "ทางแบรนด์ให้ความสำคัญกับแนวคิดที่น่าดึงดูดใจ และมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายของเรา เพื่อให้สิ่งที่เราต้องการนำเสนอมีความน่าสนใจและสอดคล้องเป็นหนึ่งเดียว"

เมอร์เซเดส-เบนซ์จะนำเสนอเนื้อหาต่างๆ ผ่านสื่อดิจิทัลทางการของบริษัทฯ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดการสื่อสารทางการตลาดแบบหลากหลายช่องทาง และยังมีการจัดแจงเรื่องการสร้างความสัมพันธ์กับผู้มีอิทธิพลทางความคิด (influencer relations) และการสื่อสารทางการตลาดโดยอาศัยผู้มีอิทธิพลทางความคิด (influencer marketing) อย่างเป็นระบบ กล่าวคือ ผู้มีอิทธิพลทางความคิดจะได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานแถลงข่าว กิจกรรมการแสดง งานปฐมทัศน์ต่างๆ อีกทั้งยังร่วมกับผู้มีอิทธิพลทางความคิดเหล่านี้เพื่อนำเสนอข้อมูลต่างๆ อย่างจริงใจและเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ กระบวนการสื่อสารทางการตลาดโดยอาศัยผู้มีอิทธิพลทางความคิดยังช่วยในการสร้างและนำเสนอเนื้อหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ โดยทางบริษัทฯ จะร่วมมือกับช่างภาพ ผู้สร้างภาพยนตร์ หรือแบรนด์แอมบาสเดอร์ หลายรายอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างเนื้อหาพิเศษทั้งสำหรับการเผยแพร่ทางช่องทางการสื่อสารของเมอร์เซเดส-เบนซ์ และช่องทางการสื่อสารของผู้ร่วมสร้างสรรค์ผลงานเอง

เนื้อหาจากผู้ติดตามและการนำเสนอเรื่องราวที่เปี่ยมความคิดสร้างสรรค์

หนึ่งในเคล็ดลับที่ช่วยให้บัญชีอินสตาแกรมของเมอร์เซเดส-เบนซ์มียอดการกดไลก์ถึง 1 พันล้านไลก์นั้นอยู่ที่เรื่องราวต่างๆ ทั้งเรื่องราวที่เมอร์เซเดส-เบนซ์บอกเล่าเอง เรื่องราวจากผู้มีอิทธิพลทางความคิด และแฟนๆ ของแบรนด์ นอกจากนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังใช้คุณสมบัติของอินสตาแกรมสตอรี่เพื่อกระตุ้นความสนใจของผู้ติดตามในเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวกับนวัตกรรมในอนาคต เช่น นวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ หรือการพัฒนารถยนต์ที่ขับเคลื่อนโดยใช้พลังงานไฟฟ้า โดยการนำเสนอเรื่องราวต่างๆ เหล่านี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดผู้ใช้อินสตาแกรมให้กลายเป็นผู้ติดตามบัญชีทางการของแบรนด์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

หนึ่งในตัวอย่างที่น่าสนใจคืองาน "อีคิวไนท์ – EQNight" ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงลิสบอน เมอร์เซเดส-เบนซ์เปิดโอกาสให้ผู้ใช้อินสตาแกรมสามารถตั้งคำถามที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์รุ่นอีคิวซี (EQC) หรือแนวคิดของรถยนต์ที่ขับเคลื่อนโดยใช้พลังงานไฟฟ้า และจะได้รับคำตอบจากคุณไมค์ แมสซิมิโน่ (Mike Massimino)อดีตนักบินอวกาศ เจ้าของฉายา "แอสโตรไมค์ (Astro Mike)" ผ่านทางอินสตาแกรมสตอรี่ กิจกรรมพิเศษนี้ช่วยให้ผู้ติดตามทราบถึงความสามารถของรถยนต์รุ่นอีคิวซี หรือวัสดุที่เป็นส่วนประกอบของทั้งรถยนต์รุ่นอีคิวซีและกระสวยอวกาศ เป็นต้น

ความสำเร็จของกลยุทธ์ในการใช้อินสตาแกรมสะท้อนถึงข้อเท็จจริงว่าเมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นแบรนด์ที่สามารถเข้าถึงจิตใจของผู้บริโภคทั่วโลก อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากช่างภาพนิ่งและช่างภาพเคลื่อนไหวที่เปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์มากมาย ส่งผลให้เนื้อหามากกว่าร้อยละ 75 ที่เผยแพร่ในอินสตาแกรมนั้นเป็นเนื้อหาที่ถูกสร้างขึ้นโดยแฟนๆ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ทั้งสิ้น

ย้อนรำลึกถึงความสำเร็จของเมอร์เซเดส-เบนซ์ด้านการสื่อสารผ่านอินสตาแกรม

เมอร์เซเดส-เบนซ์เปิดบัญชีอินสตาแกรมทางการในเดือนมีนาคม ปี 2012 และเริ่มต้นสร้างแคมเปญ #mbshootout ที่มุ่งเน้นการสร้างสรรค์ภาพถ่ายและเนื้อหาเพื่อการนำเสนอผ่านช่องทางอินสตาแกรมโดยเฉพาะ จากนั้น บริษัทฯ ได้นำเสนอแคมเปญ #mbsocialcar โดยให้ช่างภาพและผู้สร้างภาพยนตร์ยืมรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ไปทดลองขับและถ่ายภาพหรือคลิปวิดีโอเกี่ยวกับรถยนต์ที่พวกเขายืมไปได้อย่างอิสระ โดยมีช่างภาพ บล็อกเกอร์ และผู้อิทธิพลทางความคิดกว่า350 รายเข้าร่วมแคมเปญนี้ และมีจำนวนการโพสต์ทั้งหมด 542 โพสต์ ต่อมาในปี 2014 เมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นบริษัทจากทวีปยุโรปบริษัทแรกที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการยูโรเปียน อินสตาแกรม มีเดีย พาร์ทเนอร์ (European Instagram Media Partner) และยังเป็นหนึ่งในแบรนด์แรกๆ ของทวีปยุโรปที่ได้รับสิทธิ์ให้ทดลองใช้คุณสมบัติอินสตาแกรมสตอรี่ในปี 2016 นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังจัดแคมเปญ #mbdolomates ร่วมกับกลุ่มช่างภาพเยอรมันโรมเมอร์ส (German Roamers) จนกลายเป็นปรากฏการณ์ไปทั่วโลก

ในปี 2015 เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้รับการขนานนามว่าเป็นแบรนด์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดแบรนด์หนึ่งในอินสตาแกรมเป็นครั้งแรก อีกทั้งยังมีการเปิดบัญชีอินสตาแกรมทางการของบริษัทฯ ในภาษาเยอรมันเพิ่มเติม ซึ่งในปัจจุบันถือเป็นบัญชีอินสตาแกรมภาษาเยอรมันของผู้ผลิตรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดด้วยจำนวนผู้ติดตามกว่า 3.5 ล้านคน การสื่อสารทางการตลาดในอินสตาแกรมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้รับรางวัล German Prize for Online Communicationประเภท "การสื่อสารโดยใช้ผู้มีชื่อเสียงหรือผู้นำทางความคิด (Influencer Communication)" และรางวัลด้านแบรนด์ประเภท "กลยุทธ์ดีเด่น (Best Strategy)"จากการประชุมผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด #INREACH

ในปี 2018 นี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์สร้างสีสันในโลกดิจิทัลด้วยแคมเปญ #explorewildtaiga เพื่อนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจต่างๆ ผ่านวิธีการที่หลากหลาย เช่น ภาพถ่าย คลิปวิดีโอ หรือวิธีการนำเสนออื่นๆ รวมถึงวล็อก (vlog) เพื่อบอกเล่าสิ่งที่น่าสนใจที่ช่างภาพและทีมงานพบระหว่างการเดินทางในป่าเขตหนาวของประเทศฟินแลนด์ (Finish taiga) เป็นระยะเวลา 6 วัน โดยใช้รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ จี-คลาสเป็นยานพาหนะ ตลอดแคมเปญนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ใช้แชทบอตสำหรับโปรแกรมสื่อสาร "เอ็มบี เจอร์นีย์ส (MB Journeys)" เป็นผู้โต้ตอบกับผู้ติดตาม โดยแชทบอตนี้ช่วยให้ผู้ติดตามสามารถเลือกชมสิ่งต่างๆ ที่ เมอร์เซเดส-เบนซ์นำเสนอในแต่ละวันได้อย่างหลากหลายตามความต้องการ

1 ตัวเลขข้างต้นเป็นตัวเลขที่ได้จากการทดสอบในห้องปฏิบัติการที่มีการกำหนดขั้นตอนและสภาพแวดล้อมอย่างละเอียด ค่าที่ได้ทั้งหมดเป็นค่าตามข้อบังคับด้านคาร์บอนไดออกไซด์แบบ NEDC ของสหภาพยุโรป ตามมาตราที่ 2 (1) ของข้อบังคับสหภาพยุโรปที่ 2017/1153 ท่านสามารถศึกษาข้อมูลโดยละเอียดของรถยนต์ที่มีวางจำหน่ายในประเทศของท่าน อันหมายรวมถึงค่าการทดสอบการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แบบ WLTP ได้ที่ www.mercedes-benz.com

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4