สมาคมผู้เพาะเลี้ยงปลาไทยจับมือ สสส. และ CPF เดินหน้ารณรงค์คนไทยกินปลาเพื่อสุขภาพ ตั้งเป้าเพิ่มการบริโภค 20-30%

อังคาร ๑๙ ตุลาคม ๒๐๑๐ ๑๑:๔๔
นายศักดิ์ สรรพานิช นายกสมาคมผู้เพาะเลี้ยงปลาไทย (Mr.Sak Sunpanich, President of Thai Fish Culture Farmers Association) เปิดเผยว่า สมาคมผู้เพาะเลี้ยงปลาไทยได้ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ จัดทำแผนส่งเสริมการบริโภคปลา ภายใต้ชื่อโครงการ “ปลาคุณภาพ...เพื่อสุขภาพคนไทยที่แข็งแรง” เป็นการสนับสนุนนโยบายสุขอนามัย และความปลอดภัยในอาหาร (Food Safety) ของภาครัฐ รวมถึงช่วยสร้างความมั่นคงยั่งยืนในอาชีพให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาน้ำจืดของไทยโดยตั้งเป้าเพิ่มปริมาณการบริโภคปลา โดยเฉพาะปลาน้ำจืดให้เพิ่มขึ้นอีก 20-30%

“ปลาเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูง ย่อยง่าย มีโอเมก้า3 หรือ กรดไขมันจำเป็น (Essential Fatty acid) ที่ร่างกายต้องการเนื่องจากมีประโยชน์ต่อร่างกาย หัวใจ และสมอง แต่ปัจจุบันคนไทยยังบริโภคปลา 30 กิโลกรัมต่อคนต่อปีเท่านั้น ในจำนวนนี้แบ่งเป็นปลาทะเล 20 กิโลกรัม และปลาน้ำจืด 10 กิโลกรัม ขณะที่ญี่ปุ่นบริโภคถึง 69 กิโลกรัมต่อคนต่อปี กลุ่มสแกนดิเนเวีย บริโภคถึง 45 กิโลกรัมต่อคนต่อปี” นายศักดิ์กล่าวและว่า

สาเหตุที่คนไทยบริโภคปลาน้ำจืดน้อย เป็นเพราะคนส่วนใหญ่เข้าใจผิดว่าโอเมก้า 3 มีเฉพาะในปลาทะเล และคิดว่าปลาน้ำจืดของไทยที่เพาะเลี้ยงกันภายในประเทศอาจปนเปื้อนสารตกค้าง แต่ในความเป็นจริงจากการทำวิจัยในประเทศไทย พบว่าปลาน้ำจืดก็มีโอเมก้า 3 สูง บางประเภทสูงกว่าปลาทะเล เช่น ปลาสวายเนื้อขาว มีโอเมก้า 3 สูงถึง 2,570 มิลลิกรัมต่อน้ำหนัก 100 กรัม ปลาช่อนมีโอเมก้า 3 ถึง 870 มิลลิกรัมต่อน้ำหนัก 100 กรัม รวมทั้งปลาทับทิมก็มีโอเมก้า 3 อยู่เช่นกัน ขณะที่ปลาแซลมอลมีโอเมก้า 3 ประมาณ 1000-1,700 มิลลิกรัมต่อน้ำหนัก 100 กรัม ขณะที่ ด้านการเพาะเลี้ยงนั้น ทางกรมประมงได้มีการพัฒนาโครงการรับรองมาตรฐานฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดมาตั้งแต่ปี 2546 โดยรับรองมาตรฐานขั้นปลอดภัย (safety level) และมาตรฐานการปฏิบัติทางประมงที่ดี (GAP) ซึ่งมั่นใจได้ว่าปลาน้ำจืดไทยมีคุณภาพและปลอดภัยต่อการบริโภค

นายศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ปลาน้ำจืดส่วนใหญ่ยังมีราคาต่ำกว่าปลาทะเล ในภาวะที่น้ำมันมีราคาแพง สินค้าราคาสูง จึงได้ร่วมกันรณรงค์ให้คนไทยบริโภคปลา โดยเฉพาะปลาน้ำจืดภายในประเทศ เพื่อลดการบริโภคปลานำเข้า

ทั้งนี้ สำหรับแผนการรณรงค์ในโครงการดังกล่าว จะมีการจัดกิจกรรมโรดโชว์ให้ความรู้ทางวิชาการตามโรงพยาบาลและสถานศึกษา กิจกรรมสัมมนาวิชาการร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และกิจกรรมอบรมหลักสูตรระยะสั้นร่วมกับสถาบันอาหารชั้นนำ ได้แก่ โรงเรียนการอาหารนานาชาติสวนดุสิต จัดอบรม และ Work Shop เมนูปลาสุขภาพ เป็นต้น

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ

สมาคมผู้เพาะเลี้ยงปลาไทย

โทร. 02-6618962, 02-6731115

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๔ กทม. เตรียมปรับปรุงพัฒนาระบบการให้บริการงานทะเบียนสำนักงานเขต
๑๗:๑๗ สมาคมเพื่อนชุมชน ส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางลดก๊าซเรือนกระจก
๑๗:๔๑ กทม. เร่งติดตั้งเสา-ตะแกรงรั้วกั้นเกาะกลางถนนวิสุทธิกษัตริย์ที่ถูกรถชนเสียหาย
๑๗:๐๔ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ขอเชิญชวนนักศึกษา และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมงาน M-Sci JOB FAIR 2024 หางานที่ใช่ สร้างงาน สร้างโอกาส วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น. ณ หอประชุม รักตะกนิษฐ
๑๗:๒๘ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอโซลูชั่นดิจิทัลลุยตลาดอาคารอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน
๑๖:๒๙ จิม ทอมป์สัน เผยทิศทางการพา แบรนด์ผ้าเมืองไทย ผงาดเวทีโลก ส่องกลยุทธ์การครีเอตผลงานคุณภาพให้สอดรับเทรนด์สิ่งทอระดับสากล
๑๖:๓๘ อาดิดาสจับมือนักฟุตบอลระดับตำนาน ส่งแคมเปญ 2006 JOSE 10 สร้างแรงบันดาลใจและความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดให้กับเหล่านักฟุตบอลเยาวชนหญิง
๑๖:๑๐ Maison Berger Paris พาชมเครื่องหอมบ้าน 2 คอลเลคชั่นใหม่ MOLECULE และ JOY จัดเต็มเซ็ตของขวัญ ครบทุกรูปแบบความหอม สร้างบรรยากาศหรูหราพร้อมกลิ่นหอมบริสุทธิ์
๑๖:๕๗ กทม. เตรียมระบบเฝ้าระวัง-ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 หลังเทศกาลสงกรานต์
๑๕:๑๕ NCC. ผนึก ททท. ขยายตลาดท่องเที่ยวมูลค่าสูง ชี้ตลาดท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Niche Market) โต ลุยจัดงาน Thailand Golf Dive Expo plus OUTDOOR Fest