นายปพนธ์ รัตนชัยกานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และรองหัวหน้ากลุ่มคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทรูคอฟฟี่มุ่งมั่นในการสร้างความแตกต่างในตลาด และมอบประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสร้างสรรค์สินค้า กิจกรรม และบริการต่างๆผ่านวิสัยทัศน์ของทรู ผู้นำชีวิตคอนเวอร์เจนซ์ ที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ตามแนวคิด “Sip and Surf” ของทรูคอฟฟี่ในมาตรฐานแบรนด์กาแฟสัญชาติไทยที่มีคุณภาพระดับสากล จนประสบความสำเร็จอย่างงดงามขยายสาขาได้มากถึง 56 แห่ง ครอบคลุมทั้งประเทศไทยและต่างประเทศในระยะเวลาเพียง 6 ปีเท่านั้น
ล่าสุด ทรูคอฟฟี่ ยังคงสร้างความโดดเด่นที่กล้าฉีกกรอบการทำตลาดเพื่อเติมเต็มแนวคิดการสร้างร้านกาแฟแบรนด์ไทยให้ก้าวสู่ระดับสากล และตำแหน่งของทรูคอฟฟี่ที่วางไว้เพื่อเป็นศูนย์รวมของคอนเวอร์เจนซ์ไลฟ์สไตล์ ด้วยกลยุทธ์ Entertainment Marketing ที่พิสูจน์ให้เห็นถึงความสำเร็จในการสร้างแบรนดิ้ง (Branding) ของทรูคอฟฟี่ผ่านรายการเรียลลิตี้ โชว์ คอฟฟี่ มาสเตอร์ บาย ทรูคอฟฟี่ ซึ่งช่วยถ่ายทอดแนวคิดของร้านทรูคอฟฟี่ให้เผยแพร่ไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและประชาชนทั่วไป รวมทั้งช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับภาพลักษณ์ผู้นำทางด้านคุณภาพและบริการของทรูคอฟฟี่
“การสร้างสีสันและความแปลกใหม่ให้กับลูกค้าเป็นหน้าที่ของเรา ที่ผ่านมา เราได้คิดค้นเครื่องดื่มและอาหารว่างใหม่ๆที่แสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยในมาตรฐานสากล ทั้งเครื่องดื่มโอชา เมนูสูตรโบราณที่อร่อยลงตัวระหว่างโอเลี้ยงผสมชานม หรือไอศกรีมรสชาติขนมไทยโบราณ และสร้างสรรค์การบริการที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ตามแนวคิด Sip and Surf เช่น การสร้างแอพพลิเคชั่นทรูคอฟฟี่บนไอโฟนเพื่อลูกค้าสามารถสั่งเมนูผ่านสมาร์ทโฟนได้”
“และอีกหนึ่งกลยุทธ์ Entertainment Marketing ด้วยการสนับสนุนผ่านทรูวิชั่นส์กับรายการ เรียลลิตี้ โชว์ คอฟฟี่ มาสเตอร์ บาย ทรูคอฟฟี่ เป็นอีกหนึ่งสีสันทางการตลาดที่ไม่เคยมีร้านกาแฟแบรนด์ไหนเคยทำมาก่อน โดยรายการนี้แสดงให้เห็นถึงคุณภาพและการบริการที่ได้มาตรฐานของทรูคอฟฟี่ ที่การันตีได้จากรอยยิ้มและความพึงพอใจจากลูกค้าซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดของการให้บริการ ผสานกับวัฒนธรรมองค์กร 4C คือ Creative — สร้างสรรค์ สนุกกับไอเดียๆ ใหม่ และคิดนอกกรอบ Courageous — กล้าคิด และทำสิ่งที่แตกต่าง มองโลกในแง่ดีเสมอ Credible — เป็นเพื่อนที่เชื่อถือได้และสบายใจที่ได้ทำงานร่วมกัน Caring — เป็นเพื่อนที่จริงใจ เอาใจใส่และห่วงใยกันเสมอ ซึ่งทั้งหมดช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาพลักษณ์ของทรูคอฟฟี่ ร้านกาแฟสัญชาติไทยที่ได้มาตรฐานระดับสากล”
นายปพนธ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ในระยะเวลา 2 เดือนที่รายการออกอากาศ รายการเรียลลิตี้ คอฟฟี่ มาสเตอร์ ช่วยสร้างการรับรู้ของแบรนด์ทรูคอฟฟี่ในกลุ่มผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ผลักดันให้ทรูคอฟฟี่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และเกิดการจดจำในตราสินค้าเพื่อก่อให้เกิดความผูกพันกับแบรนด์ทรูคอฟฟี่ต่อไปในอนาคต โดยกลุ่มผู้บริโภคที่ได้รับชมรายการจำนวนนับหมื่นคนได้ผันตัวเองกลายเป็นสมาชิกบัตร TrueCoffee Card ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของ Entertainment Marketing
“มีกลุ่มผู้บริโภคได้สมัครเป็นสมาชิกบัตรทรูคอฟฟี่ การ์ด หลังจากรับชมรายการ เพราะพวกเขาเล็งเห็นถึงคุณภาพของสินค้าและการบริการให้บริการของทรูคอฟฟี่ จากรายการคอฟฟี่ มาสเตอร์ ที่ออกอากาศตลอด 24 ชั่วโมงภายในระยะเวลา 2 เดือน”
นอกจากนี้ ยังมีองค์กรอื่นอีกเป็นจำนวนมากแสดงความสนใจให้ทรูคอฟฟี่ช่วยนำความรู้ที่ได้จากการทำรายการคอฟฟี่ มาสเตอร์ มาต่อยอดด้วยการพัฒนารายการให้ และมีความเป็นได้ได้สูงว่า ทรูคอฟฟี่อาจร่วมกับทรูวิชั่นส์ผลิตรายการนี้อีกในปีหน้า รวมทั้งแผนที่จะนำกลยุทธ์ Entertainment Marketing นี้ ไปใช้กับทรูคอฟฟี่ในต่างประเทศที่ได้ซื้อแฟรนไชส์จากทรูคอฟฟี่ โดยตอนนี้ทรูคอฟฟี่ เปิดให้บริการแล้วในเวียงจันทร์ ประเทศลาว และกำลังเข้าไปลงทุนในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ซึ่งสาขาแรกที่เซี่ยงไฮ้คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้
ทั้งนี้ยังได้เปิดตัว “เฟร้นช์ ลาวา” (French Lava) เครื่องดื่มปั่นสูตรพิเศษที่คิดค้นโดยทีมทรู เลิฟ มาก ผู้เข้าแข่งขันในรายการเรียลลิตี้ โชว์ คอฟฟี่ มาสเตอร์ บาย ทรูคอฟฟี่ ซึ่งปัจจุบันได้วางจำหน่ายแล้วในร้านทรูคอฟฟี่ทุกสาขา
โดยคาดว่า เฟร้นช์ ลาวา จะเป็นเครื่องดื่มที่มีการตอบรับอย่างล้นหลามจากบรรดาคอกาแฟ ที่ชื่นชอบในความหอมหวานของ เฟร้นช์ วนิลา ไซรัป (French Vanilla Syrup) ผสมผสานกับความเข้มข้นของช็อตกาแฟเอสเพรสโซ
ปัจจุบันทรูคอฟฟี่ ร้านกาแฟสัญชาติไทย มีสาขาสำหรับให้บริการรวมทั้งสิ้น 56 สาขา โดยเป็นร้าน ทรูคอฟฟี่จำนวน 43 สาขา และเป็นร้านทรูคอฟฟี่แฟรนไชล์จำนวน 13 สาขา ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับร้านทรูคอฟฟี่ได้ที่ www.truecoffee.com หรือ www.facebook.com/sipandsurf