ไม่สนว่าเก่งมาจากไหน…บทพิสูจน์ของการเรียนรู้ที่ไม่จบสิ้น

อังคาร ๑๗ เมษายน ๒๐๑๒ ๑๙:๕๕
ใครหลายคนอาจจะรู้จัก ทิม — พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในฐานะนักธุรกิจรุ่นใหม่ดีกรีนักเรียนนอก ที่พลิกฟื้นบริษัทซึ่งติดลบและเป็นหนี้มหาศาลจากการสูญเสียคุณพ่อ ให้กลายเป็นธุรกิจน้ำมันรำข้าวเป็นธุรกิจพันล้านได้ในระยะเวลาอันสั้น หรือในมาดหนุ่มสังคมหน้าตาดีเป็นที่หมายปองของสาว ๆ แต่คนหนุ่มไฟแรงคนนี้ยังมีดีที่มากไปกว่านั้นโดยเฉพาะมุมมองเรื่องการเรียนที่นำมาสู่การมองโลกอย่างน่าสนใจผ่านปลายปากกาเป็นคอลัมนิสต์ในนิตยสารวัยรุ่นชื่อดัง วันนี้ได้ถูกรวบรวมในพ็อคเกตบุคส์ที่ชื่อว่า “ไม่สนว่าเก่งมาจากไหน” ซึ่งเป็นการตกผลึกมาจากการเรียนรู้ทั้งในและนอกห้องเรียนกว่า 3 ปีในช่วงที่คุณทิมบินลัดฟ้าไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโท 2 ใบพร้อมกันในด้านการเมืองการปกครอง สาขาภาวะผู้นำ ที่ John F. Kennedy School of Government Harvard University และ ในด้านบริหารธุรกิจที่ Sloan, Massachusetts Institute of Technology (M.I.T) สหรัฐอเมริกา ซึ่งได้มีการเปิดตัวหนังสือ“ไม่สนว่าเก่งมาจากไหน” โดยมีผู้บริหารจากอมรินทร์ สุดสัปดาห์ และสปริงบุคส์ รวมทั้งกำลังใจสำคัญจากครอบครัว แฟนสาว และเพื่อนๆร่วมสถาบันในต่างประเทศมาให้กำลังใจคุณทิมแบบอุ่นหนาฝาคั่ง

คุณทิมเล่าว่า การเรียนในมหาวิทยาลัยระดับโลกสองแห่งพร้อมๆกันไม่ใช่เรื่องยาก นั่นเป็นเพราะวิธีการเรียนการสอนที่ทำให้เรียนสนุก เป็นการอ่าน การเขียน และแลกเปลี่ยนระหว่างกัน วิธีเรียนที่ไม่ใช่มาจากหนังสือเรียนที่มีผู้เขียนมาแล้วนับสิบๆปี แต่เป็นการเรียนรู้จากสิ่งรอบด้านที่เป็นปัจจุบัน ทั้งจากข่าวสารบ้านเมือง สิ่งรอบตัว ผู้คน ร้านค้า กระทั่งข้างถนน แม้แต่การเดินทางท่องเที่ยวก็ช่วยเปิดการมองโลกให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการเปิดรับสื่อต่างๆทั้งหนังสือพิมพ์ นิตยสาร วิทยุ โทรทัศน์ อินเตอร์เนต เวปไซด์และบล็อก สิ่งสำคัญคือการได้ร่วมสัมผัสกับบุคคลสำคัญระดับโลกมากมายที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาแบ่งปันประสบการณ์ ซึมซับวิธีคิด มาสู่การมองโลกในแง่มุมที่แตกต่าง

การเรียนในสถาบันการศึกษาระดับโลกที่มีความแตกต่างของผู้คนกว่า 90 ชาติทั่วโลก เสมือนย่อโลกทั้งใบมาอยู่ในห้องเรียน เพราะวิชานี้ไม่มีในหนังสือเรียน ถ้าเรียนจากหนังสือหมายถึงการกลับไปหาอดีต แต่ถ้าเรียนจากเพื่อนรอบข้างเป็นการเรียนจากอนาคต ดังนั้นการแลกเปลี่ยนความเห็น รับฟังมุมมองที่แตกต่าง ไม่ดูแคลนความเห็นที่ขัดแย้ง นำมาสู่ “ไม่สนว่าเก่งมาจากไหน” คือนิยามของการเรียนรู้ที่สำคัญ เพราะทำให้เราใฝ่ที่จะเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆอยู่ตลอดเวลาโดยไม่ยึดติดและด้วยหัวใจที่เปิดกว้าง จุดมุ่งหมายของการเรียนที่ฮาร์วาร์ดและเอ็มไอที ตัวเขาเองอยากสะท้อนให้คนไทยและเยาวชนที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักเรียนนอกไปเรียนต่างประเทศ ได้เข้าใจถึงความสำคัญของการเรียนในระบบที่แตกต่าง นอกจากได้ใบปริญญาบัตรแห่งความสำเร็จแล้ว การนำเอาองค์ความรู้ที่เรียนกลับมาพัฒนาชาติบ้านเมือง ทำประโยชน์ให้กับสังคมและประเทศชาติ

ภัทราพร เตชะไพบูลย์ คุณโจน่า เพื่อนร่วมสถาบันเอ็มไอทีบอกว่า หนังสือ “ไม่สนว่าเก่งมาจากไหน” สะท้อนมุมมองของนักเรียนไทยยามอยู่ไกลบ้านได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะความภาคภูมิใจของนักเรียนไทยในบอสตันในเรื่องฮาร์วาร์ดสแควร์ ซึ่งมีความสำคัญต่อปวงชนชาวไทยเพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชสมภพ ณ เมืองเคมบริดจ์ อันเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ในขณะที่สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนกทรงเป็นนักศึกษาแพทย์อยู่ที่โรงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ด และได้มีการตั้งชื่อแยกแห่งหนึ่งในบริเวณฮาร์วาร์ดสแควร์ว่า King Bhumibol Adulyadej Square เพื่อถวายเป็นเกียรติแก่พระองค์ นอกจากนี้หนังสือเล่มนี้น่าจะสร้างแรงบันดาลใจให้น้องๆและผู้ที่สนใจอยากจะเดินทางไปศึกษาต่อยังต่างประเทศได้ค้นหาตัวเอง เพื่อให้ได้ค้นพบพลังของความคิดนำมาสู่การกระทำที่ยิ่งใหญ่ เห็นด้วยกันผู้เขียนที่ว่าเด็กไทยต้องมีความเป็นตัวของตัวเองมากกว่านี้ อย่าไปหลงกับรูปรสกลิ่นเสียงหรือชื่อเสียงเกียรติยศจนลืมความเป็นตัวตนและคุณค่าในตัวเอง ให้เน้น “เนื้อหา” มากกว่า “รูปแบบ” เน้น “สาร” มากกว่า “หีบห่อ”

ปฏิวัติ ปานุราช หรือคุณสูง รุ่นพี่เอ็มไอทีมาให้กำลังใจคุณทิม บอกว่า สิ่งสำคัญที่สุดในการไปศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกคือหัวจิตหัวใจที่เข้มแข็งมุ่งมั่น เรื่องภาษาไม่ดี ฝึกฝนฝึกปรือได้ เรื่องเงินมีไม่มาก สามารถไปขอทุนการศึกษาได้ อย่าคิดแค่ว่าไปเรียนจบกลับมาได้ขึ้นชื่อว่านักเรียนนอกได้เงินเดือนสูงๆ อยากให้ค้นหาตัวเองและจุดมุ่งหมายในชีวิตว่าต้องการเป็นอะไร ทำอะไร มีเป้าหมายในชีวิตก่อนและทำอย่างเต็มที่ก็จะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก สิ่งสำคัญคือต้องอดทนและมีวินัย

อนุลักษณ์ ซาเสียง บรรณาธิการสำนักพิมพ์สปริงบุคส์ สำนักพิมพ์ที่เน้นความเป็นตัวตนของคนรุ่นใหม่ แนวคิดใหม่ๆ ซึ่งเขามองว่าสำหรับคนทั่วไปแล้ว การที่จะสอบเข้าเรียนฮาร์วาร์ดและเอ็มไอที สองมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกได้พร้อมกันนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และยิ่งไปกว่านั้นคือใบปริญญาที่บ่งบอกความสำเร็จจากทั้งสองสถาบันการศึกษาของโลก สิ่งที่ผู้อ่านจะได้รับนอกจากความสนุกสนาน การสัมผัสกับชีวิตความเป็นอยู่ของนักเรียนไทยในต่างแดนแล้ว สิ่งสำคัญคือการหล่อหลอมวิธีการคิด การพูด การสื่อสาร มาสู่การกระทำ จนทำให้กลายเป็นคนเก่ง แต่ความเก่งเป็นเพียงองค์ประกอบอย่างหนึ่งที่ทำให้คนเราประสบความสำเร็จ ทว่าสิ่งที่จะทำให้เราไปไกลกว่านั้นคือการไม่หยุดเรียนรู้ ทำตัวเป็นน้ำครึ่งแก้วที่พร้อมรับประสบการณ์ใหม่ๆทั้งจากในห้องเรียนและนอกห้องเรียนที่เข้ามาในชีวิตได้ตลอดเวลา

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๘ มี.ค. องค์การบรรจุภัณฑ์โลก จับมือ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ร่วมจัดกิจกรรมสัมมนาออนไลน์
๒๘ มี.ค. การแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลรายการ King Power International Ladies' Polo Tournament 2024
๒๘ มี.ค. DEXON ปักธงรายได้ปี 67 ทะลุ 700 ลบ. โชว์ Backlog เฉียด 280 ลบ. ล็อคมาร์จิ้น 35-40%
๒๘ มี.ค. JPARK ร่วมงาน Dinner Talk ผู้บริหารจดทะเบียนพบนักลงทุน จ.ราชบุรี
๒๘ มี.ค. นีเวีย ซัน และ วัตสัน จับมือต่อปีที่สองชวนดูแลท้องทะเล กับโครงการ เพราะแคร์ จึงชวนแชร์ ร่วมพิทักษ์รักษ์ทะเลไทย
๒๘ มี.ค. Cloud เทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัว เพียงแค่คุณไม่รู้เท่านั้นเอง
๒๘ มี.ค. โรยัล คานิน ร่วมกับ เพ็ทแอนด์มี จัดงาน Royal Canin Expo 2024: PAWRENTS' DAY เพื่อสร้างโลกที่ดีขึ้นสำหรับน้องแมวและน้องหมา
๒๘ มี.ค. STEAM Creative Math Competition
๒๘ มี.ค. A-HOST ร่วมวาน MFEC Inspire ขึ้นบรรยายพร้อมจัดบูธ Cost Optimization Pavilion
๒๘ มี.ค. ฟินเวอร์! ส่องความคิ้วท์ 'ฟอส-บุ๊ค' ควงคู่ร่วมงาน Discover Thailand เสิร์ฟโมเมนต์ฉ่ำให้แฟนๆ ได้ดับร้อนกันยกด้อมรับซัมเมอร์ และร่วมส่งต่อความสุขในกิจกรรม 'Exclusive Unseen Food Trip กับ คู่ซี้