เมื่อซินแสถังเข้าสู่วัยชรา จึงถ่ายทอดความรู้และตำรับสมุนไพรให้กับ บุญเจือ เอี่ยมพิกุล ลูกศิษย์ที่มีความใฝ่รู้เกี่ยวกับสมุนไพร และมีประสาทสัมผัสที่ละเอียดอ่อนในการแยกแยะกลิ่น-รสของสมุนไพรอย่างแม่นยำ ด้วยความเป็นคนที่ชอบคิดค้นและไม่หยุดนิ่ง บุญเจือจึงทดลองปรับปรุงสูตรยาหม่องน้ำของอาจารย์ถังจนได้เป็นสูตรเฉพาะของตนเอง และนำชื่อบิดา คือ "เซียง" มาตั้งเป็นชื่อเรียกสูตรยาสมุนไพรตำรับนี้ว่า "เซียงเพียวอิ๊ว" แปลว่า ยาหม่องน้ำยี่ห้อนายเซียง หรือถ้าแปลตามตัวอักษรแบบจีน ก็หมายถึง น้ำมันหอมยี่ห้อที่เหนือกว่า ('เซียง' = ดีกว่า เหนือกว่า 'เพียว' = ยี่ห้อ)
เซียงเพียวอิ๊ว ถูกส่งต่อจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก และแตกไลน์สินค้าเพิ่มขึ้น จนในปี 2004 "เซียงเพียวอิ๊ว" ถูกรีแบรนด์เป็น "เซียงเพียว" และในปีถัดมาก็ได้เกิด "เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์" ยาดมและยาหม่องที่มีกลิ่นและดีไซน์เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่
เป็นเวลาเกือบ 60 ปี ที่ผลิตภัณฑ์เซียงเพียวอยู่คู่กับวิถีชีวิตคนไทยและได้รับความไว้วางใจอย่างไม่เสื่อมคลาย ปัจจุบันความไว้วางใจนั้นได้แผ่ขยายไปสู่ 12 ประเทศทั่วโลก คือ สิงคโปร์ ฮ่องกง เกาหลี มาเลเซีย อินโดนีเซีย กัมพูชา ลาว เวียดนาม ฟิลิปปินส์ สหรัฐอเมริกา โคลัมเบีย เยอรมัน และยังเดินหน้าสร้างตำนานน้ำมันหอมยี่ห้อที่เหนือกว่าขยายไปสู่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกอย่างไม่หยุดยั้ง
ข้อมูลการตลาด บริษัท เบอร์แทรมเคมิคอล (1982) จำกัด
โรงงานใหม่ อำเภอลำลูกกา คลอง 7 จ.ปทุมธานี
ลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท เนื้อที่ 60 ไร่ เพื่อรองรับกำลังการผลิตเพิ่มจากโรงงานเดิม 10 เท่า เป็นโรงงานทีผ่านมาตราฐาน มาตราฐาน GMP-PIC/S
ปณิธานบริษัท
"เรามุ่งมั่นที่จะผลิตสินค้าคุณภาพดี อันเกิดจากการรักษาและสืบทอดมรดกทางปัญญาจากรุ่นสู่รุ่น และเราปรารถนาที่จะมีส่วนสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นแก่ชุมชนไทย ด้วยสำนึกว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของสังคม และทุกคนเกิดมาเพื่อทำดี"
Business Vision
"แบรนด์ไทยที่เป็นผู้นำตลาดอันดับ 1 ในประเทศ และประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในด้านผลิตภัณฑ์ส่งเสริมสุขภาพที่ดี ด้วยการคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ และการผลิตอย่างพิถีพิถันทุกขั้นตอน เพื่อตอบสนองต่อวิถีชีวิตของคนทุกเพศทุกวัย"
ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2015 ทั้งในและต่างประเทศ
ปี 2015 เติบโตขึ้นราว 18% ตั้งเป้าปี 2016 เติบโตขึ้น 23%
Siang Pure ทั้งในและต่างประเทศ
ผลการดำเนินงาน 2015 โดยรวมเติบโตขึ้น 17%
มีการเติบโตของตัวเลขมากกว่าปี 2015 ในทุก category ไม่ว่าจะเป็น Oil, Balm, inhaler และมีการวางสินค้าใหม่คือครีมบรรเทาอาการปวด เซียงเพียวรีลีฟครีมในช่วงต้นเดือนตุลาคม 2015 ที่ผ่านมา
ตั้งเป้าปี 2016 โตขึ้น 18%
Peppermint Field
ผลการดำเนินงาน 2015 โดยรวมเติบโตขึ้นประมาณ 22%
ตั้งเป้าปี 2016 โตขึ้น 25%
สัดส่วนยอดขายของเบอร์แทรมเคมิคอล
By Brand By Category
เซียงเพียว 70% Oil 60% เป็นอันดับ 1 ใน MKT Share
เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ 30% ยาดม (SP+PF) 25% เป็นอันดับ 2 ใน MKT Share
Balm 10% เป็นอันดับ 3
ที่เหลือเป็นอื่น ๆ อีก 5%
(รวม Brand ไทย และต่างประเทศ)
Key Hi light
SP Ball Tip : Fastest Growth +60% เติบโตแบบก้าวกระโดด เพราะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในปัจจุบัน เช่น ใช้ง่าย พกสะดวก ไม่เลอะมือ
PF Gel / PF Balm Stick : Unique format ที่เป็น Niche Market + differentiate from other competitors
สัดส่วนการขายในประเทศกับต่างประเทศ
ในประเทศ 50%
ต่างประเทศ 50%
ตลาดต่างประเทศ ทั้งหมด 12 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา สิงคโปร์ ฮ่องกง เกาหลี มาเลเซีย อินโดนีเซีย ลาว เวียดนาม ฟิลิปปินส์ สหรัฐอเมริกา โคลัมเบีย เยอรมัน
และมีแผนขยายไปยังประเทศอินเดีย พม่า ลิทัวเนีย และมองโกเลีย
กลยุทธ์ทางการตลาด "Power of Brand" (ความแข็งแกร่งของแบรนด์)
กลยุทธ์ทางการตลาด แบ่งออกเป็น 4 ส่วนใหญ่ ดังต่อไปนี้
ด้านผลิตภัณฑ์
Siang Pure : (Product Development) ปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ให้ดูทันสมัย เสริมสร้างภาพลักษณ์ของตราสินค้าให้แข็งแกร่งดูโดดเด่นขึ้น นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายที่จะวางตลาดสินค้ากลุ่มใหม่ มีการค้นคว้าวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ครอบคลุมกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่แตกต่างกัน
Refresh Brain, Relieve Pain. : โล่งถึงใจ ใช้บรรเทา
Work/ Functional
Peppermint Field : (Product Innovation/ Development) หัวใจหลักคือ ความสดชื่น ผ่อนคลาย ขาย Emotional มากกว่า Function กลยุทธ์หลักคือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ออกสู่ตลาด รวมถึงการ Re-launch packaging ให้ดูมีเอกลักษณ์โดดเด่นสวยงามยิ่งขึ้นด้วย
Stay Cool, Stay Refreshed : สดชื่น ผ่อนคลาย
Play/ Life Style
กลยุทธ์การสื่อสาร : ใช้กลยุทธ์สื่อกระจุก ขายกระจาย
Siang Pure :
1.กลยุทธ์การสื่อสารแบรนด์รวม : ใช้ยาหม่องน้ำแดงซึ่งเป็น leader ในตลาดเป็นตัวหลักในการสื่อสาร เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์
2.กลยุทธ์การสื่อสารแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์ : เลือกกลุ่มสินค้า และสื่อสาร Focus ให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย โดยเน้นสื่อจุดเด่นของสินค้าซึ่งแตกต่างจากคู่แข่ง และเน้นย้ำเรื่องคุณภาพของสินค้า
สำหรับสินค้าใหม่ Siang Pure Relief Cream ครีมทาบรรเทาปวด เน้นการสื่อสารไปที่การ Focus กลุ่มสินค้าใหม่ที่เพิ่งวางตลาดไป ได้แก่เซียงเพียวรีลีฟครีม ครีมทาบรรเทาอาการปวด ซึ่งทำการบุกตลาดทั้งร้านขายยาทั่วประเทศ ร้านสะดวกซื้อ ร้าน Health and beauty ที่มีชื่อเสียง เช่น Fascino, P&F, Watsons เป็นต้น ด้านการสื่อสารเน้นไปทั้ง Above the line และ below the line อาทิเช่น TVC, Radio, Out of home, จัดกิจกรรมตามอาคารสำนักงานในเมืองเพื่อให้มีประสบการณ์ในการใช้สินค้า สนับสนุนด้านการกีฬา ซึ่งเรามีสนาม Peppermint Bike Park เป็นสนามที่เซียงเพียวรีลีฟครีมจะเข้าไปจัดกิจกรรมให้นักปั่นมีประสบการณ์ที่ดีในการใช้สินค้า
Peppermint Field
สร้าง Brand Awareness โดยใช้สินค้ากลุ่มยาดมเป็นตัวหลักในการสื่อสาร เน้นสื่อออนไลน์และกิจกรรมในแนวที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เช่น Peppermint Bike Park และ Viral Marketing เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้น รวมทั้งเลือกใช้สื่อ Above the line และ Below the line อื่นๆเพื่อเสริมให้การสื่อสารมีความแข็งแกร่งและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น
กลยุทธ์ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย
มีการวางกลยุทธ์ในการบริหารสินค้า เลือกสินค้าที่จะขายให้เหมาะกับช่องทางการจัดจำหน่ายเพื่อบริหาร SKU สินค้าให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด พัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายเดิมให้มีประสิทธิภาพและมองหาช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ๆเพื่อให้ครอบคลุม เช่น การพัฒนาช่องทางร้านหนังสือ แหล่งท่องเที่ยว งานบุญต่างๆ รวมทั้งร้านค้าในโรงพยาบาลและมหาวิทยาลัย และช่องทางออนไลน์ เป็นต้น
สร้างความเป็นมืออาชีพ
การจัดทัพองค์กรใหม่และการพัฒนา เพื่อสร้างทีมให้เป็นมืออาชีพ ตอบรับกับการเติบโตของตลาดสู่ AEC ทั้งทีมการตลาด การขาย Supply chain และโรงงาน
ช่องทางการจำหน่าย
Modern Trade
Traditional trade
แผนรองรับ AEC
เตรียมพร้อมด้านการผลิตด้วยการลงทุนสร้างโรงงานแห่งใหม่
เตรียมพร้อมด้านบุคลากรที่มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญ ในทุกๆฝ่าย พร้อมส่งพนักงานเข้าฝึกอบรมการทำธุรกิจกับ AEC เพื่อจะได้เข้าใจตลาด AEC มากขึ้น
เตรียมพร้อมด้านการวางแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ (NPD) ให้ตอบรับกับความต้องการของประเทศ AEC นั้น
มีการวางระบบโปรแกรม Computer ใหม่ (ระบบ NAVISION) เพื่อนำข้อมูลเชิงลึกมาวางแผนวิเคราะห์และทำให้การบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ข้อมูลอื่น ๆ
การเติบโตของ GDP โดยรวมของไทยในปี 2016 อยู่ที่ 3.2%