นายทวี ปิยะพัฒนา ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท พี.เอฟ.พี. ผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปแช่แข็งของประเทศ ภายใต้ตราสินค้าพีเอฟพี หรือ PFP เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ความต้องการบริโภคอาหารทะเลในตลาดโลกยังมีความต้องการในตลาดอยู่อย่างต่อเนื่อง จากการที่ผู้บริโภค ให้ความสนใจสุขภาพมากขึ้น และอาหารทะเลยังคงตอบโจทย์ของกระแสการบริโภคอาหารที่เน้นสุขภาพ ทำให้ผลิตภัณฑ์ของพีเอฟพีสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ความสดสะอาด และการได้รับเครื่องหมายรับรองฮาลาล อีกทั้งบริษัทฯ ยังคงมีแผนก R&D ที่คอยคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลา รวมถึงเรื่องรสชาติผลิตภัณฑ์ที่สามารถผลิตออกมาได้ถูกใจผู้บริโภค ซึ่งบริษัทฯ ได้ส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปแช่แข็งมาเป็นระยะเวลากว่า 30 ปี ครอบคลุมกว่า 21 ประเทศทั่วโลก
สำหรับยอดการส่งออกผลิตภัณฑ์ตลาดต่างประเทศ นายธวัชชัย รัตนะพิสิฐ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท พี.เอฟ.พี. เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มียอดขายในตลาดต่างประเทศอยู่ที่กว่า 1,300 ล้านบาท มีสัดส่วน ในทวีปเอเชียอยู่ที่ 72% ยุโรป 12% อเมริกาเหนือ 8% และโอเชียเนีย (ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์) 8% โดยในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโตในตลาดต่างประเทศอยู่ที่ 10% และยังมีแผนขยายช่องทางการจำหน่ายและตลาด อย่างต่อเนื่อง ทั้งตลาดในทวีปยุโรปและอเมริกา เนื่องจากเป็นตลาดที่ผู้บริโภคมีกำลังการซื้อสูง ผู้บริโภคเน้นเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณภาพ สอดคล้องกับการวาง Position ของผลิตภัณฑ์พีเอฟพี ที่เน้นเจาะตลาดลูกค้าระดับกลางขึ้นไป ในขณะที่ตลาดเอเชียจะเน้นการเติบโตไปยังประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของสินค้ากลุ่ม ปูอัด ส่วนตลาดใน CLMV จะเน้นการขยายไปยังซุปเปอร์มาร์เก็ตและกลุ่มโมเดิร์นเทรดขนาดใหญ่ในตัวเมือง
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้รุกตลาดใหม่ ที่เป็นกลุ่มมุสลิมอย่างประเทศอินโดนีเซียเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมและสนับสนุนการส่งออกสินค้าและบริการฮาลาลของไทยให้อยู่ในอันดับ 1 ใน 5 ของโลกภายใน 5 ปีข้างหน้า
"กลยุทธ์ทางการตลาดที่บริษัทฯ ได้วางไว้เพื่อเป็นการรุกตลาดต่างประเทศในปีนี้ คือ 1.การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองกับลูกค้าและรูปแบบการบริโภคที่เปลี่ยนไป 2.เพิ่มปริมาณการซื้อของลูกค้าเดิม 5-10% ในปี 2559 โดยการจัดแคมเปญและโปรโมชั่นพิเศษต่างๆ 3.การแสวงหาลูกค้าใหม่ผ่านช่องทางการออกงานแสดงสินค้าในตลาดใหม่ๆโดยเฉพาะกลุ่มประเทศมุสลิมเพื่อขยายตลาดฮาลาล" นายธวัชชัย กล่าวเสริม
ด้านการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ น.ส.ปิยกาญจน์ ปิยะพัฒนา กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท พี.เอฟ.พี. เปิดเผยว่า ในงาน THAIFEX 2016 ที่กำลังจะจัดขึ้นในวันที่ 25-29 พฤษภาคม 2559 บริษัทฯ ได้เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มอาหารพร้อมรับประทาน หรือ Ready to Eat เน้นความรวดเร็วในการปรุงเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ชอบทำอาหารแบบใช้เวลาไม่มากและยังคงเน้นความสำคัญในเรื่องสุขภาพ โดยจะเน้นรสชาติไทยๆ ที่เป็นที่นิยม เช่น ต้มยำ และแนวเอเชียที่คนต่างชาติชื่นชอบ
"ผลิตภัณฑ์ที่เราจะเปิดตัวในงาน THAIFEX 2016 มีทั้งสิ้น 4 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Frozen ซึ่งประกอบด้วย Fish Noodle ก๋วยเตี๋ยวเส้นปลา ผลิตจากเนื้อปลาที่มีคุณภาพ มีโปรตีนสูง ไม่ใส่ผงชูรสและปราศจากโปรตีนกลูเตนที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ โดยถูกออกแบบมาในรูปแบบพร้อมรับประทาน มีซอสในซองเป็นรสต้มยำ และรส XO ซึ่งเป็นรสจัดจ้านตามสไตล์เอเชีย Alaska King Crab Legs เป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มปูอัด เกรดพรีเมี่ยม ใช้เนื้อปลา Pollock นำเข้าจากประเทศอเมริกาเป็นส่วนผสมหลัก ให้เนื้อสัมผัสเวลาทานเหมือนเนื้อปูอลาสก้า เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพ สามารถนำไปประกอบอาหารในเมนูสไตล์ญี่ปุ่น หรือทานกับสลัด นำไปยำแบบไทยๆ Croquettes เนื้อปลาบดปรุงรสสอดไส้ ชุบเกล็ดขนมปังอย่างดี ทำให้เวลาทอดไม่อมน้ำมัน มีไส้ถึง 4 รส ประกอบด้วย ไส้แกงเขียวหวาน ไส้ซอสศรีราชา ไส้ต้มยำ และไส้ครีมปู เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว งานเลี้ยงสังสรรค์ และผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Retort Pouch แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลาสไตล์ภูเก็ต และเต้าหู้ปลาพะโล้ ซึ่งทุกผลิตภัณฑ์ของพีเอฟพี จะผ่านการวิจัยและพัฒนาจากแผนก R&D ของบริษัทฯ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ทั้งในเรื่องไลฟ์สไตล์ และรสชาติที่เหมาะสำหรับผู้บริโภคในแต่ละประเทศ" น.ส.ปิยกาญจน์ กล่าวเพิ่มเติม
สำหรับกิจกรรมของบูธภายในงาน THAIFEX 2016 พีเอฟพีได้จัดกิจกรรมพิเศษต่างๆ มากมาย อาทิ การเจรจาสำหรับผู้ที่สนใจนำผลิตภัณฑ์พีเอฟพีไปสร้างธุรกิจอาหารในช่องทางต่างๆ การจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูป แช่แข็งในราคาพิเศษ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ การสร้างมูลค่าเพิ่มในเมนูอาหารจากผลิตภัณฑ์พีเอฟพี และกิจกรรม
การสาธิตการทำเมนูอาหารโดยเชฟที่มากด้วยประสบการณ์ นอกจากนี้ พีเอฟพียังมีแคมเปญพิเศษ PFP 30 ปี ลุ้นทวีโชค สำหรับลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์พีเอฟพี สามารถตัดมุมซองผลิตภัณฑ์ที่ร่วมรายการ เขียนชื่อ ที่อยู่ ส่งกล่องรับชิ้นส่วน ณ ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย หรือส่งมาที่ ตู้ ปณ.69 ที่ทำการไปรษณีย์หลักสี่ กรุงเทพ 10210 ชิงรางวัลรถจักรยานยนต์ สร้อยคอทองคำ และรางวัลใหญ่รถยนต์ ISUZU D-Max Hi-Lander มูลค่าของรางวัลรวมกว่า 2.5 ล้านบาท ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 กันยายน 2559 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม www.pfp-pacific.com
โดยผู้สนใจเข้าร่วมเยี่ยมชมบูธพีเอฟพีในงาน THAIFEX 2016 สามารถเยี่ยมชมได้ที่อาคารชาเลนเจอร์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี รอบวันเจรจาธุรกิจ ระหว่างวันที่ 25-27 พฤษภาคม 2559 เวลา 10.00 – 18.00 น. และรอบประชาชนทั่วไป ระหว่างวันที่ 28 – 29 พฤษภาคม 2559 เวลา 10.00 – 20.00 น.