หลังจากการแกะสลักในขั้นต้นแล้วเสร็จ ขั้นตอนต่อไปเป็นการลงยาด้วยเทคนิคกรองด์เฟอ (Grand Feu) ช่างลงยาจะใช้ปลายแปรงที่เรียวเล็กแตะผงกระจกในปริมาณที่พอเหมาะแล้วป้ายลงไปตามร่องที่ช่างแกะสลักเอาไว้ เมื่อนำชิ้นงานไปเผาในเตาซ้ำๆ หลายครั้ง สีสันต่างๆ ที่แต่งแต้มลงไปจะเผยถึงระดับความบางเบาของเฉดสี เกิดเป็นแถบสีน้ำเงินและสีแดงสดสวย แสดงถึงมิติที่มีทั้งความทึบและความโปร่งสลับกันไป จากนั้นหน้าปัดนาฬิกาจะถูกนำกลับเข้าไปในเวิร์คช้อปของช่างแกะสลัก โดยช่างจะค่อยๆ นำตาและปากของปลาตอกลงไปเพื่อขับเน้นลายเส้นของดีไซน์ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น
ช่างแกะสลักจะพิถีพิถันกับการเคลือบเงาลงบนพื้นผิวที่ลงยา ในขณะที่ช่างฝังวัสดุจะค่อยๆ ตัดปีกแมลงทับเพื่อนำมาแต่งเป็นเกล็ดปลา และเพื่อให้ได้รูปทรงที่สมบูรณ์แบบ ช่างจะตัดเกล็ดปลาแต่ละเกล็ดตามลายฉลุ แล้วแต่งจนกว่าจะได้ขนาดตรงตามที่ต้องการ ขั้นต่อไปจึงเพียงแค่นำเกล็ดปลามาติดตรงร่องบนหน้าปัดที่ช่างแกะสลักได้ทำไว้แล้ว เมื่อเกล็ดปลาต้องแสงระยิบระยับอ่อนๆ จะเผยให้เห็นถึงสีสันอันสดสวยอย่างเป็นธรรมชาติ
หลังจากตกแต่งเสร็จเรียบร้อย หน้าปัดนาฬิกาจะถูกประกบเข้ากับตัวเรือนทองคำขาวที่รังสรรค์ขึ้นในเวิร์คช้อปของแอร์เมส ตัวเรือนอันเลอค่าที่งามสง่าเหนือกาลเวลา มาพร้อมกับหูคล้องสายนาฬิกาแบบอสมมาตรคล้ายโกลนม้า เน้นย้ำให้เห็นชัดถึงอัตลักษณ์ของคอลเลกชั่นนาฬิการุ่น Arceau ในแบบนาฬิกาพก ด้านหลังตัวเรือนประกบคริสตัลแซฟไฟร์โปร่งแสง เผยให้เห็นหัวใจที่ขยับเคลื่อนอยู่ด้านในของนาฬิกา นั่นคือ กลไก Manufacture Hermès H1837 ซึ่งผ่านการประกอบและตกแต่งด้วยมือทั้งหมดตามกรรมวิธีดั้งเดิมในการทำนาฬิกาสวิสที่พิถีพิถัน
สายคล้องและกระเป๋าตัวเรือนทำจากหนังจระเข้ที่เลือกเฟ้นมาเป็นอย่างดี ผ่านการเนรมิตด้วยฝีมือของช่างผู้เชี่ยวชาญที่ตั้งใจรังสรรค์ชิ้นงานอย่างไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเช่นเดียวกับเมื่อครั้งแรกที่เริ่มผลิตบังเหียนและอานม้า ทำให้ได้เนื้อสัมผัสเงางาม ในเวิร์คช้อปของแอร์เมส ช่างจะตัดแผ่นหนังออกแล้วเย็บติดกัน กดร่องระหว่างตะเข็บและขอบให้เรียบ แล้วขัดแต่งด้วยยางให้แผ่นหนังนุ่มลงก่อนขัดเงาในขั้นตอนต่อไป ทุกขั้นตอนล้วนสร้างสรรค์ขึ้นด้วยความคล่องแคล่วที่บ่มเพาะและส่งต่อกันมานานนับศตวรรษ
เรือนเวลา Arceau Pocket Ailes et Ecailles เชิดชูศิลปะงานฝีมือ ที่ผสานทั้งงานวิจิตรศิลป์และงานช่างไว้ด้วยกัน หลอมรวมทักษะอันเลอค่าที่ผ่านการเนรมิตโดยฝีมือมนุษย์ หน้าปัดเรือนเวลาที่อวดโฉมศิลปะการประดับปีกแมลงทับจึงสะท้อนถึงการตีความที่โลดแล่นไร้ขอบเขตในธีม Nature at Full Gallop อันเป็นธีมประจำปี 2016 ของแอร์เมสได้อย่างลงตัว