"ก่อนหน้านี้ปอยเคยทำงานประจำอยู่ในวงการบิวตี้ จะมีดูแบรนด์สกินแคร์บ้าง แบรนด์เพอร์ซัลนอลแคร์บ้าง รีเทลของบิวตี้บ้าง สำหรับแบรนด์ "id" นี้เริ่มประมาณกลางปีที่แล้วค่ะ ปอยเริ่มทุกอย่างด้วยตนเอง มีเซรั่มและคลีนเซอร์ออกมาคู่กัน ซึ่งกระแสตอบรับก็ค่อนข้างดีนะคะ คือเราเป็นแบรนด์ใหม่ก็ต้องใช้เวลาที่จะทำให้คนรู้จักค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าใครเคยได้ใช้แล้วจะกลับมาใช้ซ้ำค่อนข้างสูง แล้วผลตอบรับที่ออกมาก็ค่อนข้างดี เพราะเขาใช้แล้วแฮปปี้จริง"
"id" แตกต่างจากผลิตภัณฑ์ทั่วไป ข้อแรกคือ เน้นเป็นไบโอเชียล คือ เรื่องผิวแข็งแรงโดยเฉพาะในระยะยาว ที่ทำให้คนมีผิวแข็งแรงได้ทั้งระบบจริงๆ อันนี้จะมีความแตกต่างจากแบรนด์อื่น ซึ่งเป็นจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ ส่วนที่ 2 คือเรื่องของอ่อนโยน คือได้รับการรับรองเรื่องของการระคายเคือง กว่าจะมีวันนี้ได้ปอยก็ลองด้วยตัวเองเป็นปีเลย กว่าจะได้ลองใช้จริง ปอยคุยกับผู้ผลิตหลายที่เลยค่ะ
ตอนนี้ "id" ตัวนี้เป็นตัวเริ่มต้น เรามองว่าเป็นคู่สำคัญ ทำให้คนมีผิวแข็งแรง เหมือนต้องล้างหน้าก่อน แล้วมีการบำรุง อนาคตอาจออกผลิตภัณฑ์อย่างอื่นตามมา ขอเวลาพัฒนาสูตรใหม่ๆ อีกนิดนึง
"ในส่วนของแผนการตลาดปีนี้ ส่วนแรกเราเน้นการตลาดที่ต้องการให้ผู้ใช้ได้มีโอกาสได้ลองใช้จริงๆ อีกส่วนเป็นการตลาดที่เราทำคือเรื่องของ "content marketing" ซึ่งจะเน้นเรื่องของการให้ความรู้ผ่านทางสื่อออนไลน์ เพราะเข้าถึงผู้ใช้ได้ง่าย จะเป็นการตลาด ที่ทำให้คนรู้จักแบรนด์และผลิตภัณฑ์ในมุมมองที่แตกต่างกันไปจากประสบการณ์ของผู้ใช้ และเน้นเรื่องของช่องทางการจัดจำหน่าย ที่ตอนนี้มีจำหน่ายที่วัตสันค่ะ"
"ที่มาของชื่อ "id" คำนี้ปอยว่ามันจำง่าย "id" มาจาก Identity คือเรื่องของความเป็นส่วนตัวของตัวเอง อย่างที่บอกคือเราไม่เน้นว่าคุณต้องขาว หรือต้องมีความเหมือนใคร แต่เราอยากให้คนแต่ละคนมีผิวที่แข็งแรงในแบบที่เป็นของตัวเองจริงๆ อยากให้คนที่ได้ใช้สามารถมีความสุขกับสิ่งที่เขาเป็นได้จริงๆ โดยไม่ต้องเปรียบเทียบกับใคร เราเชื่อว่าทุกคนมีความสวยงามในแบบของคุณอยู่แล้ว แค่ทำให้มันกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ให้มันดีเหมือนเดิมที่เราเคยเป็นหรือดียิ่งขึ้นกว่าเดิม เลยเป็นที่มาของชื่อแบรนด์ค่ะ"
"สำหรับตัวผลิตภัณฑ์ ถ้าถามว่าจำเป็นมั้ยต้องใช้คู่กัน 2 ตัวนี้ แนะนำว่าควรใช้คู่กันค่ะ คือเป็นขั้นตอนที่ทำให้ผิวแข็งแรง หลักๆ มีอยู่ 2 ขั้นตอน ใหญ่ๆ คือเรื่องของการล้างและการบำรุง ผลิตภัณฑ์คู่นี้พัฒนามาให้ใช้คู่กัน คือล้าง ต้องอ่อนโยน เพราะว่าการล้างเป็นหนึ่งในการทำความสะอาดผิวหน้า เพื่อให้ผิวหน้าพร้อมในแง่ของการบำรุงในขั้นตอนต่อไป"
"ในด้านรูปแบบของแบรนด์ เราเน้นเรื่องของความเรียบง่าย ดูดี มีระดับ ส่วนในแง่ของบรรจุภัณฑ์ เราก็จะเน้นเรื่องความเรียบง่ายเช่นกัน สามารถใช้ได้จริง และค่อนข้างจะสวยงาม"
"จุดเด่นของ 2 ผลิตภัณฑ์นี้คือ การฟื้นฟูผิวแข็งแรงทั้งระบบ คำว่าทั้งระบบแปลว่า 3 ส่วนหลักของเซรั่ม คือ
1. ทำให้ผิวที่เป็น Skin barrier แข็งแรงมากยิ่งขึ้น พวก Skin barrier แข็งแรง ในแง่โอกาสของการแพ้จะน้อยลง
2. ทำให้ผิวสามารถสร้างมอยเจอไรเซอร์ ได้ด้วยตนเองได้ดีมากยิ่งขึ้น ครีมทั่วไปอาจจะมีการเติมเข้าไป ของ id จะเน้นเรื่องระยะยาว คือเติมเข้าไปเพื่อกระตุ้นให้ผิวสามารถสร้างด้วยตนเอง ซึ่งจะมีผลในระยะยาวมากกว่า พอผิวชุ่มชื้นอิ่มน้ำถือว่า มีสุขภาพดียิ่งขึ้น
3. มีตัวที่ช่วยลดแบคทีเรีย "พีแอคเน่แบคทีเรีย" ตัวที่ลดโอกาสการเกิดสิวในอนาคต ดังนั้นพอช่วยให้ผิวแข็งแรง โอกาสการแพ้ก็จะดีมากยิ่งขึ้น
อันนี้ก็เป็นประโยชน์ 3 สื่งหลักๆ ของตัวเซรั่ม ที่แตกต่างจากผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอื่นๆ นอกจากเรื่องของความแข็งแรง ก็จะเป็นเรื่องของการลบเลือนริ้วรอย หรือกระจ่างใสที่เป็น ประโยชน์เสริมเพิ่มเติมขึ้นมาทำให้เราแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ดูแลผิวด้วยกันค่ะ"
สาวๆ คนไหนที่สนใน สามารถไปหาซื้อได้ที่ร้านวัตสันทุกสาขา สอบถาม เพิ่มเติมได้ที่ www.idskinexpert.com, Facebook.com/idskinexpert หรือ 02 009 2926
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.zoominstyle.com