นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคและส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน เปิดเผยว่า ที่จริงในวาระนี้ตนมีความคิดเห็นแตกต่างจากมติที่ประชุม โดยเห็นว่ากระบวนการจัดโฟกัสกรุ๊ปสามารถดำเนินการไปพร้อมกับกระบวนการจัดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะได้ เพราะแท้จริงแล้วก็เป็นกระบวนการเดียวกัน จึงไม่จำเป็นต้องชะลอเรื่องการพิจารณา เนื่องจากอาจทำให้กระทบกับแผนการดำเนินงานจัดประมูลที่สำนักงาน กสทช. กำหนดไว้ต้องล่าช้าออกไป แต่เมื่อที่ประชุมเสียงส่วนใหญ่ยืนยันว่าต้องจัดโฟกัสกรุ๊ปก่อนค่อยพิจารณา จึงได้แต่ย้ำเรื่องกรอบเวลาว่าให้สำนักงานเร่งจัดโฟกัสกรุ๊ปในช่วงกลางเดือนนี้ แล้วนำเสนอเข้าที่ประชุม กทค. พิจารณาในครั้งถัดไปทันที ซึ่งมีการกำหนดแล้วว่าจะประชุมกันวันที่ 31 มีนาคม เพื่อที่จะสามารถนำเข้าที่ประชุม กสทช. พิจารณาได้ทันในเดือนเมษายน แล้วหลังจากนั้นก็จะนำมาจัดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งหากดำเนินการเช่นนี้ ก็จะเป็นไปตามแผนที่สำนักงาน กสทช. ได้เคยวางไว้
ส่วนประเด็นข้อกำหนดในร่างประกาศหลักเกณฑ์ที่บังคับให้ผู้ชนะการประมูลต้องเปิดใช้บริการกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ได้รับการจัดสรรเลขหมายไปก่อนตามที่ กทค. กำหนด นายประวิทย์เห็นว่า ควรให้อิสระกับผู้ที่ชนะการประมูลในการเปิดใช้บริการกับผู้ให้บริการรายใดก็ได้ ซึ่งในทางเทคนิคไม่น่ามีข้อติดขัดหรือยุ่งยากอะไร
“ผมก็เห็นด้วยกับร่างหลักเกณฑ์ที่จะมีการจัดสรรเลขหมายสวยไปทั้งล็อตพร้อมกับเลขหมายปกติให้กับผู้ให้บริการ เพียงแต่ตอนที่ผู้ชนะการประมูลต้องการเปิดใช้บริการ ถ้าเลขหมายที่ประมูลได้ไม่ใช่ของค่ายมือถือที่เขาต้องการก็ควรให้เขาขอใช้บริการคงสิทธิเลขหมายย้ายไปยังค่ายอื่นได้ทันที ไม่จำเป็นต้องให้ผู้บริโภคทนใช้งานกับค่ายที่ไม่ชอบไประยะหนึ่งแล้วค่อยขอย้าย ซึ่งตามหลักของการคงสิทธิเลขหมายทำได้ง่ายกว่าปกติด้วยซ้ำ เนื่องจากเป็นหมายเลขใหม่ ไม่มีปัญหาเรื่องการค้างชำระค่าบริการ หรือปัญหาเรื่องชื่อไม่ตรงกับที่เคยลงทะเบียนไว้ ไม่มีปัญหาเหล่านี้แน่นอน” นายประวิทย์กล่าว
ทั้งนี้ ตามแผนการดำเนินงานของสำนักงาน กสทช. กำหนดจะจัดทำร่างประกาศ เรื่อง หลักเกณฑ์การจัดสรรเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เป็นเลขหมายสวยเสร็จสิ้นภายในเดือนมิถุนายน เพื่อที่จะจัดประมูลประมาณเดือนกรกฏาคม อย่างไรก็ตาม หากจะเป็นไปตามแผนดังกล่าวได้ ร่างหลักเกณฑ์นี้ก็ควรจะผ่านการเห็นชอบของที่ประชุม กสทช. ภายในเดือนมีนาคมนี้ เพื่อนำไปรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ ซึ่งก่อนเข้าที่ประชุม กสทช. ก็จำเป็นต้องได้รับการเห็นชอบจากที่ประชุม กทค. ก่อน การที่ กทค. ยังไม่พิจารณาจึงส่งผลกระทบกับกระบวนการทั้งหมด