สัญชาติ ญี่ปุ่น
กำกับโดย/เขียนบท โดย อิซาโอะ ยูกิซาดะ (Spring Snow, Crying Out For Love, in the Center of the World)
นำแสดง โดย เรียวโนสุเกะ คามิกิ (The Great Yokai War, Bayside Shakedown 2)
โทโมคาซุ มิอุระ (Always - Sunset on Third Street 1 & 2)
ฟูมิโยะ โคฮินาตะ (Cyborg She, Christmas on July 24th Avenue)
กำหนดฉาย 13 พฤศจิกายน 2008
โรงภาพยนตร์ ลิโด-สยามสแควร์ และ เฮาส์ RCA
Into the Faraway Sky ของผู้กำกับ Isao Yukisada เป็นภาพยนตร์ที่มีส่วนผสมระหว่าง Local Hero และ McCabe & Mrs. Miller มองผ่านมุมมองของผู้กำกับ อีมีร์ คูสตูริซา (Emir Kusturica) เป็นเรื่องราวของสังคมใน ฮอกไกโด ที่ต้องเผชิญหน้ากับการสร้างสนามบินที่พวกเขาไม่ต้องการ
เด็กหนุ่มรูปงามจากโตเกียว เรียวโนสุเกะ คุสุโนกิ (เรียวโนสุเกะ คามิกิ) และพ่อของเขา คุซุโนกิ (โทโมคาซุ มิอุระ) เป็นผู้อยู่อาศัยคู่ใหม่ ที่เดินทางมาอยู่ในหมู่บ้านที่เงียบสงบแห่งหนึ่งใน ฮอกไกโด โดยพ่อของ เรียวโนสุเกะ นั้น เป็นคนของรัฐบาลที่ถูกส่งมาเพื่อซื้อที่ดิน เพื่อใช้ในการสร้างสนามบินแห่งใหม่
อย่างไรก็ตาม คุซุโนกิ คือตัวแทนคนที่ห้าที่เดินทางมาอาศัยอยู่ที่นี้ เพราะสี่คนก่อนหน้าเขานั้น ต่างก็ล้มเหลวในการเจรจากับชุมชนที่เกาะกลุ่มกันอย่างเหนียวแน่น ที่ต่างช่วยกันส่งให้ตัวแทนจากรัฐบาลกลับไปคนแล้วคนเล่า นำโดย เทนโบ ชาวนาที่ชอบใช้เวลาอยู่ในหอนางโลม ซึ่งบริหารโดย มาดามมิชิ (ชิโนบุ โอทาเกะ)
เรียวโนสุเกะ ก็ยังมีปัญหาในการปรับตัวให้เข้ากับโรงเรียนใหม่ เขาพบว่าตัวเองมีปัญหากับเด็กท้องถิ่นอย่าง โคเฮอิ ทสุชิดะ (ยูมะ ซาซาโน่) ซึ่งเขามอง เรียวโนสุเกะ ว่าเป็นคู่แข่ง แต่หลังจากนั้นไม่นานนัก ทั้งคู่ก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นเพื่อนสนิทกัน และได้เล่นอะไรแบบแผลงๆ เช่นการจุดประทัดใส่ชาวบ้านที่เดินผ่านไปมา
ยิ่ง เรียวโนสุเกะ เริ่มที่จะเชื่อมความสัมพันธ์กับคนในหมู่บ้าน เขาก็ยิ่งที่จะต่อต้านในจุดประสงค์ของพ่อตัวเอง ในขณะเดียวกัน คุซุโนกิ ก็ต้องเผชิญหน้ากับพ่อของ โคเฮอิ (ฟูมิโยะ โคฮินาตะ) นักชีววิทยา ที่เป็นคนคอยพูดถึงผลเสียของการขายที่ดิน เพื่อใช้ในการสร้างสนามบินอีกให้ชาวบ้านฟังอีกด้วย
ในขณะที่เรื่องราวหลักยังดำเนินไป ตัวละครสมทบต่างก็เติมสีสันให้กับเรื่องราว เช่นหนุ่มเนิร์ดที่กำลังจะแต่งงานกับคุณครู แต่เธอเองนั้นไม่เคยมีความรักให้กับเขา, นักสะสมนกพิราบที่ฉลาดและมีนิสัยแปลกๆ, เด็กสาวที่เชื่อว่าพ่อของเธอถูกลักพาตัวไปโดย UFO และเหล่านางโลมที่ชอบเปิดกางเกงในให้กับชาวบ้านดู
นี้เป็นภาพยนตร์ที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ขันและสสารที่เสมือนเป็นเชื้อเพลิงที่เติมพลังงานให้กับชีวิต รวมถึงการหักมุมแบบคาดไม่ถึงในตอนจบ ซึ่งเสมือนเป็นเสายึดหลักที่จะทำให้การเล่าเรื่องดูเข้มแข็งมากขึ้นไปอีก ซึ่งสุดท้ายแล้วสารที่เราได้รับนั้น มันก็อาจจะอยู่ตรงที่ตัวละครในเรื่องต่างพากันสนับสนุน ให้คนดูท้าทายกับค่านิยมที่ปฏิบัติตามกันมาในสังคม และพยายามแทรกตัวออกมาเพื่อที่จะเดินทำตามฝันของตัวเอง