สกายไฮฯ ทุ่ม 65 ล้าน ลุยกิจกรรมคลื่น มั่นใจปีนี้โต 5.5 %

อังคาร ๐๓ กุมภาพันธ์ ๒๐๐๙ ๑๕:๑๓
สกายไฮฯ ออกตัวแรงปี 52 ทุ่มงบการตลาดกว่า 65 ล้านบาท เผยรุก COOL 93 fahrenheit ชูกลยุทธ์กระแสตื่นตัวสิ่งแวดล้อมภายใต้คอนเซ็ปต์ “ Eco-Experience ” ชวนผู้ฟังสร้างประสบการณ์และสัมผัสกับธรรมชาติผ่านกิจกรรมร่วมสนุกแบบไม่ซ้ำใคร มั่นใจครองแชมป์เรตติ้งคลื่นวิทยุประเภทอีซี่ลิสซึ่นนิ่งอันดับ 1 ต่อเนื่องอีกปี พร้อมเดินหน้าตั้งเป้าปี 52 เติบโตถึง 5.5 เปอร์เซ็นต์

นายคมสันต์ เชษฐโชติศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สกาย-ไฮ เน็ตเวิร์ค จำกัด ในเครือ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าภาพรวมธุรกิจ ของ สกายไฮฯ ในปีที่ผ่านมานั้นถือว่าอยู่ตัว โดยทำรายได้อยู่ที่ 340 ล้านบาท หรือคิดเป็น 14 % ของรายได้ทั้งหมดในเครืออาร์เอส โดยแบ่งเป็นรายได้จากสปอนเซอร์และลูกค้าที่ซื้อเวลาโฆษณาจากคลื่น Cool 93 Fahenheit ร้อยละ 70 และอีกร้อยละ 30 เป็นของ คลื่น 103 I feel max

โดยปี 52 นี้ได้ทุ่มงบถึง 65 ล้านบาทในการทำกิจกรรมต่างๆ แบ่งเป็นของคลื่น Cool 93 Fahenheit 40 ล้านบาท และ คลื่น 103 I feel max 25 ล้านบาท โดยหวังสร้างฐานกลุ่ม ผู้ฟังประจำ (Brand Royalty) รวมถึงเพิ่มคุณค่าในสายตาลูกค้า (Customer Value) พร้อมกับตั้งเป้ารายได้ปี 52 ไว้ที่ 355 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5.5 เปอร์เซ็นต์ โดยที่ทิศทางการดำเนินธุรกิจของ สกายไฮฯ ในปีนี้ ยังคงมุ่งเน้นเรื่องของกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR : Corporate Social Responsibility) ต่อจากปีที่แล้ว และเน้นหนักในเรื่องของกระแสความตื่นตัวเรื่องสิ่งแวดล้อม ( Eco — Concern) ของโลก รวมถึงมุ่งเน้นในเรื่องของการสร้างแบรนด์ และตอกย้ำภาพลักษณ์ของคลื่นให้แข็งแกร่ง และวิธีการทำงานที่ต้องทำงานใกล้ชิดกับลูกค้าและสปอนเซอร์ต่างๆ เพื่อที่จะสามารถวางแผนการทำงานตอบโจทย์แผนการตลาดของลูกค้าได้อย่างตรงจุด และเน้นการทำงานในแบบ Customization และ Tailor made ให้กับลูกค้ามากขึ้นด้วย รวมถึงควบคุมงบประมาณและค่าใช้จ่ายต่างๆ ( Control Cost) ซึ่งกลยุทธ์ที่ว่าดังกล่าวนี้จะทำให้สกายไฮสามารถทำรายได้และเติบโตตามเป้าที่ตั้งไว้

ด้าน นายสุธี ฉัตรรัตนกุล โปรแกรม ไดเรคเตอร์ คลื่น COOL 93 fahenheit เปิดเผยว่าจากความสำเร็จของ COOL 93 fahrenheit ในปีที่ผ่านมา ด้วยกิจกรรมการตลาดภายใต้ธีม “ECO Evolution” ในการร่วมรณรงค์ลดภาวะโลกร้อนอย่างจริงจังไปสู่กลุ่มเป้าหมายกว่า 1 ล้านคน กับ 3 แคมเปญใหญ่ที่เกิดขึ้นตลอดปี คือ COOL My World การสะท้อนภาพใหญ่ของผลกระทบจากภาวะโลกร้อน เพื่อสร้างความตระหนักรู้ของผู้ฟัง โดยสื่อสารผ่านกลุ่ม celebrity ชั้นนำที่ได้รับความสนใจในรูปแบบของ eco- fashion COOL My Society การรณรงค์เพื่อสร้างจิตสำนึกต่อผลกระทบของภาวะโลกร้อนในระดับสังคมเมือง โดยสื่อสารผ่านกลุ่มเยาวชน ภายใต้แนวคิดของภาพยนตร์ชุด Kid Beggar ที่สะท้อนมุมกลับของเด็กขอทาน ที่มาร้องขออนาคตจากผู้ใหญ่ให้ช่วยลดภาวะโลกร้อน และ COOL My Life การช่วยลดภาวะโลกร้อนอย่างง่ายๆ ที่เริ่มได้จากตัวเราเอง ด้วยการรณรงค์เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับโลก ร่วมกับมูลนิธิดินดี น้ำใส เทิดไท้มหาราชันย์ ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้ฟังในทุกแคมเปญเป็นอย่างดี

ในปี 52 นี้ COOL 93 fahrenheit ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่องกับแนวคิดการตลาดเพื่อสังคมหรือ CSR โดยปรับบทบาทการทำหน้าที่ของสื่อที่เพียงรณรงค์ให้ข้อมูลถึงผลกระทบของภาวะโลกร้อนกับผู้ฟัง มาสู่แนวคิดในการเริ่มต้นลงมือทำให้เห็นก่อน เพื่อเป็นการสร้างแบบอย่างไปสู่กลุ่มเป้าหมาย และสร้างความน่าเชื่อถือในการสื่อสารเรื่องดังกล่าวได้อย่างมีน้ำหนัก ผ่านแผนการตลาดภายใต้คอนเซ็ปต์ “ECO Expereince” ด้วยรูปแบบกิจกรรมที่จะมอบประสบการณ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ผู้ฟัง อย่างกลมกลืน ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง เพื่อสร้างทัศนคติที่ดีในการดำเนินชีวิตที่เป็นมิตรต่อโลกด้วยเป้าหมายในการเป็น “Thailand ‘s First Eco- Listening Station”

ทั้งนี้ในส่วนของกิจกรรมครึ่งปีแรกของปี 52 นั้นเปิดตัวด้วยกิจกรรม “COOL Outing Special in KOREA” สุดยอดทริปที่ได้รับเสียงตอบรับจากชาวออฟฟิศมากที่สุด กับการแข่งขันปฏิบัติภารกิจพิชิตโลกร้อนในออฟฟิศ เพื่อเฟ้นหาสุดยอดทีมเวิร์คยกออฟฟิศสูงสุด 50 ชีวิตไปสัมผัสมุมมองใหม่ที่ประเทศเกาหลีซึ่งมีหลาย ๆ เมืองได้รับการขนานนามว่าเป็นกรีนซิตี้ ตามมาด้วยกิจกรรมพิเศษเอาใจคนฟังเพลงโดยเฉพาะ ในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ ในรูปแบบทริปคอนเสิร์ต COOL Music Fest “ Yesterday Love Song ” ที่จะสร้างประสบการณ์การชมคอนเสิร์ตในบรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติ ในคอนเซ็ปต์ที่จะนำเพลงรักที่ได้รับความนิยมในอดีตกลับมารีไซเคิลให้ฟังอีกครั้งโดยศิลปินคุณภาพรุ่นใหม่ พร้อมเป็นการส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กับเมืองท่องเที่ยวอย่างพัทยาอีกด้วย

และกิจกรรมที่เป็นไฮไลท์ช่วงเดือนเมษายน คือกิจกรรม ONE Life Vol.6 “ALASKA…Before The Last Breath ทริปที่จะพาผู้ฟังไปปิดประสบการณ์จริงในจุดหมายที่หลายคนใฝ่ฝันอยากสัมผัสสักครั้งในชีวิตก่อนเหลือเพียงตำนาน อลาสก้า ด้วยเรือสำราญสุดหรู Celebrity Cruise ล่องชมความงดงามของอาณาจักรน้ำแข็งกลางมหาสมุทร ก่อนวาระสุดท้ายของอลาสก้า อันเนื่องมาจากผลกระทบของภาวะโลกร้อนนั่นเอง

นอกจากนั้นคลื่น COOL 93 fahenheit ก็ยังเปิดตัว “ศรีริต้า เจนเซ่น” ดาราและนางแบบชื่อดังอีกครั้งในฐานะคูล แอมบาสเดอร์ ( COOL Ambassador ) ปี 2009 ที่ได้รับความไว้วางใจให้ได้รับตำแหน่งนี้เป็นปีที่ 2 เพื่อร่วมทำหน้าที่เป็นตัวแทนของคลื่นวิทยุ COOL 93 fahrenheit ประชาสัมพันธ์ความเคลื่อนไหวที่จะเกิดขึ้นของตลอดทั้งปี 52 ไปสู่ผู้ฟัง พร้อมยังได้ร่วมกับแฟชั่นแบรนด์ชั้นนำ อย่าง GREYHOUND Original มาร่วมออกแบบอีโคพรีเมียมประจำปี 52 เพื่อมอบให้กับผู้ฟังในรายการ เพื่อเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ที่ทันสมัยของคลื่นนี้ด้วย

รายละเอียดเพิ่มเติมจากการให้สัมภาษณ์กับนักข่าวที่งานเมื่อเช้า

ลูกค้าที่ Plan ซื้อสื่อโฆษณายาวทั้งปีกับทางคลื่นมีถึง 50 -60 %

ลูกค้าที่ซื้อสปอตโฆษณาส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มสินค้าพวก โอเปอเรเตอร์ต่างๆอาทิ AIS DTAC / TRUE MOVE และสินค้าพวก Cosmatic , กลุ่มธนาคารต่างๆ , Consumer Product และสินค้าพวกสุขภัณฑ์ต่างๆ เป็นต้น

ภาพรวม Q1 ของสกายไฮไม่น่ามีปัญหาเพราะช่วงก.พ — มี.ค ลูกค้าซื้อ Ad เยอะมาก

รายได้ของคลื่น 93 Cool มาจากการซื้อโฆษณาของลูกค้าถึง 60 % และมาจากกิจกรรม 40 %

รายได้ของคลื่น Max 103 มาจากกิจกรรมถึง 60 % และมาจากการซื้อโฆษณาของลูกค้า 40 %

รายได้ของสกายไฮปี 2007 ทำได้ที่ 320 ล้านบาท

รายได้ของสกายไฮปี 2008 ทำได้ที่ 340 ล้านบาท

และปีนี้ ปี 52 ตั้งเป้าที่ 355 ล้านบาท

แต่ว่าตั้งเป้าปีนี้เท่าเดิมคือ 5.5 % เท่าปีที่ผ่านมา และมีสัดส่วนกำไรอยู่ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา

สปอนเซอร์ที่เข้ามามีประมาณ 10 กว่ารายต่อ 1 กิจกรรม

สำหรับคลื่น 93 Cool ปัจจุบันมีกลุ่มคนฟังอยู่ที่ 1 ล้านคน และปลายปีนี้จะผลักดันคนฟังให้ถึง 2 ล้านคนให้ได้

กลยุทธ์คูล แอมบาสเดอร์ ( COOL Ambassador ) ส่งผลให้คาเรคเตอร์คลื่นมีความชัดเจนมาก และส้รางความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ชัดเจน ส่งผลให้จำนวนผู้ฟังเพิ่มมากขึ้นด้วย

สำหรับคลื่น Max 103 ปีนี้จะผลักดันเรื่องของ PJ มากกว่า เพราะปีที่แล้วเพิ่งจะปรับทีม PJ ไปเลยพยายามสร้างให้ PJ คลื่นเป็นที่รู้จักมากขึ้น

Max 103 ปีนี้กิจกรรมแรกจะเริ่มเดือนเมษายนกับงาน Max Day ปิดสยาม 3 เวที ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดประจำทุกปี

ตอนนี้คลื่น Max 103 มีฐานคนฟังอยู่ที่ 2.5 — 3 แสนคน แต่ตั้งเป้าไว้ว่าปลายปีนี้จะทำให้มีคนฟังถึง 5 แสนคนให้ได้ โดยที่กลุ่มคนฟังของคลื่นเป็นเด็กวัยรุ่นตั้งแต่มัธยมต้นไปจนถึงกลุ่มเด็กมหาวิทยาลัย

สำหรับสกายไฮปีนี้คงยังมีแผนขยายคลื่นใหม่ แต่จะพยายาม maintain คลื่นที่มีอยู่ 2 คลื่นให้มีประสิทธิภาพ เพรามองจากสภาวะเศรษฐกิจ และความไม่แน่นอนจากภาครัฐแล้ว คิดว่ายังไม่ควรขยายธุรกิจ

คลื่น93 Cool สามารถฟังผ่าน Website ได้ โดยมี database คนฟังผ่านทาง website อยู่ที่ 3 หมื่นคนต่อเดือน โดยสิ้นเดือนี้ก็จะมีการ Launch website cool 93 ใหม่ให้มีความเป็น multimedia และ interactive มากขึ้น

อันดับความนิยมของคลื่น 93 Cool คือ

1. Cool 93

2. 103.5 FM One

3. 106.5 Green Wave

อันดับความนิยมของคลื่น Max 103 คือ

1. Seed 97.5 FM

2. 95.5 Vergin Hit

3. Max 103

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๔๑ PRM ร่วมงาน OppDay มั่นใจธุรกิจปี 67 สดใส
๑๗:๓๘ Bitkub Chain ร่วม OpenGuild และ Polkadot เปิดพื้นที่รวมตัว Community รับ SEA Blockchain Week 2024
๑๗:๔๙ HOYO SOFT AND SAFE ผู้ผลิตคอกกั้นเด็กคุณภาพสูง มุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัย ได้รับการไว้วางใจจากประสบการณ์ลูกค้าโดยการบอกปากต่อปาก
๑๗:๓๗ แนวทางสร้างสมดุลระหว่าง อันตรายต่อสิ่งแวดล้อม และ คำมั่นสัญญาของ Generative AI
๑๖:๔๖ Maison Berger Paris เผยเครื่องหอมสำหรับบ้านรูปแบบใหม่ล่าสุด 'Mist Diffuser' ภายใต้คอลเลคชันยอดนิยมตลอดกาล Lolita
๑๖:๐๕ โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน (acute diarrhea)
๑๖:๓๙ JGAB 2024 จัดเต็มครั้งแรกในประเทศไทยและอาเซียน กับกิจกรรมและโซนจัดแสดงเครื่องประดับสุดพิเศษ พร้อมต้อนรับนักธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับทั่วโลก เริ่ม 1 พ.ค. 67
๑๖:๒๘ สอศ. จับมือแอร์มิตซูบิชิ ดิวตี้ รับมอบเครื่องปรับอากาศในการจัดการเรียนการสอน เพื่อพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาด้านเครื่องปรับอากาศ
๑๖:๓๘ DKSH ประเทศไทย คว้า 8 รางวัลอันทรงเกียรติ ในงาน Employee Experience Awards ประจำปี 2567
๑๖:๑๖ เด็กล้ำ! นักศึกษา SE SPU คว้ารางวัลรองชนะเลิศ Best Paper ผลงานนวัตกรรมเนื้อสัตว์แพลนต์เบส สุดยอดแห่งความยั่งยืน