วิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนขยายธุรกิจไลฟ์สไตล์เอ็นเตอร์เทนเมนท์สู่ตลาดต่างประเทศ ครั้งแรกโดยเฉพาะประเทศแถบอาเซียน ซึ่งประเทศแรกที่บริษัทฯ จะเข้าไปลงทุน คือ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา โดยร่วมเป็นพันธมิตรกับทาง อิออน มอลล์ ศูนย์การค้าชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น เปิดให้บริการโรงภาพยนตร์สุดหรู 5 ดาวแห่งแรกในแบรนด์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ซึ่งกัมพูชานับเป็นประเทศแรกที่เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เข้าไปลงทุนเปิดโรงภาพยนตร์ในตลาดต่างประเทศอย่างครบวงจร ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ บริษัทฯ ได้เข้าไปดำเนินธุรกิจในลักษณะร่วมทุนในธุรกิจโบว์ลิ่งเพียงอย่างเดียวกับทาง บริษัท พีวีอาร์ จำกัด ของประเทศอินเดียเมื่อปี 2551 และได้รับการตอบรับอย่างดีมาโดยตลอด การขยายธุรกิจสู่ต่างประเทศครั้งแรกของ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ครั้งนี้กับศูนย์การค้าขนาดใหญ่และทันสมัยที่สุดในกัมพูชา โดยบริษัทฯ จะเข้าไปดำเนินธุรกิจเปิดให้บริการโรงภาพยนตร์ ในแบรนด์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ และ โบว์ลิ่ง ในแบรนด์ บลูโอ ริธืม แอนด์ โบว์ล ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ประมาณปลายปี 2557 ประกอบด้วย โรงภาพยนตร์ 7 โรง และโบว์ลิ่ง 14 เลน บนพื้นที่ประมาณ 6,000 ตารางเมตร ซึ่งจะเป็นโรงภาพยนตร์รูปแบบมัลติเพล็กซ์ที่ทันสมัยที่สุดด้วยการฉายภาพยนตร์ในระบบดิจิตอล 2 มิติ และ 3 มิติ
นายวิชา กล่าวถึงการขยายโรงภาพยนตร์ในประเทศกัมพูชาว่า จะเป็นการบุกเบิกตลาดภาพยนตร์ให้กลับมาคึกคักมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันประชากรของกัมพูชาที่เป็นวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ ที่ชอบเทคโนโลยีและความทันสมัย การชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์จะให้อรรถรสมากกว่าการชมภาพยนตร์อยู่ที่บ้าน เนื่องจากเทคโนโลยีของระบบการชมภาพยนตร์ในปัจจุบันซึ่งได้ปรับเปลี่ยนเป็นระบบดิจิตอล ทั้งแบบ 2 มิติ และ 3 มิติ จึงทำให้การชมภาพยนตร์สนุกสนานมากขึ้นด้วยภาพและเสียงที่คมชัด เสมือนจริง ซึ่งที่ผ่านมาภาพยนตร์ 3 มิติเรื่องแรกของไทย “แม่นาค 3D” ได้รับการตอบรับจากวัยรุ่นกัมพูชาเต็มทุกรอบทุกโรง มีคนจองบัตรชมภาพยนตร์ล่วงหน้าเกือบ 2,000 ที่นั่งในวันเดียว
ด้าน มาโกโตะ ยาจิม่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิออน มอลล์ กัมพูชา จำกัด กล่าวว่า เราเป็นนักพัฒนาที่บริหารห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่มากกว่า 100 แห่งในญี่ปุ่น ได้เริ่มทำธุรกิจในประเทศจีนมาตั้งแต่เมื่อ 4 ปีที่แล้ว และปัจจุบันกำลังพัฒนาห้างสรรพสินค้า 3 แห่งในปักกิ่งและเทียนจิน นอกจากนี้ ยังมองเห็นว่าอาเซียนมีความโดดเด่นในการเติบโตทางเศรษฐกิจนับจากนี้ไป ดังนั้น จึงมีความต้องการจะพัฒนาห้างสรรพสินค้าในอาเซียนแต่ละประเทศ สำหรับในประเทศกัมพูชาซึ่งผมทำหน้าที่อยู่ เราก็กำลังเตรียมความพร้อมเพื่อเปิดห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่ในปี 2557 โดยได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ไปเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมา และกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ในการสร้างห้างสรรพสินค้าที่พนมเปญไม่ได้มีวัตถุประสงค์จะสร้างเพื่อตอบสนองความต้องการของชาวพนมเปญ แต่ต้องการสร้าง “ห้างสรรพสินค้าที่เต็มไปด้วยความตื่นตาตื่นใจ ความสนุกสนานบันเทิง และความน่าประทับใจ ซึ่งล้ำหน้าเหนือกว่าที่ชาวพนมเปญจะจินตนาการ” กัมพูชาเป็นประเทศที่มีทั้งอดีตอันไม่ผาสุก อีกทั้งธุรกิจก็ยังอยู่ในระหว่างพัฒนา แต่ 70% ของประชากรอายุต่ำกว่า 30 ปี ซึ่งถือว่ายังอายุน้อยมาก จึงเป็นประเทศที่เปี่ยมล้นไปด้วยพลังงาน เป็นประเทศที่มีอนาคตไกล ดังจะรู้สึกได้จากลมหายใจของยุคสมัยใหม่อยู่ในทุกแห่งหนของเมืองหลวงที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ถ้าให้เปรียบแล้วสภาพในปัจจุบันก็เหมือนแม็กมาของภูเขาไฟที่รอวันปะทุพร้อมจะระเบิดออกมา
ห้างสรรพสินค้าอิออน มอลล์ พนมเปญ จะถูกแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ ห้างสรรพสินค้า และตัวคอมเพล็กซ์ ซึ่งได้เปิดให้ทางพารท์เนอร์เข้ามาเปิดร้านค้า โดยแบ่งออกเป็น 4 ชั้น
ชั้นแรก คือ ชั้น G จะเป็นร้านค้าแฟชั่นของต่างประเทศ รวมถึง ญี่ปุ่น, และร้านชั้นนำของกัมพูชา นอกจากนี้ ยังมีร้าน Car Service ตั้งอยู่บนพื้นที่ส่วนจอดรถ
ชั้นที่ 1 เป็นชั้นร้านค้าแฟชั่น โดยเน้นสำหรับผู้หญิงและเด็ก ๆ ซึ่งรวมถึงร้านขายของเล่น, อุปกรณ์อิเล็คโทรนิคต่าง ๆ, ร้านหนังสือ, อุปกรณ์เครื่องครัว และแม้กระทั่งร้านเสริมสวยต่าง ๆ
ชั้นที่ 2 จะะมีร้านอาหารให้เลือกมากมาย , โบว์ลิ่งและโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่
ชั้นบนสุดหรือชั้น 3 มีแผนที่จะสร้างโรงเรียนนานาชาติ, ฟิตเนส และสตูดิโอถ่ายทำรายการทีวี