สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแฟนรายการ “เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย” เมื่อบริษัท เฮลิโคเนีย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด โดย กิติกร เพ็ญโรจน์ ผู้ถือลิขสิทธิ์รายการ “เชฟกระทะเหล็ก” ในประเทศไทย ออกอากาศทุกวันพุธ เวลา 23.00 น. ทางช่อง 7 สี เตรียมเปิดเวทีศึกการแข่งขันทำอาหารข้ามประเทศ กับเจ้าของลิขสิทธิ์รายการ “เชฟกระทะเหล็ก” จากประเทศญี่ปุ่น ที่ส่งสุดยอดเชฟอาหารฝรั่งเศสชื่อดัง “เชฟฮิโรยูกิ ซาไก (Hiroyuki Sakai) บินตรงจากประเทศญี่ปุ่น ระเบิดศึกการแข่งขันบนเวที “เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย” กับ “เชฟเอียน-พงษ์ธวัช เฉลิมกิตติชัย” ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสุดยอดเชฟกระทะเหล็กอาหารยุโรป ประจำรายการเช่นกัน
แม้จะร้างลาเวทีการแข่งขันในรายการมาเกือบ 13 ปี แต่เชฟฮิโรยูกิ ซาไก ที่ได้รับการขนานนามว่า King of Iron Chef ในวัย 70 ปี ก็ยังโชว์ลีลาการทำอาหารได้อย่างกระฉับกระเฉง เดินเข้าสู่เวทีอย่างสมศักดิ์ศรี “เชฟกระทะเหล็ก” ระดับปรมาจารย์ สวัสดีทักทายกับ “ชาคริต แย้มนาม” พิธีกรด้วยความเป็นกันเอง จากนั้นก็เตรียมโชว์เมนูสุดพิเศษประจำตัว (Signature Dish) ซึ่งสุดยอดเชฟเป็นผู้คิดค้นมากว่า 35 ปี และกลายเป็นที่รู้จักในชื่อว่า “ซูกินี่พันกุ้ง” (Langoustine Wrapped in Courgette) ที่มีวัตถุดิบหลักได้แก่ “กุ้งลองกู้สทีน (Langoustine)” และแตงกวาซูกินี่ ที่เชฟบรรจงสไลด์เป็นเส้นๆ แล้วนำมาสานต่อกันด้วยความประณีต แล้วนำไปพันกับตัวกุ้งที่หมักด้วยส่วนผสมต่างๆ แล้วนำไปนึ่ง จากนั้นก็ปรุงน้ำซอสสูตรพิเศษ เชฟปรุงเมนูไป-ทำไปอย่างอารมณ์ดี แต่ที่ทำเอาดารารับเชิญสาวๆ อย่าง ขวัญ อุษามณี, ไอซ์ อภิษฎา และ โย ยศวดี กรี๊ดไม่หยุด ก็คือประโยคเด็ดที่ “เชฟซาไก” หยอดกลับมาว่า "เคล็ดลับการจะทำอาหารฝรั่งเศสให้อร่อยคือ..เชฟต้องหล่อ" เล่นเอาฮากันทั้งกอง
แล้วถึงเวลาชิม ด้วยความอร่อยกลมกล่อมของเมนูสุดพิเศษ ที่เชฟระดับโลกมาปรุงให้ชิมถึงที่ ทำเอาดารารับเชิญวางมือไม่ลงเลยทีเดียว โดยเฉพาะ “หนุ่มกอล์ฟ เบญจพล” ถึงขั้นเอ่ยปากว่า "เพิ่งรู้ว่าเวลาขึ้นสวรรค์เป็นอย่างไร"
เสร็จสิ้นโชว์เมนูเด็ด คราวนี้ก็ถึงเวลาท้าประลอง “เชฟซาไก” ก็เตรียมตัวประมือการแข่งขัน “เชฟเอียน-พงษ์ธวัช เฉลิมกิตติชัย” เชฟกระทะเหล็กอาหารยุโรป ประจำรายการทันที แต่ก่อนจะลงสนามประลอง เชฟทั้งสองท่านให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกก่อนการแข่งขันว่า...
“กลับมาลงสนามแข่งขันก็รู้สึกท้าทายนะ แม้ว่าจะไม่ได้แข่งนานแล้ว แต่ทุกวันผมก็ยังทำอาหารที่ร้านอยู่เป็นประจำอยู่แล้วก็เป็นสิ่งที่คุ้นเคย ส่วนการตัดสินใจเดินทางมาในครั้งนี้ ก็เพราะส่วนตัวแล้วรู้สึกอยากจะมาแข่งกันแบบสนุกๆ มากกว่า และที่สำคัญคือได้มาออกรายการทีวี แต่ก็มีตื่นเต้นนิดหน่อยนะ” เชฟซาไกกล่าวแบบอารมณ์ดี ทิ้งท้ายถึงเชฟเอียนว่า... “ก็อยากจะบอกกับเอียนซังว่าการแข่งขันก็คือการที่คนรอบข้างตัดสิน ไม่อยากให้เชฟเอียนสนใจตรงนั้น แค่ต่างฝ่ายต่างทำให้ดีที่สุด และสุดท้ายเราก็จะมาเป็นเพื่อนกัน”
ด้านเชฟเอียน กล่าวถึงความรู้สึกกับการแข่งขันครั้งสำคัญในครั้งนี้เช่นกันว่า... “การแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์ในชีวิตที่เงินก็ซื้อไม่ได้ ภูมิใจที่เราเป็นแค่คนไทยตัวเล็กๆ ที่เชฟระดับปรมาจารย์ให้เกียรติกับเราขนาดนี้ ยอมรับว่ารู้สึกกดดันครับ แต่พอได้มาเจอกับเชฟซาไก ซึ่งมีความโอบอ้อมอารี เป็นกันเอง โดยเฉพาะประโยคที่ท่านบอกว่าให้ผมเต็มที่ ไม่ต้องออมมือ เค้าเองก็จะทำให้ดีที่สุดกับการแข่งขันครั้งนี้เช่นกัน ทำให้ยิ่งรู้สึกประทับใจครับ ในฐานะเชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย ก็ต้องถือโอกาสของคุณที่เชฟให้เกียรติมาร่วมรายการ เชื่อว่าผู้ชมจะได้รับความสนุกและความประทับใจไปกับการมาเยือน “เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย” อย่างแน่นอนครับ..” เชฟเอียนกล่าวทิ้งท้ายก่อนจะขอตัวไปเตรียมตัวเพื่อตบเท้าสู่สนามประลองกับเชฟซาไก
สองสุดยอดฝีมือที่ขึ้นชื่อว่าเป็น..สุดยอด “เชฟกระทะเหล็ก” ทั้งสองประเทศ จะรังสรรค์เมนูสุดพิเศษจาก “วัตถุดิบปริศนา” ที่ท่านประธาน “สันติซัง” กำหนดไว้ได้อย่างสมศักดิ์ศรีหรือไม่ การแข่งขันในครั้งนี้จะดุเด็ด เผ็ดมัน ขนาดไหน... ความร้อนระอุบนเวที “เชฟกระทะเหล็ก” กำลังจะเกิดขึ้น..พลาดไม่ได้ 27 มี.ค.นี้ เวลาห้าทุ่มตรงทางช่อง 7 สี