ผู้กำกับพิทักษ์ เล่าถึงเบื้องหลังสุดโหดกับการถ่ายฉากสุดหวานครั้งนี้ว่า “เป็นฉากที่พระเอก กับนางเอกเข้าคู่กันเป็นครั้งแรก เข้าคู่หมายถึงการเต้นรำลีลาศ แต่ไม่ได้อยู่ในห้องฝึกซ้อมทั่วไป เป็นการเข้าคู่ที่อยู่บนภูทับเบิก เป็นฉากที่ผมประทับใจมากอีกหนึ่งฉากของเรื่องนี้ เพราะโรแมนติกมาก แถมยังเป็นการถ่ายทำที่ยากมาก เราต้องไปเตรียมตัวกันตั้งแต่ตี 5 ลมแรงมากอุณหภูมิต่ำกว่า 5 องศา ช่วงถ่ายทำเป็นช่วงหน้าหนาว อากาศหนาวมาก แล้วช่วงเวลาที่ถ่ายได้ ถ่ายได้แค่ช่วงเช้าเท่านั้นเอง หากเกินจากนี้แสงมันจะไม่ได้แล้ว ก็ต้องมาเซ็ทให้พร้อมที่เหลือก็เอาใจช่วย เจมส์ กับ สายเอี๊ยม ทั้ง 2 คน ทำออกมาได้ดีมาก เป็นที่น่าประทับใจทั้งผมและทีมงานมากครับ”
ด้านหนุ่ม เจมส์ จิรายุ เล่าถึงฉากโรแมนติกกับการเต้นลีลาศนอกสถานที่ครั้งนี้ว่า “ต้องบอกว่ามันเช้ามากครับ ไปถ่ายกันที่ภูทับเบิก แล้วต้องขึ้นไปถึงบนนั้นก่อน 6 โมงเช้า หรือก่อนพระอาทิตย์จะขึ้นครับ แล้วมันหนาวสุดๆ แต่พอพระอาทิตย์ขึ้นเท่านั้น โอ้โหว!แดดแรงและร้อนมากครับ เผาไหม้กันเลย ฉากนี้ผักบุ้งเขาสอนลีลาศให้กับน้ำน่าน เปิดฟลอร์กันบนภู วิวสวยมาก ต้องดูกันนะฉากนี้สวยมากครับ”
นอกจากนี้ สายเอี๊ยม กีรติกา ก็ขอแอบเม้าท์หนุ่ม เจมส์ จิ กับความเป็นหนุ่มแบ๊วเจ้าสำอางในครั้งนี้ว่า “เจมส์ เขาเป็นคนน่ารักค่ะ นิสัยดีเป็นคนขี้เล่น ชอบแกล้งคนในกอง เป็นผู้ชายที่มีความแบ๊วในตัวเองเวลาเขาจะทำไรจะติดสำอางนิดๆ เดินไปไหนที่มีแดดเขาก็จะไม่เดิน ต้องกางร่ม ต้องเอาผ้าคลุม เดี๋ยวผิวเสีย เจมส์เป็นคนรักผิวมากค่ะ(555) ฝากติดตาม เฟิร์สเลิฟ ด้วยนะคะ เอี๊ยมเชื่อว่าคนดูจะได้แง่คิดกับ มุมมองความรัก หากคุณรักใครสักคน คุณพร้อมที่จะทำทุกอย่างให้คนที่รักมีความสุข เชื่อว่าความรักทำให้เรายอมเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีขึ้น จากคนที่ไม่เอาไหนก็ยอมเปลี่ยนตัวเองให้มีคุณค่าเพื่อคนรักได้ค่ะ”
ลีลาศจะพาให้พบรักแรก ภาพยนตร์ “เฟิร์สเลิฟ” 12 กันยายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์