“ปีนี้ จุ๋ยว่ามีโรงเรียนใหม่เข้ามาเยอะ น้องๆทุกโรงเรียนเก่งหมด มันทำให้เราได้ชมการแสดงใหม่ๆที่ไม่ซ้ำเดิม ชอบตรงที่น้องๆรู้จักประยุกต์นำของในท้องถิ่นในจังหวัดเขา มาใช้สร้างสรรค์เป็นผลงาน ให้มันออกมาเป็นรูปแบบที่ทันสมัยขึ้นตามแบบฉบับวัยเขา แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงความเป็นไทยไว้ด้วยเช่นกัน ซึ่งในปีนี้รายการก็เปิดโอกาสให้น้องๆได้นำเสนอแนวคิดใหม่ๆของพวกเขาได้อย่างเต็มที่ มากกว่านั้นพอจบในแต่ละโชว์ คณะกรรมการก็จะพูดแสดงความคิดเห็นเกือบรายคน มันเลยทำให้น้องๆได้รับความรู้แบบอัดแน่น ไปปรับปรุงและพัฒนาได้พร้อมๆกันด้วย ค่ะ”
เมื่อถามว่ารู้สึกกดดันบ้างไหม จุ๋ยให้สัมภาษณ์ว่า “ในฐานะพิธีกรรู้สึกกดดันมาก เพราะไม่ว่ายังไงก็ต้องมีหนึ่งทีมต้องตกรอบไปในรอบตัดเชือก เป็นกติกาที่เราก็สะเทือนใจมาก เห็นความมุ่งมั่นของน้องๆ บางทีถึงขั้นเสียน้ำตาให้เลยก็มีค่ะ สุดท้ายนี้จุ๋ยอยากฝากถึงน้องๆที่มีความฝันทางด้านนี้ ชอบร้อง ชอบเต้น เล่นดนตรี อยากให้ลองมาสมัครในรายการนี้ดู เพราะเป็นรายการที่เป็นเวที ให้น้องๆได้แสดงความสามารถอย่างถูกที่ค่ะ เป็นรายการที่ไม่มีนอก ไม่มีใน ถือว่าเป็นเวทีที่ศักดิ์สิทธิ์มากสำหรับการประกวดร้องเพลงลูกทุ่งมัธยมฯสำหรับจุ๋ยค่ะ อย่างน้อยน้องๆก็ได้รับประสบการณ์ ถือเป็นความภาคภูมิใจให้แก่ตนเอง โรงเรียน และพ่อแม่ค่ะ สามารถต่อยอดเป็นอาชีพได้ในอนาคตอีกด้วย สุดท้ายอยากให้ผู้ชมเอ็นดูและรักรายการนี้ไปอีกนานๆนะคะ ส่วนในฐานะพิธีกรจุ๋ยก็จะพยายามทำในส่วนของจุ๋ยให้ดีที่สุดค่ะ ” ติดตามชม รายการ “ ชิงช้าสวรรค์ ” ได้ทุกวันเสาร์ เวลา 16.30 น. ทางโมเดิร์น ไนน์ ทีวี