“ในเรื่องรับบท “จอมนาง” เป็นหลานของ “ครูเทียม” รับบทโดยพ่ออี๊ด-สุประวัติ ซึ่งเป็นเจ้าของคณะลิเกเทียมฟ้า จอมนางจะอยู่กับครูเทียมมาตั้งแต่เล็กๆ ก็เลยได้ซึมซับในด้านลิเก จนได้ขึ้นมาเป็นนางเอกลิเกของคณะ และยังต้องคอยดูแลทุกอย่างในบ้าน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของปู่ด้วย ต้องบอกว่าเรื่องนี้เป็นครั้งแรกที่เปาได้มีโอกาสร้องและรำลิเกด้วย เป็นอะไรที่แปลกใหม่มาก การร้องลิเกมันก็คล้ายๆ กับการร้องเพลง แต่ว่ามันไม่เหมือนกัน คือเปาจะร้องออกทางลูกทุ่งมาก แต่การเอื้อนในทางกลอนลิเกจะเป็นแบบราชนิเกลิง ไม่มีลูกคอเยอะ ต้องปรับใหม่ทั้งหมด ส่วนการรำนี่ยากมากสำหรับเปา ต้องเริ่มเรียนตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน เพราะการรำลิเกทรงเครื่องจะละเอียดมาก ทั้งท่ารำและคำร้องจะต้องสอดคล้องกัน ซึ่งเปาต้องไปเวิร์คช้อปเพิ่ม ก็เป็นครั้งแรกที่ได้เจอกับพวกพี่ๆ โดยเฉพาะพี่หนุ่ม-ศรราม ที่ไม่เคยได้ร่วมงานกันมาก่อน เปาก็ตื่นเต้นมากๆ และดีใจที่ได้ร่วมงานกัน ตอนแรกไม่กล้าคุยแต่พอได้เข้าเวิร์คช้อปได้รู้นิสัยกัน เปาก็ได้ค้นพบกลุ่มใหม่ที่มีนิสัยขี้แกล้ง ขี้อำ เริ่มจากพี่หนุ่ม มาวันแรกก็อำเลย ซึ่งพี่หนุ่ม ก็จะคอยสอนการดูมุมกล้องของตัวเอง สอนแอ็คติ้งในบางอารมณ์ที่เรายังไม่ค่อยเข้าใจด้วย ทำให้เราใกล้ชิดสนิทกันมากขึ้น เปาก็ขอฝากละครเรื่อง “ลิเก๊ ลิเก” ด้วยนะคะ เพราะเหมือนเป็นการสืบสานวัฒนธรรมและได้ความสนุกสนานอีกด้วย เราทุกคนตั้งใจฝึก ตั้งใจเรียนกันเต็มที่ ก็อยากให้แฟนๆ ได้ดูกัน รับรองว่าสุดยอดมากๆ ค่ะ”
ติดตามชมบทบาทใหม่ของนางเอกสาว เปาวลี พรพิมล ในละคร “ลิเก๊ ลิเก” ได้ ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี 20.10 น. ช่อง 5 เริ่มตอนแรก วันพฤหัสบดี ที่ 2 ตุลาคมนี้