“ปิ๋ม ซีโฟร์” ยัน! ทำทุกอย่างเพื่อลูก เป็น “แม่เลี้ยงเดี่ยว” ต้องเข้มแข็ง

"ก็ต้องยอมรับว่าเหนื่อยเหมือนกัน คนโตนี่จะเลี้ยงมาอีกแบบหนึ่ง เพราะว่าเหตุการณ์ที่คุณแม่เจอตอนเลี้ยงลูกคนโตอีกแบบหนึ่ง ลูกคนเล็กอีกแบบหนึ่งจะใช้สิ่งที่ปลูกฝังลูกคนโตมาให้เหมือนกับลูกคนเล็กไม่ได้ เพราะสถานะการณ์เปลี่ยนไป ลูกคนโตปิ๋มเลือกที่จะเล่าทุกอย่าง พูดทุกอย่างให้ลูกคนโตฟังให้เขาฟังจากปากเราไม่ใช่ให้เขาไปฟังจากคนอื่น แล้วมาตั้งคำถามแม่ ปิ๋มคิดว่าทุกอย่างอยู่ที่แม่หมดเลยที่เราจะป้อนข้อมูลหรืออะไรก็แล้วแต่ให้ลุกฟัง ปิ๋มคิดว่าเขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของปิ๋ม เวลาปิ๋มมีปัญหาเมื่อก่อนตอนเขาเด็กๆ ตัวเท่าเนี้ย (4 ขวบเท่าลูกคนเล็ก) ปิ๋มเลือกที่จะระบายกับเขา ร้องไห้กับเขาทุกอย่างเขาฟังบ้างไม่ฟังบ้าง รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ปิ๋มคิดว่าซักวันหนึ่งเขาจะต้องรู้เรื่อง แล้วก็เลือกที่จะเล่าทุกอย่างให้เขาฟังเหตุการณ์ทั้งหมดที่แม่เกิดปัญหา มีความทุกข์อะไรเล่าให้เขาฟังหมด ปิ๋มคิดว่าเขาน่าจะรับได้แล้วก็บอกเขาทุกอย่าง ปิ๋มกลัวลูกตั้งคำถามว่าพ่ออยู่ไหนตลอดเวลา ก่อนหน้านั้นก็จะเตรียมประโยคต่างๆ ที่จะเล่าให้ลูกฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วตอนนั้นเขาก็ถามว่าพ่อไปไหน เราก็บอกเขาว่าไม่มีพ่อมันเป็นอย่างนี้ เราก็พยายามจะเปรียบเทียบให้เขาฟัง เขาชอบอุลตร้าแมน ชอบยอดมนุษย์เราก็จะบอกเขาว่าอุลตร้าแมนเขาก็ไม่มีพ่อ แต่เขาก็เหาะเหินเดินอากาศได้ ก็จะพยายามปลุกฝัง เพราะฉะนั้นมีดีไม่พ่อมันเป็นเรื่องธรรมดา เราก็พยายามสอนเขา แต่ลูกคนเล็กสอนแบบนั้นไม่ได้จะต้องพูดเรื่องใหม่ให้เขาฟัง(ยิ้ม) การเป็นทั้งพ่อและแม่ไม่รู้ว่าดีหรือเปล่า แต่จะทำให้ดีที่สุด"