มร.เอ็ดมอนด์ เนียว คิม ซูน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ช้างอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า "ช้าง" ประสบความสำเร็จในการจัดคอนเสิร์ต "ช้าง มิวสิค คอนเนคชั่น" อย่างสูง โดยได้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ในคอนเซ็ปต์ "เฟรช" ผ่าน 3 แนวดนตรี ได้แก่ ร็อคเฟรช, ป็อปเฟรช และ ฮิปฮอปเฟรช โดยนำทัพศิลปินจากค่ายเพลงระดับชั้นนำ มาคอนเน็คกับสิ่งที่ดีที่สุดในวงการเพลง ไม่ว่าจะเป็น นักร้อง, ดนตรี, เวที, แสง, สี และ เสียง เพื่อสร้างสรรค์ให้กลายเป็นโชว์สุดเอ็กซ์คูลซีฟ มอบให้กับแฟนช้าง โดยได้เดินทางไปจัดคอนเสิร์ตในจังหวัดใหญ่ๆ หลายแห่ง ปรากฏว่า ได้รับการต้อนรับจากแฟนเพลงอย่างมหาศาล ขณะนี้ มีผู้ชมคอนเสิร์ต "ช้าง มิวสิค คอนเนคชั่น" ไปแล้วมากกว่าล้านคน จนกลายเป็นคอนเสิร์ตที่มีแฟนเพลงให้การรอคอยติดตามชมทั่วประเทศ ถือได้ว่า กลยุทธ์มิวสิคมาร์เก็ตติ้ง มีประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทั้งนี้ ได้เตรียม ระเบิดคอนเสิร์ต "ช้าง มิวสิค คอนเนคชั่น ร็อคเฟรช" อย่างยิ่งใหญ่ โดยดึง บอดี้สแลม, โปเตโต้ , บิ๊กแอส และ ทเวนตีไฟฟ์อาเวอส์ พร้อมด้วยทัพเซเล็บบริตี้ มามอบความสุขให้กับชาวกรุงเทพฯ ที่บริเวณลุมพินีสแควร์ ในวันที่ 9 เมษายน 2559 นี้ ผู้สนใจสามารถรับบัตรชมได้ที่ ที่ www.changmusicconnection.com และ www.facebook.com/ChangWorld
คอนเสิร์ต "ช้าง มิวสิค คอนเนคชั่น ร็อคเฟรช" ที่จะระเบิดความมันส์อย่างยิ่งใหญ่ ในวันที่ 9 เมษายน 2559 นี้ คาดว่าจะมีคนรุ่นใหม่ สนใจเข้าร่วมชมเป็นจำนวนมาก เนื่องจากกระแสความนิยมที่ได้รับการกล่าวขานอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ยังมีไฮไลท์ 2 โซนความสนุก สุดเฟรช ได้แก่ คอนเสิร์ตโซน จัดเต็มความสนุกกับแนวดนตรี สีสันใหม่ ร็อคเฟรช กับศิลปินวงร็อคระดับชั้นนำ บอดี้สแลม, โปเตโต้ , บิ๊กแอส , และ ทเวนตีไฟฟ์อาเวอส์ แทคทีมมากับเหล่าเซเล็บบริตี้สุดออต อาทิ โดม (ปกรณ์ ลัม), วุ้นเส้น (วิริฒิพา ภักดีประสงค์) มายด์ (ณภศศิ สุรวรรณ), เบเบ้ (ธันย์ชนก ฤทธินาคา), วีเจจ๋า ณัฐฐาวีรนุช ทองมี และ หญิงแย้ (นนทพร ธีระวัฒนสุข) ที่จะมาร่วมสนุกกับ "แอคทิวิตี้โซน" นำเล่นเกมส์สุดมันส์ พร้อมรับของรางวัลมากมาย"
สำหรับ คอนเสิร์ต "ช้าง มิวสิค คอนเนคชั่น" คือกิจกรรมภายใต้การรุกตลาดผ่านกลยุทธ์ "มิวสิค มาร์เก็ตติ้ง" ที่สามารถเข้าถึงและโดนใจกลุ่มเป้าหมาย โดยสร้างแบรนด์ "ช้าง" ให้แข็งแกร่งไปพร้อมๆ กับเปิดประสบการณ์ดีๆ ภายใต้แนวคิด "เพื่อเพื่อน เต็มที่เสมอ" มร.เอ็ดมอนด์ กล่าวสรุปในที่สุด