"ในช่วงที่ผมไม่ได้คุยกับภรรยา คือเป็นช่วงที่ผมขึ้นโครงการ "Ride With Me ขี่ตามฝัน" ซึ่งเป็นรายการโทรทัศน์ ก่อนหน้านั้นเป็นช่วงที่ออกไปเซอร์เวย์เส้นทาง ทำรายการท่องเที่ยวที่เน้นไปในสถานที่ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักเท่าไหร่ ด้วยการใช้เน็ตเวิร์คของสังคมไบร์คเกอร์ พูดง่าย ๆ ว่าต้องทำการบ้านในการทำรายการ ทุกอย่างเลยมีผล ก็คือมีเวลาเจอกันน้อยลง และผมก็ไม่อยากรื้อฟื้นความรู้สึกหรือปัญหาต่าง ๆ ก่อนหน้านี้ ในช่วงที่เริ่มห่างกัน มีความคิดเห็นไม่ตรงกันในบางเรื่อง และก็มีเหตุการณ์อะไรบางอย่างที่ คุยกันทีไรก็ไปในทางทะเลาะกันตลอด เรื่องมันเริ่มมาจากหมอกกันน็อค คือหมวกรุ่นนี้เป็นที่นิยมกันมากเลย และทีมงานผมที่ขี่มอเตอร์ไซด์ 4 คน ก็ใช้หมวกนี้เหมือนกันหมด"
ล่าสุดที่คุณพลอยออกมาบอกว่ารอคุณมาเซ็นใบหย่า?
"จริง ๆ ผมก็ไม่เคยออกมาพูดอะไรทั้งนั้นนะครับ เพราะจริง ๆ ผมก็ไม่ใช่คนที่มีนิสัยที่จะมาคอยต่อยอดข่าว หรืออะไร ผมค่อนชข้างจะเป็นคนที่ส่วนตัวมาก จริง ๆ แล้วผมควรจะออกมาพูดและอธิบายอะไรลบ้างเนี่ย มันเป็นช่วงที่ผมก็ จริง ผมก็เศร้าอยู่นะ ที่มันเป็นเรื่องครอบครัวที่มีปัญหา ในช่วงนั้นมันก็ไม่มีกระจิตกะใจที่จะออกมาพยายามอธิบายอะไร และผมก็ทำอะไรของผมไปด้วย ผมแค่คิดว่าสักพักหนึ่งมันอาจจะผ่านไปได้ แต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น พอผมจะออกมาพูดอะไรปุ๊บมันก็มีการเปลี่ยนความคิดของผมไปแล้ว ตอนนั้นผมออไปพูดอะไรมันก็เป็นแง่ลบหมด มันไม่มีใครเชื่ออยู่แล้ว จริง ๆ ผมรู้สึกกดดันและก็เครียด การที่ผมไม่ได้ออกไปพูดอะไรเลยมันดันกลายเป็นแง่ลบ ไม่ได้มีคำตอบที่คนเขาอยากจะฟัง มันเลยมีข่าวที่มันออกไปทางโซเชี่ยลเป็นพายุก้อนใหญ่มาก เหมือนเป็นสึนามิลูกใหญ่ที่ผมจะออกไปต้านยังไงก็ไม่อยู่แล้ว ผมก็เลยอยู่นิ่ง ๆ ซึ่งมันก็ไม่ได้ดีหรอกครับ และอันนี้ที่ผมยอมรับว่าผมผิดพลาดคือผมไม่ได้ออกมาพูดอะไร ผมไม่ได้อธิบายเลยปล่อยให้เรื่องมันเลยเถิด ซึ่งผมต้องขอโทษทุกคน ณ ตรงนี้ด้วยนะครับ
เรื่องอีกประเด็นที่ปีเตอร์ไปพูดว่าลูกคนที่สองไม่ใช่สายเลือดคุณ?
"เรื่องลูกเป็นลูกผมทั้งคู่แน่ ๆ ยืนยันเลย ผมว่าในช่วงจังหวะที่ทุกอย่างมันเกิดขึ้น มันจะมีการเสียดสีการสื่อสารระหว่างผมกับพลอย และมันก็คงจะมีช่วงที่ผมขอห่างนิดหนึ่งเพราะผมก็ไม่อยากเข้าไปทะเลาะต่อหน้าลูก ผมก็เลยลองออกมาเซอร์เวย์โครงการอะไรของผมไป มันก็เป็นจังหวะที่ปัญหาเกิด คนเลยอาจจะตีความไปแบบนี้ และผมก็ยังไม่พูดอะไร มันก็เลยไปกันมใหญ่ ผมไม่ได้เป็นคนพูด เพียงแต่หลายคนตีความ หลายคนสงสัย
ถามแอนนี่ ไหน ๆ ก็มานั่งตรงนี้แล้ว อยากถามว่าคุณคบกันหรือเปล่า?
"ไมได้คบค่ะ และก็เหมือนที่พี่เขาบอกตั้งแค่ศูนย์เลยเราคุยกันว่าเราอยากจะบิ้วรายการ รายการที่เราทำเหมือนเป็นความฝันของแอนเลย ไม่มีความสัมพันธ์แอบแฝงแน่นอน แอนว่าแอนต้องขอโทษสังคมสำหรับการกระทำบางอย่างอาจจะทำให้สังคมเขใจผิดหรือรู้สึกไม่ได้กับแอน แอนก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่อยากจะไปเป็นมือที่สามใคร แอนเข้ามาตรงนี้ก็เพื่อมาทำงานที่แอนรัก
มาทำงานด้วยกันวันนี้ทั้งคู่ออกมาปฎิเสธความสัมพันธ์แล้วถ้าวันหนึ่งจะมีโอกาสหรือเปล่าที่จะคบกัน?
"ใครที่ออกทัวร์ด้วยกันบ่อย ๆ ก็มีความสนิทสนมกันอยู่แล้ว แต่ก็ยังยืนยันว่าเป็นแค่พี่น้องกัน รูปทุกอย่างที่ออกไปมันเป็นแค่ความบังเอิญเท่านั้น และเราก็ไม่ได้ออกมาปฎิเสธอะไร เลยกลายไปกันใหญ่"
มีข่าวว่าไม่ได้กลับไปเยี่ยมลูกเลย และก็ส่งเสียเลยจริงหรือเปล่า?
"ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าบ้าน แต่เรื่องส่งเสีย ในช่วงแรกผมก็จ่ายให้ทุกเดือน เดือนละสองสามแสน แต่พอหลัง ๆ มันไม่มีงาน ผมก็ลงทุนหลายโปรเจ็ค งานมันตาย มันก็เลยไม่มีรายได้ เงินก็เลยเริ่มหมด พอผมเข้าไปคุย เราคุยกันสองคนมันก็ไม่สามารถเคลียร์กันได้สักที ทีนี้ผมเลยอยากให้มีผู้ใหญ่อยู่ด้วย มานั่งเคลียร์กันเป็นเรื่องราวเพื่อเดินหน้า เพราะทุกอบย่างเพื่อผมทำ ผมทำเพื่อลูก ทุกคนที่เป็นพ่อ ทำไมจะไม่อยากเจอลูก พ่อทุกคนต้องคิดถึงลูกอยู่แล้ว ผมฝันถึงลูกทุกวัน ผมคิดว่าถ้าผมเข้าไป จะมีปัญหากับพลอย และลูกจะเห็น ผมไม่อยากให้ลูกเห็น ล่าสุดผมก็เข้าไปคุยแล้วและก็เริ่มตกลงกันว่า ถ้าอยู่กันไม่ได้ ถ้าอยู่กันแล้วทะเลาะกัน เราหย่ากันดีกว่า ผมเข้าไปพร้อมญาติอผู้ใหญ่ และก็บอกเขาไม่ต้องห่วงจะรับผิดชอบทุกอย่าง ที่ผมทำรายการ ผมจะหารายได้มาสนับสนุนลูก ผมจะซื้อบ้านให้ใหม่ ไม่ต้องห่วง ผมขออย่างเดียวว่าขอให้มีสิทธิ์ได้เจอลูกด้วย
มีคนบอกว่าคุณพยายามเข้าไปหาลูกแต่โดนปิดกั้น?
เป็นอะไรที่ปกติอยู่แล้ว พอทะเลาะกันปุ๊บก็อาจจะไม่สะดวก เอาเป็นว่าเรื่องดีเทลที่ผ่านมาผมขอให้มันจบไป และก็เดินหน้าเพื่อลูก สร้างอนาคตที่ดีให้กับลูก ผมยอมรับว่าผมไม่ใช่พ่อที่เพอร์เฟ็ค ไม่ใช่สามีที่เพอร์เฟ็ค มันไม่มีใครที่เพอร์เฟ็คอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะมีใครที่ผืดพลาดอะไรมาเนี่ย ที่ผมคุยกับพลอย ลองดูอันไหนที่วางไว้ก่อนก็วางไว้ดีกว่า แล้วก็เดินหน้าเพื่อลูก ลูกจะได้มีอนาคตที่ดี