"นนนี่ ณัฐชา" ฟุ้งที่บ้านผ่านฉลุย รับศึกษาดูใจพระเอกร่วมช่อง “เอี๊ยง สิทธา”

กลัวคนมองว่าเป็นรักสร้างกระแสไหม หนูมองว่าเค้าเราคบกันศึกษากันแล้วพากันไปในทางที่ดีขึ้นมันก็เป็นอะไรที่ดีที่บวกอยู่แล้ว คือจริงๆ มันก็เป็นการโปรโมทด้วย แต่เราก็รู้สึกดีกับพี่เค้า แล้วพี่เค้าก็รู้สึกดีกับเรา เป็นการศึกษากันไปที่อนาคตอาจจะมีโอกาสเป็นแฟนกันได้หรือไม่ก็ไม่รู้ แต่ว่าก็ต้องรอดูกันไปค่ะ พี่เอี๊ยงเป็นอย่างไรบ้าง พี่เอี๊ยงเทคแคร์ดีค่ะ ตอนแรกต่างคนต่างเป็นคนเอาแต่ใจกันมากๆ เลย ก็มีปัญหากันบ่อยทะเลาะกันทุกวันช่วงแรกๆ แต่พอมาช่วงหลังๆ ต่างคนต่างปรับตัวเข้าหากัน อย่างงอนกันไป 4 วันแล้วทนไม่ไหวก็ต่างคนต่างมาง้อกันเอง ไม่มีใครง้อใครก่อน พอมาเจอกันที่กองก็หาย เอี๊ยงมีวิธีการง้อยังไง พี่เค้าก็จะเข้ามาคุยแล้วก็ถามเราว่า "เป็นร่ะ" อะไรอย่างเงี่ยค่ะ แต่แค่คุยนิดเดียวหนูก็ยิ้มแล้ว ล่าสุดหนูไม่รู้ว่าเค้างอน เพราะหนูก็งอนเหมือนกัน (หัวเราะ) ต่างคนต่างงอน ที่งอนเพราะ เรื่องโทรไปแล้วไม่รับสายค่ะ สเปกนนนี่เป็นยังไง หนูชอบคนที่โตกว่า แล้วก็ชอบคนที่ขยันทำงาน มีงานมีการทำเป็นเรื่องเป็นราว ไม่ใช่ว่างๆไปวันๆ อย่างพี่เอี๊ยงก็ไม่ได้ตรงสเปกขนาดนั้นนะคะแต่ว่า เราก็อยู่ในช่วงที่ศึกษากัน พี่เอี๊ยงก็โอเคยังไม่มีอะไรที่ทำให้หนูรู้สึกว่าขัดแย้ง หรือไม่ชอบ แต่พี่เอี๊ยงแนะนำทุกคนเลยว่า นนนี่ คือแฟน ก็ต้องแล้วแต่พี่เอี๊ยงค่ะ ส่วนหนูเองก็ยังไม่มีใครก็มีแต่พี่เอี๊ยงที่ศึกษาดูใจกัน ส่วนจะใช้คำว่าแฟนตอนไหนหนูว่าเรื่องเวลามันบอกไม่ได้อยู่แล้ว มันต้องดูกันไปเรื่อยๆ พี่เอี๊ยงไม่มีน้อยใจบ้างเหรอ จีบมานานแล้วยังไม่เป็นแฟนซักที คือหนูก็เป็นผู้หญิงน๊า ก็ต้องค่อยเป็นค่อยไป หนูยังใช้คำว่าแฟนไม่ได้ค่ะ เพราะพ่อห่วงมาก (หัวเราะ) แล้วตอนนี้เราก็มีละครเรื่องพยัคฆาแล้วก็เรื่องดงผู้ดีด้วย ทางช่อง 8 ก็ป้อนงานให้เต็มทั้ง 7 วันเลยก็อยากให้โฟกัสที่งานละครของนนนี่ด้วยค่ะ เราก็พยายามเต็มที่สุดความสามารถให้สมกับที่ช่อง 8 ให้ความไว้วางใจในตัวหนูค่ะ นนนี่อายุห่างจากพี่เอี๊ยงกี่ปี ก็ประมาณ 10 ปีค่ะ เลยทำให้เราทะเลาะกันบ่อย อาจจะความคิดไม่ตรงกัน โทรเช็คกันตลอดเวลาเลยไหม ไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ อีกอย่างเรายังไม่ถึงกับเป็นแฟนกันค่ะ แค่ศึกษากันไป ทำไมถึงถูกใจพี่เอี๊ยง หนูก็โสดมานานไม่เจอใครเลย หลังเรียนจบ ก็ได้มาเล่นละคร พยัคฆา เราเจอพี่เอี๊ยงที่ฟิตติ้ง ที่บริษัทอาร์เอส เจอที่กองถ่าย ก็เริ่มคุยกัน พี่เอี๊ยงเป็นฝ่ายขอไลน์ พอเราคุยๆ กันไปพี่เอี๊ยงก็ชวนไปเล่นฟิตเนทแถวบ้านเพราะบ้านหนูกับพี่เอี๊ยงใกล้กัน พอเราได้มีเวลาทำอะไรร่วมกันก็เลยรู้สึกดี ยิ่งดึงกันไปในทางที่ดีขึ้น เราก็โอเค พี่เอี๊ยงสอนเรื่องการแสดงบ้างไหม ก็สอนค่ะ หนูเป็นคนที่สมาธิสั้น คือคิดอะไรปุ๊บก็ทำเลย พี่เอี๊ยงเค้าก็จะชวนมานั่งที่รถหลังซีนที่กองละครว่าง แล้วก็เปิดเพลง ให้เราหลับตาแล้วตีความ สอนเป็นเรื่องเป็นราวเลย มีบทเลิฟซีนกันบ้างไหม มีค่ะจูบปากเลย (หัวเราะ) ฉากนั้นรุนแรงมาก เขินมาก เพราะคนในกองเยอะ แต่พี่เค้าก็สุภาพ มีขออนุญาตก่อนเข้าฉาก เคยพาเอี๊ยงไปเจอพ่อแม่บ้างหรือยังคะ มีพาไปเจอแล้วค่ะ ที่เกาหลี พอดีพี่เอี๊ยงเค้าไปเที่ยวกับพวกเพื่อนๆ แล้วหนูก็ไปกับครอบครัวไปพักผ่อนกัน ซึ่งป๊าหนูจะห่วงหนูมาก แต่ก็บอกค่อยๆ ศึกษากันไปทีละขั้นดีกว่า ป๊าได้คุยกับพี่เอี๊ยงค่ะ เหมือนจะสกรีนเลย(หัวเราะ) ก็มีชมพี่เอี๊ยง ว่าภาษาเก่งนะ หล่อ ป๊าสอนหนูหลายเรื่องในเรื่องของความเป็นลูกผู้หญิงอ่ะค่ะ ส่วนคุณแม่ก็แล้วแต่หนูเพราะคุณแม่ตามใจอยู่แล้วค่ะ