นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) หรือ CMO ผู้นำธุรกิจสื่อสารการตลาดแบบครบวงจรแห่งอาเซียน ครอบคลุมธุรกิจด้านอีเว้นท์,ด้านเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ และธุรกิจไลฟ์สไตล์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ บีอีซี- เทโร มิวสิคและ Malama COLLECTIVEแพลตฟอร์มฟังเพลงออนไลน์ ที่เน้นเพลงนอกกระแส ที่เพิ่งร่วมกันเปิดตัวชุมชนดนตรีแห่งใหม่ขึ้น ภายใต้ชื่อ "MACROWAVE" ซึ่งเป็นกลุ่มสังกัดที่รวมตัวของศิลปินอิสระ ที่สร้างผลงานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยจะสนับสนุนศิลปินอิสระในรูปแบบ Statrup Music มีการให้ศิลปินได้เรียนรู้ผ่านเวิร์กช้อป มีพื้นที่ให้ฝึกซ้อมดนตรี ตลอดจนมีเวทีให้ได้แสดงสดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการสร้างผลงานเพลงที่ยั่งยืน และที่สำคัญที่สุด คือ จะไม่เปลี่ยนแปลงตัวตนของศิลปิน
ทั้งนี้ CMO ในฐานะที่อยู่ในแวดวงธุรกิจอีเว้นท์ ตลอดจนการให้บริการ ระบบภาพแสงและเสียงแบบครบวงจร ได้ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับทางMACROWAVE ในการเปิดเป็นหน่วยธุรกิจใหม่ขึ้นมา ใช้ชื่อว่า "MACROWAVE EXPERIENCE" (มาโครเวฟ เอ็กซ์พีเรียนซ์) ดำเนินธุรกิจในลักษณะการรับบริหารจัดงานอีเว้นท์ ,งานคอนเสิร์ต ตลอดจนจัดงานเทศกาลดนตรี ของศิลปิน ในสังกัดของ MACROWAVE ทุกกิจกรรม
"บริษัทฯ มองเห็นโอกาสของธุรกิจบันเทิง โดยเฉพาะในสายของงานดนตรี ที่เป็นตลาดที่กว้างและมีการเติบโตสูง ซึ่งบริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญ และอุปกรณ์ที่ครบครัน จึงเข้าร่วมกับ บีอีซี- เทโร มิวสิค ในการสร้าง MACROWAVE EXPERIENCE เพราะต้องการสนับสนุนวงการ Startup Music ของไทย โดยเชื่อมั่นในศักยภาพของศิลปินคนรุ่นใหม่เก่งและมีฝีมือ หากแต่ยังขาดโอกาสให้ได้แสดงผลงานออกมา โดยความร่วมมือครั้งนี้ CMO จะรับดูแลงานด้านโปรดักชั่นส์ (Production) รวมถึงการบริหารจัดงาน (Organize) ตลอดจนดูแลจัดหาระบบภาพ แสง และเสียง ใช้ในงานอีเว้นท์,งานคอนเสิร์ต ครอบคลุมไปถึงจัดงาน Music Festival ให้กับกลุ่มศิลปินในสังกัด MACROWAVE ทุกงาน" นายเสริมคุณกล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CMO กล่าวอีกว่า นอกจากบริษัทฯ จะเข้าไปมีส่วนในการดูแลบริหารจัดกิจกรรมให้กับ MACROWAVE แล้ว ยังเป็นแหล่งความรู้ด้านการทำโชว์ให้กับศิลปินในสังกัดอีกด้วย เนื่องจากบริษัทฯ มีอุปกรณ์ที่ครบวงจร พร้อมทั้ง มีสตูดิโอถ่ายทำ มีพื้นที่ให้ฝึกซ้อมดนตรี สำหรับศิลปินในสังกัด ใครอยากทำLighting ด้วยตัวเอง ก็สามารถร่วมทำได้ เพื่อให้เกิดภาพเหมือนกับสิ่งที่คิดไว้ และยังเปิดโอกาสให้มาเรียน มาฝึก มาลองทำ ด้วยตัวเขาเอง ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าไว้ว่าจะเตรียมจัดเทศกาลดนตรีในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 โดยต้องการสร้างให้เป็นประสบการณ์ ใหม่ๆ กับศิลปิน และ ผู้ชม ตลอดจนผู้สนับสนุน ซึ่งต้องรอติดตาม โดยเฉพาะแฟนเพลงอินดี้ไม่ควรพลาด
"ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานปี 2560 (มกราคม-ธันวาคม 2560) บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,362.24 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 43.57 ล้านบาท ขณะที่ บริษัทฯ มีงานในมือที่รอรับรู้เป็นรายได้ (Backlog) ภายในสิ้นปีนี้ มูลค่าประมาณ 766 ล้านบาท" นายเสริมคุณ กล่าวทิ้งท้าย