โดย แอน จักรพงษ์ เผยถึงเรื่องนี้ว่า "ประเทศเวียดนามเขาเป็นเพื่อนบ้านประเทศไทย มีทุกสิ่งทุกอย่างคล้ายคลึงกับความเป็นไทย โดยเฉพาะธุรกิจเป็นสิ่งที่ต้องจับตาอย่างเร่งด่วน เอ็นเตอร์เทนเมนต์ก็ไม่แพ้กัน การค้าคอนเทนต์ถ้ามาแถบเพื่อนบ้าน ห้ามพลาดเวียดนาม การค้าคอนเทนต์ที่ดีที่สุด ซึ่งเรามามีบทบาทอย่างจริงจัง ถูกต้อง ดิฉันจะกลายเป็นเทวีของคนไทยทั้งประเทศนะคะ (หัวเราะ) การที่เรานำคอนเทนต์ออกมาและทำให้เขาหลงใหลใฝ่หาไทยแลนด์ ถามว่าอนเทนต์ที่จะเอามาขายคนเวียดนาม กลุ่มเป้าหมายคือกลุ่มไหน กลุ่มทีวี โทรทัศน์ เจ้าของสื่อสารมวลชนทั้งหลาย เขาเรียกว่าเทเลคอมมิวนิเคชั่นคอมปานี บรอดเคสเตอร์ เราคือธุรกิจบีทูบีไม่ใช่บีทูซี แต่ว่าคนที่เดินกันตามท้องถนนนั่นแหละคือลูกค้าของลูกค้าอีกทีนึง ฉะนั้นเวลาเรานำสินค้าที่ดีคือคอนเทนต์ที่เขาสามารถสร้างเรตติ้งได้ เราต้องเข้าใจว่าลูกค้าเขาอีกทีคือใครในการบริโภค วัฒนธรรมของเขา ของเรา ไม่ใช่เฉพาะเวียดนามนะ เมียนมาร์ ลาว แคมโบเดีย หรือจีน เหมือนหรือคล้ายคลึงกับเราหมดเลย ละครเห็นมาริโอ้กรี๊ด เห็นณเดชน์ ลงไปนอนตาย อย่างววันนี้พามาดูงานแสดงสินค้าของประเทศเวียดนาม ที่แห่งนี้มีการจัดงานขายคอนเทนต์ เรียกว่าเทเลฟิล์ม 2018 ซึ่งเราถูกเชิญให้ร่วมไปเปิดงานบนเวที เวียดนามมีทีวีร้อยกว่าช่อง เขามีช่องดิจิตอลเหมือนบ้านเรา มีทั้งช่องหลักที่ใช้ละครในการไดรฟ์ช่องตัวเอง ตลอดจนตัวช่องที่ใช้ประเภทสินค้าสารคดี คือคอนเทนต์ประเภทสารคดี การ์ตูนบ้าง พวกฮอลลีวู้ด ซีรีส์บ้าง มันมีเหมือนเมืองไทยนี่แหละ อย่างบูธเจเคเอ็นเป็นการร่วมมือกันระหว่างเจเคเอ็นและบีอีซีเทโร เป็นการร่วมมือกันในการทำโซดิสิบริชั่น คือนำละครไทยออกสู่ทั่วโลก เปิดตลาดละครไทยด้วย 70 ละครเรื่องแรก ไรซิ่งซันนัมเบอร์วัน มาริโอ้ นัมเบอร์ทูคือณเดชน์ เวลาซื้อต้องซื้อแพ็กคู่ ไม่งั้นดิฉันไม่ขาย ซึ่งจากบุกตลาดต่างประเทศทำให้ยอดรวมเจเคเอ็นปีที่แล้วคือ 1200 ล้าน ปีนี้น่าจะตกอยู่ที่ประมาณเกือบ 1500 ล้าน"
ติดตามรายการ "Perspective เปอร์-สเปกทีฟ" เทปนี้ได้วันอาทิตย์9 กันยายน เวลา 21.00-22.00 น. ทาง โมเดิร์นไนน์ทีวี