“เปอร์”บุกอาณาจักร”ศักดาทุบตึก” ความสำเร็จจากการทุบทำลาย!!

ศักดา เล่าว่า "ผมเดินทางนั่งรถไฟมาจากจังหวัดอุบลราชธานี มุ่งหน้าสู่กรุงเทพเพื่อหางานทำ ช่วงแรกอาศัยอยู่ในสถานีรถไฟหัวลำโพง เพื่อรอคอยให้เถ้าแก่มาจ้างงาน แต่ด้วยความเป็นวัยรุ่นที่มีเพื่อนที่เดินทางมาด้วยกันอีก 3-4 คนเกาะกลุ่มกันเลยดูเหมือนจิ๊กโก๋ ทำให้ไม่มีใครจ้าง พอเงินที่ติดตัวมาหมดเพื่อนๆก็แยกย้ายกันไปบ้างก็กลับบ้าน ผมจึงไปอยู่กับพี่สาว และได้ทำงานแรกเป็นคนขับรถตู้พาลูกค้าไปดูที่ให้กับบริษัทนายหน้าขายอสังหาริมทรัพย์ ทำไปซักพักเจ้านายเห็นหน่วยก้านดีก็ขยับให้มาเป็นพนักงานขายในที่สุด แล้ววันหนึ่งก็ได้ไปเที่ยวซอยบุพผาสวรรค์เจอเพื่อนชวนกันรับงานทุบตึก ผมจึงช่วยเพื่อนโดยการแอบแฝงโฆษณาไปกับโฆษณาขายที่ ขายบ้านของบริษัทที่ผมทำงานตามหน้าหนังสือพิมพ์ จนเพื่อนมีงานมีเงินขับรถเบนซ์ในระยะเวลาผ่านไปแค่ไม่นาน ผมจึงมองเห็นโอกาสตัดสินใจออกจากงานมาทำทุบตึกเอง ซึ่งงานแรกที่ไปทุบคือบ้านคุณพ่อ ของคุณใหม่ เจริญปุระ แล้วงานก็ตามมาอีกเรื่อยๆ อาทิตย์แรกมีรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย 6-7 หมื่นบาทในยุคเมื่อ 30 ปีก่อนถือว่าเยอะมาก ผมจึงลุยเต็มที่เพราะเป็นคนทำอะไรทำจริง และต้องจริงใจ ทั้งต่อลูกน้อง และลูกค้า และไม่คิดที่จะหยุดอยู่กับที่ ก็เริ่มคิดคำโฆษณาและติดป้ายประกาศในทุกที่ที่ทำได้ เพราะเชื่อว่าถ้าเราไม่ประชาสัมพันธ์ให้คนรู้ งานก็จะไม่มี ซึ่งสถานที่ๆเลือกไปติดก็จะเป็นที่ที่คนเห็นเยอะๆ เช่นทางด่วน ตามแยก หรือถนนที่คนใช้มากๆ แปะไปทั่วตามข้างทางทั่วประเทศ ตอนนี้ก็พัฒนามีลงประกาศตามโซเชียลด้วย แต่พอถามลูกค้าส่วนใหญ่ว่ารู้จักศักดาทุบตึกได้ยังไง ก็จะตอบมาว่ารู้จักผมจากป้ายโฆษณาข้างทาง ดังนั้นผมจึงมั่นใจว่าอันนี้แหละที่ทำให้ผมสำเร็จ และการเลือกคนมาทำงานผมจะมีช่างประจำที่ทำกันมานานและไว้ใจ เพราะอาชีพนี้มันอันตรายไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้ ต้องใช้ความชำนาญ เรามีการักษาความปลอดภัยแบบมีมารตรฐานทุกครั้งในการทำงาน และจากการทุบทำลายก็ทำให้ผมต่อยอดธุรกิจออกไปเรื่อยๆได้จากการเก็บของเก่าในที่ๆเราไปทุบถ้าอันไหนยังใช้ได้ก็จะนำกลับมาทำเป็นธุรกิจอีก เช่นปัจจุบันมีรับทำวงกบประตู หน้าต่าง มีรีสอร์ท ที่บางประอินทร์ จ.อยุธยา และกำลังจะทำหมู่บ้านจัดสรรออกขาย ซึ่งผมถ่ายทอดวิชาการทุบตึกให้กับลูกน้องมาจนถึงปัจจุบันกว่า 50-60 คน จนตอนนี้เคยคิดอยากไปเรียนต่อด้านการทุบตึกที่อเมริกา เพื่อกลับมาเปิดสอนจริงจังเรื่องการทุบ อดีตผมเหมือนคนไม่มีอนาคต เป็นเด็กดื้อ เกเร ที่พ่อแม่เป็นห่วง ไม่เคยเลือกชีวิตตัวเองว่าจะเป็นอะไร เพียงแต่เมื่อโอกาสมันมาก็แค่คว้าและทำมันอย่างสุดฝีมือ ทำอะไรทำจริง ทำให้เสร็จ ใครจะคิดว่าอาชีพทุบตึกจะเป็นอาชีพที่ทำให้เราประสบความสำเร็จได้ ผมเชื่อว่ามีทุกวันนี้ได้มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ขอแค่เราลงมือทำอย่างตั้งใจ"

ติดตามเรื่องราวชีวิตอันน่าสนใจ ของ "ศักดา พันธุ์น้อย" ได้ในรายการ Perspective วันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม 2562 เวลา 21.00 น. ทางช่อง 9 MCOT HD และ Facebook Live : PerspectiveTV