นางแววคนีย์ อัสโสรัตน์กุล ผู้จัดการทั่วไป เคเอฟซีประเทศไทย บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด (YRIT) กล่าวว่า "ยัม ประเทศไทย ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจเป็นแฟรนไชส์ 100% ในระยะเวลาเพียง 1 ปี เรากลายเป็นองค์กรที่แข็งแกร่ง มีโครงสร้างการบริหารที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งนำไปสู่การดำเนินธุรกิจทั้งหมดจะมีประสิทธิภาพสูงสุด ในฐานะผู้ดูแลแบรนด์ บทบาทสำคัญของเรา คือ สร้างแบรนด์ สร้างแคมเปญการตลาด ให้แนวทางการทำงานและสนับสนุนแฟรนไชส์และพันธมิตรทางธุรกิจให้สามารถรักษามาตรฐานของแบรนด์และช่วยเหลือพันธมิตรในการจัดทำแผนจัดการคำร้องเรียนของลูกค้าและการจัดการวิกฤติได้ ด้วยการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับแฟรนไชส์ทุกราย ทำให้แบรนด์เคเอฟซีได้รับความไว้วางใจจากคนไทยทั้งในฐานะร้านอาหารที่มีจำนวนสาขามากที่สุด ไก่ทอดที่เป็นเอกลักษณ์ และยังเป็นแบรนด์ที่โดดเด่นและเป็นที่รักของทุกคน ซึ่งเราจะเสริมสร้างให้แข็งแกร่งมากยิ่งๆขึ้น"
"ตลอดปี 2561 เราได้เปิดตัวแคมเปญและโปรโมชั่นที่น่าตื่นเต้นอย่างต่อเนื่องผ่านสื่อออนไลน์และออฟไลน์ ประกอบไปด้วย แคมเปญการสร้างแบรนด์ เช่น วาเลนไทน์เดย์วิงแซ่บ วันไก่ทอดแห่งชาติ การฉลองวันเกิดผู้พันแซนเดอร์ และแคมเปญทางการตลาดต่างๆ เช่น ไก่ทอดชีส ไก่จัดใหญ่ ซึ่งเป็นไก่ทอดรสเผ็ดดุดัน โปรโมชันคุ้มค่ากับไก่ทอด 9 ชิ้นในราคาเพียง 199 บาท และแซ่บออนไอซ์ ซึ่งเป็นนวัตกรรมเมนูไอศกรีมรสเผ็ด ซึ่งแคมเปญต่างๆสามารถเข้าถึงคนไทยได้มากกว่า 48 ล้านคน และได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างล้นหลาม ในฐานะผู้นำตลาด เรามุ่งมั่นสร้างคุณค่าใหม่ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อเพิ่มประสบการณ์ให้แก่ลูกค้าทุกคนต่อไป"
ยัม ประเทศไทย (YRIT) เจ้าของแฟรนไชส์เคเอฟซีในประเทศไทยได้สร้างมาตรฐานความสำเร็จของบริษัทโดยสามารถรักษาอันดับ 1 และเป็นแบรนด์ร้านอาหารบริการด่วน (QSR) ที่อยู่ในใจของลูกค้า จากผลการสำรวจของนิตยสารธุรกิจชั้นนำของเมืองไทย Marketeer และ Brandage นอกจากนี้ ยังได้รับขนานนามเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าจดจำและมีประสิทธิภาพที่สุดบนโซเชียลมีเดียจาก Zocial Awards รวมถึงการติดอันดับแบรนด์ยอดนิยมของ WOM ที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดในกลุ่ม Gen Me (อายุ 18-34 ปี) ของไทยโดย YouGov ในฐานะกลุ่มธุรกิจร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่เสิร์ฟไก่ทอดได้มากถึงราว 800,000 ชิ้นต่อวัน หรือ 292 ล้านชิ้นต่อปี
นอกจากนั้น ยัม ในฐานะเจ้าของแฟรนไชส์เคเอฟซี ไม่เพียงแต่สนับสนุนแฟรนไชส์ในการดำเนินงานร้านอาหาร แต่ยังให้ความรู้ที่จำเป็นสำหรับการขยายธุรกิจและการทำกำไร ด้วยรูปแบบการทำงานร่วมกันที่เป็นเอกลักษณ์และการสนับสนุนที่ดี เราจะมีร้านเคเอฟซีครบ 701 สาขาภายในปลายปี 2561 โดยในจำนวนทั้งหมดจะมีเป็นร้านแบบไดรฟ์ทรู 65 แห่ง ทั้งนี้ ร้านเคเอฟซี 258 แห่งอยู่ภายใต้การบริหารร้านของเซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (CRG) ซึ่งเป็นแฟรนไชส์รายแรกของเคเอฟซีในประเทศไทย ซึ่งในปีนี้เปิดร้านใหม่ 23 แห่ง ร้านเคเอฟซีอีก 273 แห่งดำเนินงานโดยพันธมิตรแฟรนไชส์รายใหม่ล่าสุด คิวเอสอาร์ออฟเอเชีย (QSA) ซึ่งทุ่มทุนในการปรับปรุงร้านเคเอฟซีถึง 47 แห่ง นอกจากนี้ยังมี เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นต์ (RD) ซึ่งเป็นแฟรนไชส์รายที่สองที่มีการเติบโตเร็วที่สุดเป็นประวัติการณ์จาก 130 สาขาในปี 2559 เป็น 170 สาขาในปี 2561 นี้ โดยอาร์ดีได้ฉลองครบรอบ 2 ปีในฐานะพันธมิตรแฟรนไชส์ของเคเอฟซีไปเมื่อเร็วๆ นี้อีกด้วย
"ด้วยการขยายตัวของเมืองทำให้เราสามารถเปิดร้านได้มากขึ้น โดยเฉพาะในรูปแบบไดรฟ์ทรูในพื้นที่อื่น ๆ นอกเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะตอบสนองความต้องการของคนในละแวกนั้นๆและผู้สัญจรไปมา เรามีเป้าหมายที่จะขยายเครือข่ายให้ได้มากถึง 1,000 แห่ง และเป็นร้านแบบไดรฟ์ทรูอย่างน้อย 100 แห่งในปี 2563 ทั้งนี้ ความสำเร็จของเราไม่ได้มาจากเพียงแค่การบริหารงานที่ประสบความสำเร็จของยัม แต่มาจากพันธมิตรแฟรนไชส์ทั้งหมดซึ่งร่วมสร้าง นวัตกรรมและทุ่มเททำงานอย่างหนักเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของแบรนด์ในประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 8 ของโลก และยังเป็นแบรนด์ร้านอาหารที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย" นางแววคนีย์ กล่าว
เพื่อเป็นการส่งท้ายปีอย่างยิ่งใหญ่และส่งมอบความสนุกตื่นเต้นให้กับลูกค้าได้ดื่มด่ำกับคุณค่าและฟินไปกับโปรโมชันไก่ทอด 9 ชิ้น 199 บาท ทุกวันอังคารที่จะหวนกลับมาอีกครั้ง พร้อมโปรโมชันไก่ถังใหญ่สำหรับช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 4 ธันวาคม 2561
เกี่ยวกับเคเอฟซี ประเทศไทย
เคเอฟซี หนึ่งในแบรนด์ร้านอาหารบริการด่วนที่ใหญ่ที่สุดและได้รับความนิยมทั่วโลก ก่อตั้งโดยผู้พันฮาร์แลนด์ แซนเดอร์ ในปี พ.ศ. 2495 ในประเทศไทย บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้บริหารแฟรนไชส์และแบรนด์เคเอฟซี โดยมีแฟรนไซส์ซี 3 รายบริหารและขยายร้านเคเอฟซีทั่วประเทศ ได้แก่ บริษัทเซ็นทรัล เรสตอรองส์กรุ๊ป จำกัด บริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด และบริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย จำกัด เคเอฟซียังคงมุ่งมั่นในการคิดค้นและนำเสนอเมนูอาหารใหม่ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ มีคุณภาพและความปลอดภัยตามมาตรฐานระดับโลก พร้อมพัฒนาคุณภาพของพนักงาน เพื่อมอบประสบการณ์การให้บริการอันอบอุ่นและดีที่สุดให้กับลูกค้าทั้งในร้านและบริการเดลิเวอรี่ผ่านระบบ call center 1150 และเว็บไซต์ www.kfc.co.th ติดตามข้อมูลข่าวสารของเคเอฟซีประเทศไทยเพิ่มเติมได้ที่ www.kfcthailand.com