เฮงเค็ลมียอดขายเติบโตดีเยี่ยม และมีรายได้ ผลกำไร และเงินสดหมุนเวียนที่แข็งแกร่ง

จันทร์ ๐๔ มีนาคม ๒๐๑๙ ๐๙:๕๖
- ยอดขายอยู่ที่ 19,900 ล้านยูโร โดยได้รับผลกระทบเชิงลบ 1,100 ล้านยูโรจากค่าเงินที่ผันผวน ยอดขายปกติเติบโต 2.4%

- กำไรจากการดำเนินงาน (EBIT)1 เพิ่มขึ้น +1.0% เป็น 3,496 ล้านยูโร

- กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) 1 ปรับเพิ่มขึ้น +30 จุด เป็น 17.6%

- กำไรต่อหุ้นบุริมสิทธิ (EPS) 1 เพิ่มขึ้น +2.7% เป็น 6.01 ยูโร เมื่อพิจารณาจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ที่ +7%

- มีเงินสดหมุนเวียนเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งที่ +12.7% เป็น 1,917 ล้านยูโร

- รายงานการจ่ายเงินปันผล2 เพิ่มขึ้น +3.4% เป็น 1.85 ยูโรต่อหุ้นบุริมสิทธิ

- การดำเนินงานเชิงกลยุทธ์มีความก้าวหน้าที่ดี

- โครงการต่างๆ เพื่อสร้างการเติบโต แสดงถึงถึงความมุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโตของผลกำไร

"ในปี 2561 เฮงเค็ลยังคงสร้างการเติบโตของผลกำไรอย่างต่อเนื่อง เราประสบความสำเร็จในการสร้างการเติบโตปกติได้อย่างดีเยี่ยมโดยมีรายได้และผลกำไรที่ทำสถิติใหม่ นอกจากนี้เรายังเพิ่มเงินสดหมุนเวียนได้อย่างมีนัยสำคัญ ในขณะเดียวกันเราก็เผชิญกับผลกระทบเชิงลบที่รุนแรงจากค่าเงินและราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น ปีนี้เป็นอีกครั้งที่ผลการดำเนินงานที่ดีทางธุรกิจเกิดจากแบรนด์และนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ประสบความสำเร็จของเรา ซึ่งมีตำแหน่งผู้นำในหลายตลาดและประเภทผลิตภัณฑ์ที่มีความน่าสนใจอย่างสูง การเติบโตด้านผลกำไรของเรายังมีส่วนจากการควบรวมกิจการทั้งในธุรกิจสินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าอุปโภคบริโภค เราได้รักษาวินัยในการลดค่าใช้จ่ายอย่างมุ่งมั่นและปรับปรุงประสิทธิภาพของบริษัทอย่างต่อเนื่อง" ฮานส์ แวน ไบเล่น ซีอีโอ ของเฮงเค็ล กล่าว

"เรามีความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรมในการดำเนินตามความสำคัญเชิงกลยุทธ์เพื่อมุ่งสู่ปี 2563 และหลังจากนั้น เราประสบความสำเร็จในการดำเนินโครงการหลักๆ และเสริมความสามารถในการแข่งขันของเราให้มากขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาสสร้างการเติบโตของผลกำไร โดยเฉพาะในธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค และเร่งเดินหน้าไปสู่การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลขององค์กร เราได้ประกาศในเดือนมกราคมที่ผ่านมาว่าจะเพิ่มการลงทุนราว 300 ล้านยูโรต่อปีนับตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป" ฮานส์ แวน ไบเล่น กล่าว "เป้าหมายทางการเงินระยะกลางถึงระยะยาวของเรา แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเฮงเค็ลที่จะสร้างการเติบโตของผลกำไรอย่างยั่งยืนและสร้างผลตอบแทนที่จูงใจ"

ภาพรวมปี 2562

เนื่องจากจะมีการลงทุนที่เพิ่มขึ้นนับตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป เฮงเค็ลจึงคาดว่ายอดขายปกติจะเติบโตระหว่าง 2-4% ในปีงบประมาณนี้ และคาดว่าจะมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี EBIT ที่ปรับปรุงแล้วระหว่าง 16-17% ส่วนกำไรต่อหุ้นบุริมสิทธิที่ปรับปรุงแล้วมีการเติบโตเป็นเปอร์เซ็นต์แบบเลขตัวเดียวในระดับกลาง ซึ่งต่ำกว่าปีที่ผ่านมาเมื่อพิจารณาจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่

ผลการดำเนินงานด้านยอดขายและรายได้ในปี 2561

ยอดขายในปีงบประมาณ 2561 ลดลงเล็กน้อยที่ 0.6% ไปอยู่ที่ 19,899 ล้านยูโร ความเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมีผลเชิงลบโดยรวมต่อยอดขายราว 1,100 ล้านยูโร หรือทำให้ยอดขายลดลง -5.4% ยอดขายเติบโตขึ้น 4.8% เมื่อปรับปรุงผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนแล้ว การเข้าซื้อกิจการและการตัดทอนการลงทุนมีผลต่อการเติบโตของยอดขายที่ 2.4% ส่วนยอดขายปกติก่อนหักผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนและการเข้าซื้อกิจการหรือการตัดทอนการลงทุนนั้น มีการเพิ่มขึ้นอย่างดีที่ 2.4%

กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีกาวมีการเติบโตของยอดขายปกติที่แข็งแกร่งที่ 4.0% ส่วนกลุ่มธุรกิจบิวตี้แคร์มีการเติบโตของยอดขายปกติเป็นบวกที่ 0.7% ในขณะที่กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน มีรายงานตัวเลขยอดขายปกติที่เติบโตดีขึ้น 1.9%

ตลาดเกิดใหม่ยังคงสร้างการเติบโตของยอดขายปกติได้อย่างแข็งแกร่งที่ 6.3% ส่วนตลาดอิ่มตัวในประเทศพัฒนาแล้วมียอดขายปกติติดลบเล็กน้อย -0.4%

ยอดขายปกติมีการเติบโตขึ้นในทุกภูมิภาคทั่วโลก ยกเว้นอเมริกาเหนือ ในภูมิภาคยุโรปตะวันตก มีสัญญาณการปรับตัวของยอดขายปกติในเชิงบวกที่ 0.3% ส่วนในยุโรปตะวันออก มียอดขายปกติเติบโต 7.6% แอฟริกาและตะวันออกกลางยอดขายปกติเติบโต 11.3% อเมริกาเหนือมียอดขายปกติน้อยกว่าปีที่ผ่านมา 1.0% ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาด้านการจัดส่งของธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคของเฮงเค็ลในอเมริกาเหนือในช่วงต้นปี 2561 โดยในภูมิภาคนี้ กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีกาวมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ในขณะที่กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์สำหรับช่างผมมืออาชีพเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ละตินอเมริกายอดขายปกติเติบโต 9.3% และเอเชียแปซิฟิกมียอดขายปกติเพิ่มขึ้น 0.9%

กำไรจากการดำเนินงานที่ปรับปรุงแล้ว (EBIT) เพิ่มขึ้น 1.0% เป็น 3,469 ล้านยูโร ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ของเฮงเค็ล

ผลตอบแทนจากยอดขายที่ปรับปรุงแล้ว (EBIT) เติบโตขึ้น 0.3 จุดเป็น 17.6% ซึ่งนับเป็นสถิติใหม่ของบริษัทด้วยเช่นกัน

งบการเงิน ติดลบที่ -65 ล้านยูโร เมื่อเทียบกับ -67 ล้านยูโรในปีงบประมาณ 2560

กำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้ว ของทั้งปีหลังหักส่วนได้เสียที่ไม่สามารถควบคุมได้ เพิ่มขึ้น 2.8% เป็น 2,604 ล้านยูโร (ปี 2560 อยู่ที่ 2,534 ล้านยูโร)

กำไรต่อหุ้นบุริมสิทธิที่ปรับปรุงแล้ว (EPS) เติบโต 2.7% จาก 5.85 ยูโรไปอยู่ที่ 6.01 ยูโร ส่วน EPS มีการเติบโต 7% เมื่อพิจารณาจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่

คณะกรรมการบริหาร คณะกรรมการกำกับดูแล และคณะกรรมการผู้ถือหุ้น จะนำเสนอในการประชุมสามัญประจำปี ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 8 เมษายน 2562 ให้เพิ่มเงินปันผลต่อหุ้นบุริมสิทธิขึ้น 3.4% เป็น 1.85 ยูโร (ปีที่ผ่านมาจ่ายปันผลหุ้นละ 1.79 ยูโร) ส่วนเงินปันผลต่อหุ้นสามัญนำเสนออยู่ที่ 1.83 ยูโร เพิ่มขึ้น 3.4% จาก 1.77 ยูโรในปีที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการจ่ายเงินปันผลที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัทและเท่ากับให้อัตราผลตอบแทนถึง 30.9%

เงินทุนหมุนเวียนสุทธิ เมื่อเทียบสัดส่วนกับยอดขาย เพิ่มขึ้น 5.1 จุดจากปีก่อนหน้า แสดงให้เห็นการพัฒนาที่ดีตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลัง โดยมีระดับที่ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ 4.8%

ฐานะทางการเงินสุทธิ เมื่อสิ้นปีอยู่ที่ -2,895 ล้านยูโร (วันที่ 31 ธันวาคม 2560 อยู่ที่ -3,222 ล้านยูโร) การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเมื่อเทียบกับสิ้นปีที่ผ่านมา มีสาเหตุหลักมาจากเงินสดหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

ผลการดำเนินงานของแต่ละกลุ่มธุรกิจ

กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีกาวทำยอดขายปกติเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งถึง 4.0% ในปี 2561 หากดูภาพรวม ตัวเลขยอดขายมีการเพิ่มขึ้น 0.2% หรือเท่ากับ 9,403 ล้านยูโร ส่วนกำไรจากการดำเนินงานที่ปรับปรุงแล้วเติบโตขึ้น 1.6% ไปอยู่ที่ 1,761 ล้านยูโร และรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 0.2 จุด ไปอยู่ที่ 18.7%

ด้านกลุ่มธุรกิจบิวตี้แคร์ มียอดขายปกติติดลบเล็กน้อยที่ -0.7% ในปี 2560 สำหรับยอดขายโดยรวมเติบโตขึ้น 2.1% เป็น 3,950 ล้านยูโร กำไรจากการดำเนินงานที่ปรับปรุงแล้วเพิ่มขึ้น 1.6% เป็น 675 ล้านยูโร ส่วนรายได้จากการขายที่ปรับปรุงแล้วน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วเล็กน้อย โดยอยู่ที่ 17.1%

สำหรับกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน มีการเติบโตของยอดขายปกติที่ดีโดยเพิ่มขึ้น 1.9% ในปี 2560 ส่วนยอดขายโดยรวมอยู่ที่ 6,419 ล้านยูโร ในขณะที่ปีที่แล้วอยู่ที่ 6,651 ล้านยูโร กำไรจากการดำเนินงานที่ปรับปรุงแล้วลดลงเล็กน้อยที่ 0.7% เป็น 1,162 ล้านยูโร ส่วนผลตอบแทนจากการขายที่ปรับปรุงแล้วเติบโตอย่างแข็งแกร่งขึ้น 0.5 จุด ไปอยู่ที่ 18.1%

มีความก้าวหน้าในการดำเนินงานเชิงกลยุทธ์เป็นอย่างดีในปี 2561

"เราดำเนินตามกลยุทธ์ระยะยาวของเฮงเค็ลที่ชัดเจน เราต้องการสร้างการเติบโตด้านผลกำไรอย่างยั่งยืน ภายใต้วิสัยทัศน์ Henkel 2020+ เราได้วางกลยุทธ์ที่สำคัญไว้สำหรับปี 2563 และหลังจากนั้น ได้แก่ ผลักดันการเติบโต เร่งการเข้าสู่ดิจิทัล เพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงาน และสร้างการเติบโตของเงินทุน ในช่วงสองปีที่ผ่านมาเรามีความก้าวหน้าในการดำเนินงานเป็นอย่างดี และประสบความสำเร็จในการดำเนินตามโครงการเชิงกลยุทธ์สำคัญที่วางไว้" ฮานส์ แวน ไบเล่น ซีอีโอ ของเฮงเค็ล กล่าว

ในปี 2561 เฮงเค็ลเดินหน้าโครงการและความคิดริเริ่มต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อผลักดันการเติบโตในตลาดทั่วโลก การพูดคุยแลกเปลี่ยนในเชิงลึกและความร่วมมือย่างใกล้ชิดกับลูกค้า เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจสินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าอุปโภคบริโภคของเฮงเค็ลประสบความสำเร็จ

หนึ่งในสิ่งที่บริษัทมุ่งเน้นคือการลดรอบการคิดค้นนวัตกรรมให้เร็วขึ้น และลดเวลาที่ใช้ในการนำเสนอนวัตกรรมออกสู่ตลาดลง เพื่อตอบสนองเทรนด์ใหม่ของตลาดและความต้องการของลูกค้าให้เร็วขึ้น เฮงเค็ลมีความก้าวหน้าอย่างดีในการปรับปรุงกระบวนการด้านนวัตกรรม ทำให้เรามีสัดส่วนนวัตกรรมที่สูงและสร้างยอดขายในปีแรกได้มากขึ้นจากนวัตกรรมทั้งหลาย หรือนวัตกรรม 10 อันดับแรก

เฮงเค็ลยังมีความก้าวหน้าในการควบรวมกับกิจการที่เข้าซื้อ และมีการเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติมอีกหลายครั้ง ซึ่งจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งด้านการแข่งขันและเติมเต็มพอร์ทโฟลิโอในธุรกิจสินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าอุปโภคบริโภค

เพื่อค้นหาโอกาสสร้างการเติบโตใหม่ๆ ฝ่าย Corporate Venture Capital ของเฮงเค็ลยังเดินหน้าลงทุนในโมเดลใหม่ๆ ด้านเทคโนโลยี วัสดุ แอปพลิเคชั่น ธุรกิจ และบริการ โดยลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพโดยตรง รวมทั้งร่วมลงทุน เฮงเค็ลมีแผนที่จะลงทุน 150 ล้านยูโรระหว่างปี 2560 ถึง 2563 ในกิจกรรมร่วมลงทุน ซึ่งเมื่อถึงสิ้นปี 2561 เฮงเค็ลได้ใช้เงินหรืออนุมัติเงินทุนไปแล้วเกือบครึ่งหนึ่งของเป้าหมายที่วางไว้

เฮงเค็ลมีความก้าวหน้าเป็นอย่างดีในด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลขององค์กร ในปี 2562 ยอดขายจากช่องทางดิจิทัลในระดับกลุ่มธุรกิจเพิ่มขึ้นแบบออร์แกนิคในระดับเลขสองหลัก ซึ่งมาจากกลุ่มธุรกิจกิจสินค้าอุปโภคบริโภคมากกว่า 30% เฮงเค็ลยังลงทุนเพิ่มในด้านเครื่องจักรการผลิตเพื่อใช้ประโยชน์จากโอกาสของอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งช่วยให้บริษัทควบคุมการผลิตของโรงงานและกระบวนการได้อย่างสูงสุด และทำให้ได้คุณภาพการผลิตที่เพิ่มขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีความยั่งยืนมากขึ้น

เฮงเค็ลได้แต่งตั้งคณะที่ปรึกษาด้านดิจิทัลซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญในวงการเพื่อให้คำแนะนำแก่กรรมการบริหารบริษัทในเรื่องกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล

เฮงเค็ลเปิดตัว Henkel X ที่เป็นแพลทฟอร์มสำหรับภายในและภายนอกองค์กร เพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของบริษัท ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาแก่พนักงานที่ทำงานโครงการดิจิทัลและความคิดริเริ่มต่างๆ เฮงเค็ลยังได้จัดตั้งเครือข่ายผู้ให้คำแนะนำจากบุคคลภายนอก 150 คน ซึ่งประกอบด้วยผู้ก่อตั้ง ผู้เชี่ยวชาญดิจิทัล และผู้นำทางความคิด อีกทั้งยังเสริมกิจกรรมทั้งภายในและภายนอกองค์กรเพื่อเพิ่มความสามารถด้านดิจิทัลที่ก้าวล้ำ และยกระดับทักษะด้านดิจิทัลของทั้งองค์กร

การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลยังเชื่อมโยงกับอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่เฮงเค็ลให้ความสำคัญคือการเพิ่มความคล่องตัวในการทำงานของทั้งองค์กร ในปี 2561 เฮงเค็ลเดินหน้าสนับสนุนจิตวิญญาณของผู้ประกอบการให้กับพนักงานและทีมงาน โดยกระตุ้นให้เปิดรับการเปลี่ยนแปลง เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทำงาน และสนับสนุนการสื่อสารที่โปร่งใสมากขึ้น รวมทั้งมีเป้าหมายที่จะเปิดโอกาสให้แต่ละคนได้มีอำนาจในการตัดสินใจอีกด้วย

ในส่วนของกลยุทธ์การสร้างการเติบโตของเงินทุน เฮงเค็ลสานต่อความมุ่งมั่นในด้านวินัยที่จะลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพ โดยดำเนินความคิดริเริ่มใน 4 ด้าน ซึ่งในปี 2561 เฮงเค็ลประสบความสำเร็จในการเปิดตัวโครงการ ONE!ViEW และโครงการบริหารจัดการรายได้สุทธิของทั้งบริษัท ในขณะเดียวกันก็เชื่อมต่อกับโครงสร้างซัพพลายเชนในทุกกลุ่มธุรกิจของเฮงเค็ลทั่วโลก หรือ ONE!GSC ไปพร้อมๆ กับการพัฒนากิจกรรมบริการร่วมให้ดียิ่งขึ้นเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงประสิทธิภาพขององค์กร โดยคาดว่าเมื่อความคิดริเริ่มทั้งหมดได้ทำงานร่วมกันแล้ว ประสิทธิภาพการดำเนินงานต่อปีที่เพิ่มขึ้น จะช่วยสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้มากกว่า 500 ล้านยูโร ภายในปี 2563 ซึ่งเมื่อถึงสิ้นปี 2561 เฮงเค็ลได้รับรู้ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นแล้วมากกว่า 50% ของเป้าหมายที่ตั้งไว้

มุ่งมั่นสร้างการเติบโตของผลกำไรอย่างยั่งยืนในระยะยาว

"ปี 2561 นับเป็นปีที่ดีของเฮงเค็ล แม้ว่าจะต้องเจอความยากลำบากจากค่าเงินที่ผันผวนและต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น แต่เราก็ประสบความสำเร็จในการสร้างการเติบโตของยอดขาย และมีรายได้ ผลกำไร และเงินสดหมุนเวียนที่แข็งแกร่ง เรามีความก้าวหน้าอย่างดีเยี่ยมในการดำเนินตามความสำคัญเชิงกลยุทธ์และยังเพิ่มความสามารถด้านการแข่งขันได้มากขึ้น สิ่งเหล่านี้ทำให้เราเชื่อมั่นว่าเฮงเค็ลพร้อมแล้วสำหรับอนาคต เรามีกลยุทธ์ที่ชัดเจนและเป้าหมายที่วางเอาไว้อย่างสูง ซึ่งด้วยเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นในด้านแบรนด์ เทคโนโลยี นวัตกรรม และการมุ่งสู่ดิจิทัล เป็นการตอกย้ำว่าเรามีความมุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโตของผลกำไรอย่างยั่งยืน" ฮานส์ แวน ไบเล่น กล่าวสรุป

เกี่ยวกับเฮงเค็ล

เฮงเค็ลดำเนินธุรกิจทั่วโลกด้วยพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์อันสมดุลและหลากหลาย บริษัทเป็นผู้นำในสามกลุ่มธุรกิจ ทั้งในธุรกิจเพื่ออุตสาหกรรมและธุรกิจเพื่อผู้บริโภค อันเป็นผลมาจากแบรนด์ นวัตกรรม และเทคโนโลยีอันแข็งแกร่ง ธุรกิจเทคโนโลยีกาวของเฮงเค็ล (Adhesive Technologies) เป็นผู้นำในตลาดกาวในทุกอุตสาหกรรมทั่วโลก ในธุรกิจผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน และผลิตภัณฑ์บิวตี้แคร์ (Laundry & Home Care and Beauty Care businesses) เฮงเค็ลเป็นผู้นำในหลากหลายตลาดและประเภทผลิตภัณฑ์ทั่วโลก ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2419 เฮงเค็ลมีประวัติความสำเร็จอันยาวนานกว่า 140 ปี เฮงเค็ลมีพนักงานราว 53,000 คนทั่วโลก ซึ่งทำงานเป็นทีมที่มีความมุ่งมั่นและหลากหลาย รวมกันเป็นหนึ่งเดียวด้วยวัฒนธรรมขององค์กรอันแข็งแกร่ง มีจุดมุ่งหมายร่วมกันในการสร้างคุณค่าอันยั่งยืน และมีคุณค่าร่วมกัน ในฐานะผู้นำด้านความยั่งยืนอันเป็นที่ยอมรับ เฮงเค็ลได้รับการยกย่องจากดัชนีและการจัดอันดับต่างๆ หุ้นบุริมสิทธิของเฮงเค็ลจดทะเบียนอยู่ในดัชนีหลักทรัพย์ DAX ของเยอรมนี ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม www.henkel.com

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๗:๔๒ ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๗:๑๕ กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๗:๑๕ เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๒๙ สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๗:๑๐ GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4