นอกจากนี้แล้ว ShopBack ยังได้เพิ่มฟีเจอร์มากมาย เพื่อพัฒนาประสบการณ์การซื้อของผู้ใช้ โดยฟีเจอร์ล่าสุด ได้แก่ ShopBack GO ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาร้านอาหารและช่วยตัดสินใจว่ารับประทานอาหารที่ไหนซึ่งประหยัดทั้งเวลาและเงิน ฟีเจอร์ดังกล่าวนี้เปิดตัวร่วมกับ Visa และ Mastercard ในประเทศสิงคโปร์ อีกทั้ง ShopBack GO ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถรับประทานอาหารและได้เงินคืน และยังส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ F&B สามารถตัดสินใจทางธุรกิจได้ดีขึ้นด้วยข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนโดย ShopBack
ในปี 2561 ShopBack มียอดสั่งซื้อและยอดขายเพิ่มขึ้น 250% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ShopBack มียอดสั่งซื้อมากกว่า 1.5 ล้านต่อเดือน โดยมีผู้ใช้งาน กว่า 7 ล้านคนใน 7 ประเทศทั่วเอเชียแปซิฟิก ซึ่งมียอดขายประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้แก่คู่ค้ากว่า 2,000 รายทั้งในระบบออนไลน์ e-commerce แพลตฟอร์มท่องเที่ยวออนไลน์ การจัดส่งอาหาร เช่นเดียวกับช่องทาง offline
ในปีเดียวกัน ShopBack ได้เปิดตัวที่ออสเตรเลียซึ่งเป็นตลาดแรก นอกภูมิภาคเอเชีย ทั้งนี้ยังเปิดศูนย์วิจัยและพัฒนาในเวียดนามและไต้หวัน อีกทั้ง ยังเพิ่มขีดความสามารถด้านวิศวกรรมข้อมูลและการจัดการผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นเป็นสามเท่า
การระดมทุนรอบใหม่ของ ShopBack จะถูกใช้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การช้อปปิ้ง อีกทั้ง ขยายขีดความสามารถของการเก็บข้อมูลเพื่อปรับแต่งให้เหมาะกับลูกค้า และเก็บข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจ รวมถึงการพัฒนาการเติบโตในตลาดหลัก
ShopBack ยังคงมุ่งเน้นที่การตอบแทนลูกค้า (คืนกำไร) และเสนอช่องทางการช้อปปิ้งรูปแบบใหม่ เพื่อยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์และออฟไลน์สำหรับผู้บริโภคทั่วเอเชียแปซิฟิก
ShopBack ก่อน ช้อป กิน เที่ยว ออนไลน์
ShopBack ผู้นำแพลตฟอร์มออนไลน์แบบ one-stop ที่มอบข้อเสนอสุดพิเศษแก่นักช้อปด้วย "แคชแบ็ค" (cashback) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ตัดสินใจซื้อสินค้าได้อย่างชาญฉลาด รวมทั้งยังประหยัดเวลาและเงิน เมื่อพวกเขาซื้อสินค้า สั่งอาหาร จองสายการบินและโรงแรมผ่าน ShopBack แพลตฟอร์มดังกล่าวช่วยให้แบรนด์และคู่ค้าสามารถเข้าถึงผู้ใช้งานกว่าหลายล้านคน ใน 7 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ปัจจุบัน ShopBack ได้มอบเงินคืนที่ช่วยให้การตัดสินใจของลูกค้านั้นง่ายขึ้นในหลากหลายไลฟ์สไตล์ออนไลน์ ตั้งแต่ การซื้อของ การสั่งอาหาร การเรียกรถ รวมไปถึงการท่องเที่ยว มากไปกว่านั้น ShopBack ได้ขยายไปในออฟไลน์ผ่านทาง ShopBack GO อีกด้วย ShopBack เองได้จัดโซลูชั่นสำหรับลูกค้าด้วยการซื้อที่เหมาะกับพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคแต่ละคน ที่ไม่ใช่เพียงแต่บนออนไลน์ แต่ยังรวมไปถึงออฟไลน์ เป็นผลให้ ShopBack มอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่เป็นส่วนตัวแก่ผู้ใช้ รวมถึงโซลูชั่นการตลาดที่ตรงเป้าหมายและคุ้มค่าสำหรับคู่ค้าอีกด้วย
"การร่วมทุนครั้งนี้ทำให้เราสามารถต่อยอดนวัตกรรมของเราให้เหนือขึ้นไปอีกระดับ ด้วยการมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สะดวกขึ้นให้แก่ลูกค้า ในขณะเดียวกัน ก็ยังเป็นการมอบวิธีทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นให้แก่พาร์ทเนอร์ของเราอีกด้วย พวกเราสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลเพื่อมา cross selling อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น"
นาย กวิน ประชานุกูล, ผู้ก่อตั้งและผู้จัดการ ShopBack ประจำประเทศไทย
"พวกเราได้รับประโยชน์จากการเติบโตที่รวดเร็วของ ShopBack มาเรื่อยๆตั้งแต่ช่วงแรกๆ ในฐานะที่พวกเราลงทุนกับ ShopBack มาตั้งแต่บริษัทของพวกเราเป็น East Venture มาจนถึงตอนนี้ที่เป็น EV Growth ผู้ก่อตั้งของเราก็ยังคงยึดมั่นในภารกิจของพวกเรา ที่จะให้การช่วยเหลือแก่ผู้ใช้ในการตัดสินใจซื้อที่ฉลาดขึ้น ความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้งของ ShopBack ถือว่าเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก และ พวกเราก็ตื่นเต้นกับการเติบโตอย่างมั่นคงของพวกเขาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค"
นาย วิลสัน คอคา, ผู้จัดการฝ่ายคู่ค้า, EV Growth
"Rakuten มีพันธกิจที่จะช่วยยกระดับบริษัทที่มีศักยภาพทั่วโลก และ พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของคณะบริหารของ ShopBack ซึ่งในช่วงเวลาที่ผ่านมา ShopBack ได้พัฒนาตัวเองและแสดงศักยภาพจนขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้นำระดับเอเชียแปซิฟิค ด้วยรูปแบบการบริการลูกค้าที่ทุ่มเท ฐานลูกค้าที่มั่นคง และ คณะทำงานที่เชี่ยวชาญ ทาง Rakuten พร้อมจะให้การสนับสนุน ShopBack เพื่อไปอีกระดับของการเติบโต"
นาย อมิท พาเทล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, Rakuten
เกี่ยวกับ ShopBack
ShopBack คือผู้นำนวัตกรรมด้านการช้อปปิ้งออนไลน์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่นำเสนอแหล่งช้อปปิ้งแบบ one-stop เพื่อการช้อปที่ชาญฉลาด ปัจจุบัน ShopBack มีอยู่ทั้งในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย ไต้หวัน และออสเตรเลีย อีกทั้ง ShopBack ทำงานร่วมกับคู่ค้า e-commerce ชั้นนำมาตั้งแต่ปี 2557 และมอบข้อเสนอสุดพิเศษให้แก่ผู้บริโภคด้วยการคืนเงินทุกครั้งตามคำสั่งซื้อสินค้าผ่าน ShopBack