มร.จาง เจิ้งฮุ้ย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า "ที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์ "ไฮเออร์" ได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งจากผู้บริโภคในประเทศไทย ทำให้มียอดจำหน่ายสินค้าสูงขึ้น ซึ่งด้วยปัจจัยหลายด้านของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ บริษัทฯ จึงเพิ่มการลงทุนและพัฒนาองค์กรในหลายด้าน อาทิ การเปิดตัวสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง การขยายช่องทางการตลาดควบคู่กับการพัฒนาการบริการทั้งก่อนและหลังการขายให้ได้ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และการรุกกิจกรรมทางการตลาดอย่างเต็มรูปแบบ ล่าสุดบริษัทฯ ได้เปิดตัว "Haier Brand Shop" สาขาใหม่ ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ณ ชั้น 1 อาคารภคินทร์ ถนนรัชดาภิเษก บนพื้นที่มากกว่า 500 ตารางเมตร ที่จัดแสดงผลิตภัณฑ์แบรนด์ไฮเออร์ ในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า ตู้เย็น ตู้แช่ โทรทัศน์ เครื่องทำน้ำอุ่น และเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว รวมถึงโซน Haier Smart Home ที่จัดแสดงสินค้านวัตกรรมสุดล้ำของไฮเออร์ ที่ยังไม่มีจำหน่ายในประเทศไทยเพื่อเป็น Experience Center ให้กับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการสัมผัสนวัตกรรมของไฮเออร์ก่อนตัดสินใจซื้อ ซึ่งถนนรัชดาภิเษกถือเป็นทำเลทองทางธุรกิจของกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ด้วยเป็นย่านเศรษฐกิจ ย่านที่พักอาศัย เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและมีเส้นทางคมนาคมที่สะดวก ทำให้ปีนี้ไฮเออร์คาดว่าจะมีรายได้เติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับยอดขายของปีที่แล้ว นอกจากนี้ในงานเดียวกัน ไฮเออร์ ยังมีพิธีลงนามความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจอีก 8 แห่งเพื่อส่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ไฮเออร์ อย่างต่อเนื่อง
และเพื่อเป็นการฉลองเปิดสาขาใหม่ ไฮเออร์ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ เพื่อสมนาคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ "ไฮเออร์" ในระหว่างวันที่ 25 พฤษภาคม – 2 มิถุนายน ศกนี้ รวมทั้งสิ้น 9 วัน ซึ่งภายในงานมีกิจกรรมน่าสนใจ อาทิ สินค้านาทีทองลดสูงสุดถึง 50% และสินค้าราคาพิเศษกว่า 100 รายการ และพิเศษ สำหรับลูกค้าทุกท่านที่ซื้อสินค้าภายในงานมีสิทธิลุ้นจับรางวัล Lucky Draw "ดวงดี...ฟรียกบิล!!" พร้อมชมการสาธิตทำอาหารเพื่อสุขภาพด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้าไฮเออร์ สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/HaierTH
ทั้งนี้ ในตลาดโลกไฮเออร์ ครองส่วนแบ่งในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ถึง 10.6% และครองแชมป์แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอันดับหนึ่งของโลก ติอต่อกัน 10 ปีซ้อน (ปี พ.ศ. 2551- 2561) จากการจัดอันดับของสถาบันยูโรมอนิเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยข้อมูลทางการตลาดที่น่าเชื่อถือที่สุดแห่งหนึ่งของโลก