สสว. ผนึกสถาบันอาหาร ปั้น 5 ผลิตภัณฑ์ต้นแบบ ยกระดับเครือข่าย SME กลุ่มสับปะรด-กระเทียม

ศุกร์ ๒๖ กรกฎาคม ๒๐๑๙ ๑๖:๕๕
สสว. ร่วมกับสถาบันอาหาร หน่วยงานเครือข่ายกระทรวงอุตสาหกรรม อวดโฉม 5 ผลิตภัณฑ์ต้นแบบ ฝีมือสมาชิกเครือข่าย SME ที่เข้าร่วม "กิจกรรมพัฒนาเครือข่ายสับปะรดและเครือข่ายกระเทียม ภายใต้โครงการสนับสนุนเครือข่าย SME ปี 2562" ได้แก่ ผงสับปะรด สับปะรดแช่เยือกแข็ง สับปะรดอบน้ำผึ้ง ไอศกรีมไวน์สับปะรด และกระเทียมผง ตามแผนพัฒนาเครือข่ายที่มุ่งส่งเสริมให้ใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรม ช่วยพัฒนาคุณภาพการผลิต การแปรรูป การเก็บรักษา การออกแบบและสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์อย่างสร้างสรรค์ ล่าสุดจัดอบรมพัฒนาศักยภาพการดำเนินธุรกิจให้ผู้นำเครือข่าย SME 15 ราย เป็นตัวแทนจาก 5 กลุ่มเครือข่าย รวม 11 จังหวัด เผยเตรียมติวเข้มความรู้เรื่องการตลาดแบบครบวงจรทั้งออนไลน์และออฟไลน์ให้สมาชิกราว 700 รายเพื่อต่อยอดขยายผลในเชิงพาณิชย์ พร้อมผลักดันให้นำผลิตภัณฑ์ออกทดสอบตลาด และจับคู่เจรจาธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ตั้งเป้าเจาะตลาดญี่ปุ่น ฐานตลาดส่งออกอาหารสำคัญของไทย

นางลักขณา ตั้งจิตนบ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจ SMEs สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) กล่าวถึงความคืบหน้าของ "กิจกรรมพัฒนาเครือข่ายสับปะรดและเครือข่ายกระเทียม ภายใต้โครงกาสนับสนุนเครือข่าย SME ปี 2562" ซึ่งได้มอบหมายให้สถาบันอาหาร หน่วยงานเครือข่ายกระทรวงอุตสาหกรรม ดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่า ภายหลังจากได้จัดอบรมและพัฒนาศักยภาพเชิงลึกให้แก่สมาชิกเครือข่าย และผู้นำเครือข่าย ด้านการพัฒนากระบวนการผลิต และการบริหารจัดการ โดยการนำนวัตกรรม หรือเทคโนโลยีมาสนับสนุน เพื่อยกระดับศักยภาพการผลิต ลดต้นทุนการผลิต ปรับปรุงกระบวนการเพาะปลูกเพื่อให้ได้ผลผลิตมากขึ้น หรือปรับปรุงกระบวนการแปรรูปเพื่อให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและสามารถจัดจำหน่ายได้ รวมทั้งการจัดทำมาตรฐานการผลิตเพื่อส่งออก และมาตรฐานรสชาติอาหาร ซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจ

"สมาชิกเครือข่ายต่างๆ ได้ร่วมกันพัฒนาผลผลิตสับปะรด และกระเทียม เป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปต้นแบบที่มีศักยภาพในการแข่งขันได้ทั้งหมด 5 ผลิตภัณฑ์ แบ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากสับปะรด 4 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ 1) "ผงสับปะรด" สำหรับหมักเนื้อนุ่ม เพื่อปรุงอาหาร ใช้เทคโนโลยีการทำแห้งแบบแช่เยือกแข็งเพื่อคงคุณสมบัติของเอ็มไซม์สับปะรด จาก"กลุ่มเครือข่ายสับปะรดสินสมุทร" (ชลบุรี ระยอง และตราด) 2) "สับปะรดแช่เยือกแข็ง"พร้อมรับประทาน ใช้เทคโนโลยีแช่เยือกแข็ง จาก "กลุ่มเครือข่ายสับปะรดสยามโกลด์" (ประจวบคีรีขันธ์) 3) "สับปะรดอบน้ำผึ้ง"(แช่อิ่มอบแห้ง) ใช้เทคโนโลยีการแช่อิ่ม และนำมาอบแห้งเพื่อยืดอายุผลิตภัณฑ์ จาก"กลุ่มเครือข่ายสับปะรดภาคเหนือ" (พิษณุโลก อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี) 4) "ไอศกรีมไวน์

สับปะรด" จาก "กลุ่มเครือข่ายสับปะรด 3 บุรี" (ราชบุรี เพชรบุรี และกาญจนบุรี) สำหรับผลิตภัณฑ์จากกระเทียม 1 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ "กระเทียมผง" สำหรับปรุงอาหารใช้นวัตกรรมการทำแห้งแบบแช่เยือกแข็งเพื่อคงกลิ่น และรสชาติของกระเทียม จาก"กลุ่มเครือข่ายผู้ปลูกกระเทียมจังหวัดเชียงใหม่"

ล่าสุดได้จัดอบรมผู้นำเครือข่าย หรือผู้ประสานเครือข่าย(Cluster Development Agent-CDA) จำนวน 15 ราย ซึ่งเป็นตัวแทนจากเครือข่ายสับปะรด 4 กลุ่ม และเครือข่ายกระเทียม 1 กลุ่ม ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกรวมราว 700 ราย จาก 11 จังหวัด เพื่อพัฒนาศักยภาพในการดำเนินธุรกิจด้านต่างๆ ครอบคลุมถึงการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่เครือข่าย โดยให้ข้อมูลความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการร่วมมือและส่งเสริมแนวคิดในการพัฒนาเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง และเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างเครือข่ายกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

นางนิตยา พิระภัทรุ่งสุริยา รองผู้อำนวยการสถาบันอาหาร หน่วยงานเครือข่ายกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า หลังจากนี้จะเป็นการจัดอบรมให้ความรู้เรื่องการตลาดแบบครบวงจรทั้งออนไลน์และออฟไลน์เพื่อต่อยอดเชิงพาณิชย์ ขณะเดียวกันเตรียมสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศได้รู้จักผลิตภัณฑ์ต้นแบบทั้ง 5 ผลิตภัณฑ์ รวมทั้งผลิตภัณฑ์แปรรูปอื่นๆ ของสมาชิกเครือข่ายที่ได้รับการยกระดับด้านมาตรฐานการส่งออกเรียบร้อยแล้ว เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดใหม่ๆ ซึ่งมีแผนจะนำผลิตภัณฑ์ดังกล่าวออกทดสอบตลาด และจับคู่เจรจาธุรกิจภายในเดือนกันยายนนี้ โดยต่างประเทศมีญี่ปุ่นเป็นตลาดเป้าหมาย เนื่องจากในภาพรวมญี่ปุ่นเป็นตลาดส่งออกสินค้าอาหารอันดับ 1 ของไทยที่มีศักยภาพ ในปี 2561 มูลค่าการส่งออกอาหารของไทยไปญี่ปุ่นราว 132,130 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 12.8 ที่สำคัญไทยมีจุดแข็งที่เป็นผู้ผลิตและส่งออกสับปะรดกระป๋องและน้ำสับปะรดรายใหญ่ของโลก ที่มีมาตรฐานการผลิตในระดับสากล มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในตลาด โดยโรงงานแปรรูปสับปะรดของไทยมีทั้งหมด 62 แห่ง ร้อยละ 74 เป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี

ในปี 2561 เฉพาะสับปะรดกระป๋องไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกอันดับ 1 ของโลก มีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึงร้อยละ 40.8 (มูลค่า 12,933 ล้านบาท) ตลาดส่งออก 5 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา(29.43%) สหภาพยุโรป(26.5%) รัสเซีย(7.1%) จีน(3.2%) และญี่ปุ่น(3.1%) ส่วนผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นๆ ได้แก่ น้ำสับปะรดเข้มข้น (มูลค่า 3,601 ล้านบาท) สับปะรดแช่อิ่ม/เชื่อม(มูลค่า 2,198 ล้านบาท) สับปะรดสด/อบแห้ง(มูลค่า 332 ล้านบาท) สับปะรดแช่เย็นแช่แข็ง (มูลค่า 38 ล้านบาท) เมื่อรวมผลิตภัณฑ์ทุกประเภท ไทยเป็นผู้ส่งออกอันดับ 2 ของโลก มีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 15.1 รองจากประเทศคอสตาริกาที่มีส่วนแบ่งร้อยละ 26.9

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๐:๕๓ เซ็นทารา เปิดตัว โคซี่ เวียงจันทน์ น้ำพุ โรงแรมไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ ใจกลางเมือง พร้อมอิสระแห่งการเดินทาง
๑๐:๐๙ THE GAIN ยกขบวนวิทยากรระดับประเทศ มุ่งสู่งานสัมมนา การเทรดและลงทุนปี 2024
๑๐:๒๗ W เผย IFA หนุนเพิ่มทุน 2.5 พันล้านหุ้นขาย PP รับแผนเข้าถือหุ้นฟรุตต้าฯ 51% พร้อมปลดล็อก CBC
๑๐:๓๐ ผถห.TFG โหวตหนุนแจก TFG-W4 ฟรี! อัตรา 10 : 1 ราคาใช้สิทธิ 3.80 บ.พร้อมจ่ายปันผลเงินสด 0.01 บ./หุ้น ปักธงปี 67 รายได้โต 10%
๑๐:๑๙ ASIA เตรียมขายหุ้นกู้มีหลักประกัน มูลค่า 300 ลบ. อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 7 - 7.20% มูลค่าหลักประกันเฉียด 1,600 ลบ. คาดเปิดจองซื้อวันที่ 27 - 29 พ.ค.
๑๐:๓๘ ไมเนอร์ โฮเทลส์ ประกาศรวมอัตลักษณ์องค์กรในระดับโลก ด้วยการรีแบรนด์ เอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป เป็น ไมเนอร์ โฮเทลส์ ยุโรป แอนด์
๑๐:๕๔ ยูนิโคล่ร่วมกับมารีเมกโกะ เปิดตัว UNIQLO x Marimekko คอลเลคชันลิมิเต็ดเอดิชันประจำฤดูร้อน 2024 เติมเต็มความสดใสให้ซัมเมอร์ ในธีม Joyful Summer
๑๐:๔๒ TERA ฟอร์มเจ๋ง! เปิดเทรดวันแรกเหนือจอง 122.86% ลุยให้บริการ T.Cloud รับอนาคตธุรกิจคึกคัก ปักหมุดผลงาน 3 ปีเติบโตเฉลี่ยเกิน
๑๐:๐๙ โบรกฯ แสกน GFC ส่งซิก Q1/67 พุ่ง
๑๐:๐๐ ผถห. WINMED ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.0295 บ./หุ้น-รับเงิน 21 พ.ค.นี้ รุกตรวจคัดกรอง มะเร็งปากมดลูก เพิ่มรายได้ประจำผถห. ตั้งเป้ารายได้ปี 67 โตเกิน 20%