ชาตยา สุพรรณพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด เปิดเผยว่า "ฟู้ดแพชชั่นเป็นองค์กรที่ทำธุรกิจบนพื้นฐานความเชื่อในเรื่องวงจรแห่งความสุขที่ไม่เพียงแค่ต้องการที่จะบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจเท่านั้น แต่ยังต้องมีส่วนสำคัญในการช่วยสานต่อสังคมที่ยั่งยืนควบคู่กันไปด้วย ซึ่งฟู้ดแพชชั่นได้นำเอาแนวคิดดังกล่าว มาเป็นหลักการสำคัญในการดำเนินธุรกิจและขยายธุรกิจใหม่ๆ และครั้งนี้ เมื่อเราขยายธุรกิจของเราสู่บริการเดลิเวอรี่ จึงนำเอาแนวคิดเรื่องการทำธุรกิจเพื่อสังคมที่ยั่งยืน มาใช้ในการพัฒนาโมเดลธุรกิจบริการเดลิเวอรี่ จึงเกิดเป็นที่มาของบริการเดลิเวอรี่ของฟู้ดแพชชั่น ภายใต้แนวคิด "Wasteless Delivery" ลดขยะ Single-use plastics โดยมองว่าการเข้ามาในตลาดเดลิเวอรี่ของเรานั้นจะต้องมีส่วนในการช่วยลดปัญหาเรื่องขยะ Single-use plastics ซึ่งเป็นปัญหาที่กำลังเป็นวิกฤติการณ์ และกำลังเป็นประเด็นสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อประเทศและโลกในระยะยาว และแน่นอน การขยายธุรกิจบริการเดลิเวอรี่ของ ฟู้ดแพชชั่นในครั้งนี้ นอกเหนือจากจะช่วยลดปริมาณขยะ Single-use plastics ในระบบบริการเดลิเวอรี่แล้ว ยังตอบโจทย์ธุรกิจและผู้บริโภคด้วยเมนูอาหารสุดสร้างสรรค์เพื่อรักษาจุดเด่นของแต่ละแบรนด์เสมือนมานั่งรับประทานที่ร้าน โดยชู คอนเซ็ปต์ที่แตกต่างกันออกไป เพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่หลากหลาย
ที่ผ่านมา ฟู้ดแพชชั่นมีการให้บริการเดลิเวอรี่ก่อนหน้านี้แล้ว โดยแบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่าถือเป็นแบรนด์ที่มียอดขายสูงสุดจากแบรนด์ทั้งหมดในเครือ ซึ่งด้วยไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันเดลิเวอรี่คือสิ่งที่จะตอบโจทย์ผู้บริโภคให้ได้รับประทานอาหารจานโปรดได้อย่างไร้ข้อจำกัด ซึ่งเราพบว่าการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มปริมาณพลาสติกที่ย่อยสลายยาก โดยคาดการณ์ตัวเลขขยะในปี 2562 ที่อาจมีจำนวนสูงถึง 560 ล้านชิ้น จากการประเมินตัวเลขมูลค่าของตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่ จำนวน 35,000 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขจำนวนชิ้นขยะดังกล่าวเป็นการคาดคะเนจากการคำนวณจำนวนเงินเฉลี่ยต่อการสั่ง 1 ครั้ง เท่ากับ 250 บาท จะทำให้มีจำนวนการสั่งเดลิเวอรี่ที่จำนวนประมาณ 140 ล้านครั้ง และหากว่าในการสั่งเดลิเวอรี่ต่อ 1 ครั้ง สร้างขยะอย่างน้อย 4 ชิ้น คือ จากภาชนะบรรจุภัณฑ์ 1 ชิ้น ถุงใส่น้ำจิ้ม 1 ชิ้น ถุงพลาสติก 1 ชิ้น และช้อนส้อมอีก 1 ชิ้น ก็จะทำให้เกิดเป็นตัวเลขประเมินขยะจากธุรกิจเดลิเวอรี่ที่สูงถึง 560 ล้านชิ้นได้เลยทีเดียว
โดยโครงการ "Wasteless Delivery" ลดขยะ Single-use plastics ที่จะพลิกโฉมบริการฟู้ดเดลิเวอรี่ในครั้งนี้ ดำเนินการภายใต้แนวคิดของการช่วยลดขยะใน 2 แง่มุม แง่มุมแรก คือ ลดปริมาณขยะพลาสติกคงค้างโดยการเปลี่ยนมาใช้ภาชนะที่ย่อยสลายได้ และในอีกแง่มุม คือ หากต้องมีการใช้พลาสติกจะต้องมีการส่งเสริมให้นำกลับมาใช้ซ้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ดังนั้นเป้าหมายการลดปริมาณการใช้พลาสติกแบบ Single-Use Plastics ในฟู้ดเดลิเวอรี่จะสำเร็จได้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งผู้ให้บริการเดลิเวอรี่, ผู้ประกอบการร้านอาหาร อีกทั้งยังต้องมีโซลูชั่นของบรรจุภัณฑ์ที่จะสามารถนำมาทดแทนพลาสติกได้ โดยทางฟู้ดแพชชั่นได้มองหาจิ๊กซอว์ที่มีความเชื่อในสิ่งเดียวกันคือต้องการลดขยะ Single-use plastics ประกอบด้วย Duni, โครงการวน, และ GrabFood โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือ ผลักดันการสร้างมาตรฐานใหม่ของฟู้ดเดลิเวอรี่ที่ไม่สร้างภาระให้กับโลก จึงเป็นที่มาให้โครงการนี้เกิดขึ้นได้เป็นผลสำเร็จ"
ด้าน Duni หนึ่งในพันธมิตรสำคัญครั้งนี้ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์รักษ์โลกมาตรฐานยุโรป (BRC Cerficate) ได้ผลิตและออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากชานอ้อย สามารถย่อยสลายได้เองในเวลาเพียง 45 วันเท่านั้น และ ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดการใช้ Single-Use Plastics ด้วยการใช้ พอลิแลคติคแอซิด (PLA) หรือ พลาสติกชีวภาพ (Bioplastic) ที่สามารถย่อยสลายได้ในระยะเวลาไม่ถึงปี มาทดแทนการใช้พลาสติกทั่วไป ที่ใช้เวลาย่อยสลายถึง 100 ปี และสำหรับความร่วมมือกับฟู้ดแพชชั่นในครั้งนี้ Duni ได้มีการออกแบบและพัฒนาบรรจุภัณฑ์จากชานอ้อยที่สามารถรักษาคุณภาพของอาหาร และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้นอาหารเดลิเวอรี่ของฟู้ดแพชชั่น จะยังคงคุณภาพเสมือนรับประทานที่ร้าน
นอกเหนือจาก Duni อีกหนึ่งพันธมิตรสำคัญ ได้แก่ บริษัท ทีพีบีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ เจ้าของโครงการวน (Won) ที่เน้นการแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกอย่างสร้างสรรค์ บนแนวคิดของระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ซึ่งโครงการดังกล่าวเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการของเสียวัตถุดิบ และพลังงาน ให้ถูกนำกลับไปเป็นทรัพยากรหมุนเวียน และในฐานะที่เป็นหนึ่งในพันธมิตรสำคัญ ครั้งนี้ TPBI ได้เข้ามาช่วยออกแบบและพัฒนาถุงพลาสติกคุณภาพสูงพิเศษที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล มีความหนาถึง 5 เท่า ในบริการจัดส่งอาหารทุกออเดอร์ เพื่อให้ผู้บริโภคนำถุงพลาสติกกลับมาใช้หมุนเวียนได้ใหม่ ซึ่งเป็นการใช้พลาสติกให้เกิดประโยชน์สูงสุด
และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้คือ GrabFood ผู้นำด้านแพลตฟอร์มการสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรายใหญ่ที่ตระหนักถึงปัญหาด้านขยะพลาสติกและมีนโยบายในการดำเนินธุรกิจที่ร่วมส่งเสริมความยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกับฟู้ดแพชชั่น โดยก่อนหน้านี้ GrabFood ได้ริเริ่มแนวคิดต่างๆ ที่จะช่วยลดขยะ Single-Use Plastics ในธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ อาทิ การมีฟีเจอร์ที่ให้ลูกค้าสามารถกดเลือกรับหรือไม่รับช้อน-ส้อม และมีดพลาสติกเมื่อสั่งอาหาร รวมถึงการจับมือกับพันธมิตรเพื่อส่งเสริมให้ลูกค้าหันมาใช้ถุงกระดาษเพื่อทดแทนการใช้ถุงพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง ซึ่งเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นที่ชักชวนให้ผู้บริโภคหันมาใส่ใจกับประเด็นดังกล่าว สำหรับการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรสำคัญกับฟู้ดแพชชั่นในครั้งนี้ นอกจากการนำเสนอทางเลือกให้กับลูกค้าในการไม่รับช้อน-ส้อมพลาสติกแล้ว GrabFood ยังได้สร้างแรงจูงใจและกระตุ้นผู้บริโภคให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ด้วยการมอบโค้ดส่วนลดค่าส่งมูลค่า 10 บาท จำนวนทั้งสิ้น 50,000 โค้ด* เมื่อสั่งชุดอาหารที่ร่วมรายการจากร้านในเครือฟู้ดแพชชั่น ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย. – 31 ธ.ค. 62 เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สังคมและมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
"ทั้งนี้ อีกจิ๊กซอว์สำคัญที่จะทำให้แนวคิด "Wasteless Delivery" ลดขยะ Single-use plastics ของฟู้ดแพชชั่นสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมได้นั้น จะต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้บริโภค ที่ยอมรับและเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลง และพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการลด Single-Use Plastics หรือ ใช้พลาสติกให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งมั่นใจว่าหากได้รับความร่วมมือจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี ตลาดเดลิเวอรี่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงและนำไปสู่เป้าหมายการแก้ไขปัญหาการใช้ Single-Use Plastics ได้ในระยะยาวอย่างยั่งยืน" คุณชาตยา กล่าวเสริม
และเพื่อให้การบริการสู่เดลิเวอรี่ของฟู้ดแพชชั่นในครั้งนี้ ได้เกิดผลสำเร็จแบบจับต้องได้ ฟู้ดแพชชั่นได้วางเป้าหมายในการลดขยะ Single-Use Plastics จากบริการเดลิเวอรี่ของฟู้ดแพชชั่นไว้สูงถึง 1.2 ล้านชิ้น ควบคู่ไปกับเป้าหมายในเชิงของยอดขาย โดยตั้งเป้าหมายในการสร้างสัดส่วนยอดขายเดลิเวอรี่ ในปี 2563 ให้ได้ 10% ของยอดขายรวมในสาขาที่เป็น Hub เดลิเวอรี่
สำหรับอาหารรูปแบบเดลิเวอรี่ในเครือฟู้ดแพชชั่น ได้ถูกสร้างสรรค์จากจุดเด่นของแต่ละแบรนด์ คือ
- บาร์บีคิวพลาซ่า (Bar B Q Plaza) ซึ่งถือเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในการให้บริการเดลิเวอรี่ของเครือฟู้ดแพชชั่น ชูคอนเซ็ปต์ "Fun-Filled togetherness" กับวัตถุดิบที่เป็นซิกเนเจอร์ของบาร์บีคิวพลาซ่า คือ "เมนูข้าวหน้าหมูผัดไข่เค็มพริกสด และ ข้าวหน้าหมูผัดกระเทียมไข่เค็ม"
- ฌานา (Charna) ที่ตอบโจทย์คนรักสุขภาพมาในคอนเซ็ปต์ "Essential balance for life" กับเมนูเพื่อสุขภาพ "ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ คลุกปลาทูแม่กลอง และ ข้าวหอมมะลิอินทรีย์กระเพราหมูคุโรบุตะ"
- สเปซคิว (Space Q) ที่เอาใจสายกินที่ชื่นชอบหมูและเนื้อ มาในรูปแบบที่รับประทานง่ายขึ้นกับคอนเซ็ปต์ "Everyday Simple twist" ที่สร้างสรรค์เป็นเมนู "ข้าวหน้าหมูภูเขาไฟไข่ดาวกรอบ และ ข้าวกระเพราหมูตุ๋นไข่ดาวกรอบ"
- เรดซัน (Red Sun) ซึ่งมีความชัดเจนที่เน้นกลุ่มไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ดังนั้นการให้บริการอาหารเดลิเวอรี่จึงมาในคอนเซ็ปต์ "Korean with a Twist" กับเมนูรับประทานง่าย ๆ อย่าง "ข้าวผัดเรดซัน 3 หน้า" ประกอบด้วย สไปซี่ ชิคเก้น ป๊อป
นอกจากเหนือจากเมนูหลากหลายสุดพิเศษที่ฟู้ดแพชชั่นนำมาเข้าร่วมรายการเดลิเวอรี่แล้ว ฟู้ดแพชชั่นยังจัดโปรโมชั่นพิเศษเอาใจลูกค้าที่สั่งอาหารเดลิเวอรี่ (แบรนด์ใดก็ได้ไม่ว่าจะเป็นบาร์บีคิวพลาซ่า, ฌานา (Charna), สเปซคิว (Space Q) หรือ เรดซัน (Red Sun) ) รับส่วนลดราคา 30% ทันที เมื่อซื้ออาหารชุด (2 กล่อง) ที่ร่วมรายการ เริ่ม 28 พ.ย. – 31 ธ.ค. 62 ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/barbqplazathailand, www.facebook.com/charnarestaurant, www.facebook.com/spaceqbybarbqplaza และ www.facebook.com/redsunth