STI มาตามนัด ปี 62 กำไรโต 17% - จ่ายเงินปันผล 0.25 บาทต่อหุ้น ตั้งบริษัทย่อย “สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ เวนเจอร์” ลุยผนึกพันธมิตรเสริมแกร่ง

จันทร์ ๐๒ มีนาคม ๒๐๒๐ ๐๙:๑๗
“สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์” หรือ STI เผยงบปี 62 โตอย่างแข็งแกร่ง รายได้จากการให้บริการ 712.3 ล้านบาท โตเกือบ 13% กำไรสุทธิอยู่ที่ 85.5 ล้านบาท โต 17% จากความสำเร็จในธุรกิจที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้างได้รับงานเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะงานที่มีอัตรากำไรสูง ควบคู่การบริหารจัดการต้นทุน หนุนอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 33.7% อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 11.8% บอร์ดควักกระเป๋าจ่ายปันผลเป็นเงินสดสูงถึง 91% ของกำไรสุทธิ ในอัตรา 0.25 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่ายปันผล 27 พฤษภาคมนี้ พร้อมประกาศจัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ “สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ เวนเจอร์” เพื่อขยายโอกาสในการเติบโต และสร้างฐานกำไรที่โดดเด่นในระยะยาว ส่วนปี 63 ปักธงรายได้โตต่อไม่ต่ำกว่า 10% จากงานในมือตุนไว้แล้วกว่า 2 พันล้านบาท
STI มาตามนัด ปี 62 กำไรโต 17% - จ่ายเงินปันผล 0.25 บาทต่อหุ้น ตั้งบริษัทย่อย สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ เวนเจอร์ ลุยผนึกพันธมิตรเสริมแกร่ง

นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI ผู้นำกลุ่มธุรกิจที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้างครบวงจร เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานสำหรับปี 2562 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2562) มีรายได้จากการให้บริการ 712.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 80.9 ล้านบาท หรือ 12.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 631.4 ล้านบาท กำไรขั้นต้น 240.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.4 ล้านบาท หรือ 20.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 200 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 85.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.4 ล้านบาท หรือ 17.% เมื่อเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 73.1 ล้านบาท สาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการให้บริการ การเพิ่มขึ้นของปริมาณงาน โดยเฉพาะงานที่มีกำไรขั้นต้นสูงขึ้น และจากการบริหารจัดการต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับพนักงานที่ดีขึ้น

จากความสำเร็จในการบริหารงาน

ส่งผลให้ STI มีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่

33.7% อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 11.8% ซึ่งสูงกว่าอัตรากำไรในปี 2561 แม้จะมีการบันทึกสำรองผลประโยชน์ระยะยาวของพนักงานเพิ่มเติมตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน

(ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 ทำให้กลุ่ม STI มีหนี้สินสำรองผลประโยชน์ระยะยาวของพนักงานเพิ่มขึ้นจำนวน

10 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นรายจ่ายครั้งเดียวและไม่ใช่รายการเงินสด

ซึ่งหากไม่รวมต้นทุนการให้บริการในส่วนนี้ กลุ่ม STI จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่

93.5 ล้านบาท และมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 34.8%

อย่างไรก็ดี

รายได้จากการให้บริการปี 2562

เติบโตขึ้นตามเป้าหมายในครั้งนี้ มีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจบริหารและควบคุมงานก่อสร้างจำนวน

52.4 ล้านบาท เป็นการเพิ่มขึ้นของปริมาณงานที่ให้บริการในปี 2562 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า เช่น โครงการ One

Bangkok โครงการปรับปรุงศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

โครงการอาคารชุดพักอาศัยหลายโครงการ โครงการอาคารสำนักงาน

และโครงการประเภทอาคารอเนกประสงค์ เป็นต้น

ในขณะเดียวกัน

รายได้จากธุรกิจออกแบบสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมมีจำนวนเพิ่มขึ้น 28.5 ล้านบาท

เนื่องจากปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นในปี 2562 เช่น งานโครงการพัฒนาพื้นที่ชุมชนตามการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก

งานโครงการประเภทโรงงานและคลังสินค้าหลายแห่ง และโครงการประเภทอาคารอเนกประสงค์

เป็นต้น

“ภาพรวมปี 2562 เติบโตขึ้นตามเป้าหมาย จากงานในมือที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ความสามารถในการบริหารงาน การควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ และฐานะทางการเงินที่แข็งแรง โดยบริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลงอย่างมาก จากการจ่ายชำระเงินกู้ระยะยาวทั้งหมดไปในปีก่อนหน้าและได้ชำระหนี้สินตามสัญญาเช่าทางการเงินเกือบทั้งหมดในปี 2562 เป็นผลให้กลุ่ม STI ไม่มีเงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงิน และมีกำไรสุทธิเติบโตอย่างน่าประทับใจ ส่วนรายได้ของกลุ่ม STI มาจากธุรกิจบริหารและควบคุมงานก่อสร้างสัดส่วน 84.7% ของรายได้จากการให้บริการรวม ส่วนรายได้จากธุรกิจออกแบบสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม มีสัดส่วนรายได้ 15.3% จากความสำเร็จในการขยายงานโครงการได้มากขึ้น โดยเฉพาะงานโครงการขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียง รวมไปถึง การเข้าสู่งานภาครัฐรับบิ๊กโปรเจกต์ที่ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่องทั้งในปีที่ผ่านมา และในปี 2563 นี้” นายสมเกียรติ กล่าว

ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ

อนุมัติการจ่ายปันผลเป็นเงินสดจากกำไรสุทธิงวดปี 2562 ในอัตรา 0.25 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินปันผลจ่าย 67 ล้านบาท

และมีอัตราการจ่ายเงินปันผลสูงถึง 91% ของกำไรสุทธิหลังจัดสรรสำรองตามกฎหมายประจำปี

2562 ในงบการเงินเฉพาะกิจการ กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล

(XD) 7 พฤษภาคม 2563

กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) 8 พฤษภาคม 2563 และวันที่จ่ายปันผล 27 พฤษภาคม 2563 เพื่อสะท้อนความเชื่อมั่น และตอบแทนผู้ถือหุ้นที่สนับสนุนบริษัทด้วยดีเสมอมา

อย่างไรก็ตามสิทธิในการรับเงินปันผลอยู่ในระหว่างการนำเสนอขออนุมัติจากการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น

พร้อมกันนี้

มีมติจัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ ภายใต้ชื่อ บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ เวนเจอร์

จำกัด มีทุนจดทะเบียน 1

ล้านบาท วัตถุประสงค์เพื่อขยายโอกาสในการเติบโต

การลงทุนในกิจการอื่น รวมถึงโอกาสในการประกอบธุรกิจที่ปรึกษา หรือธุรกิจอื่น

นับเป็นการต่อยอดจากธุรกิจหลักที่มีความแข็งแกร่ง สร้างฐานการเติบโตในระยะยาว

สำหรับ ภาพรวมธุรกิจปี

2563 ตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากงานในมือที่รอรับรู้เป็นรายได้

(Backlog) กว่า 2,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ราว

35-40 % แบ่งเป็นสัดส่วนงานในมือจากภาคเอกชน 76% และงานภาครัฐ 24% ล่าสุด ได้รับความไว้วางใจให้ควบคุมการก่อสร้างโครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยาย

ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 โซน C จำนวน

1 โครงการ โดยเซ็นสัญญาไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ประกอบกับ การบริหารโครงการในมือที่หลากหลาย

และยังคงเดินหน้าตามแผน อาทิ โครงการ One Bangkok โครงการ The PARQ โครงการปรับปรุงศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

โครงการพัฒนาพื้นที่หมอน 33 หรือบล็อก 33 และงานโครงการประเภทโรงงานและคลังสินค้าหลายแห่ง

เป็นต้น

ทั้งนี้ มองว่า STI ยังได้รับผลบวกจากพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ

พ.ศ.2563 (พ.ร.บ.งบประมาณปี 63) วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท ได้รับโปรดเกล้าฯ

และมีผลย้อนหลังตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2562 กระตุ้นโครงการลงทุนขนาดใหญ่

กระตุ้นเศรษฐกิจ และงานภาคเอกชนที่จะขยายตัว ส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมคึกคัก เพิ่มโอกาสในการรับงานมากขึ้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๔ กทม. เตรียมปรับปรุงพัฒนาระบบการให้บริการงานทะเบียนสำนักงานเขต
๑๗:๑๗ สมาคมเพื่อนชุมชน ส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางลดก๊าซเรือนกระจก
๑๗:๔๑ กทม. เร่งติดตั้งเสา-ตะแกรงรั้วกั้นเกาะกลางถนนวิสุทธิกษัตริย์ที่ถูกรถชนเสียหาย
๑๗:๐๔ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ขอเชิญชวนนักศึกษา และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมงาน M-Sci JOB FAIR 2024 หางานที่ใช่ สร้างงาน สร้างโอกาส วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น. ณ หอประชุม รักตะกนิษฐ
๑๗:๒๘ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอโซลูชั่นดิจิทัลลุยตลาดอาคารอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน
๑๖:๒๙ จิม ทอมป์สัน เผยทิศทางการพา แบรนด์ผ้าเมืองไทย ผงาดเวทีโลก ส่องกลยุทธ์การครีเอตผลงานคุณภาพให้สอดรับเทรนด์สิ่งทอระดับสากล
๑๖:๓๘ อาดิดาสจับมือนักฟุตบอลระดับตำนาน ส่งแคมเปญ 2006 JOSE 10 สร้างแรงบันดาลใจและความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดให้กับเหล่านักฟุตบอลเยาวชนหญิง
๑๖:๑๐ Maison Berger Paris พาชมเครื่องหอมบ้าน 2 คอลเลคชั่นใหม่ MOLECULE และ JOY จัดเต็มเซ็ตของขวัญ ครบทุกรูปแบบความหอม สร้างบรรยากาศหรูหราพร้อมกลิ่นหอมบริสุทธิ์
๑๖:๕๗ กทม. เตรียมระบบเฝ้าระวัง-ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 หลังเทศกาลสงกรานต์
๑๕:๑๕ NCC. ผนึก ททท. ขยายตลาดท่องเที่ยวมูลค่าสูง ชี้ตลาดท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Niche Market) โต ลุยจัดงาน Thailand Golf Dive Expo plus OUTDOOR Fest