'เฮียฮ้อ’ ยืนยัน Entertainmerce แข็งแกร่ง พาโตสวนกระแส ดันกำไรนิวไฮตามเป้า

อังคาร ๑๗ มีนาคม ๒๐๒๐ ๑๕:๒๙
จากสถานการณ์การแพร่กระจายของโควิด-19 กลายเป็นโรคระบาดครั้งใหญ่ของโลกที่ส่งผลกระทบให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจไปทั่วโลก แต่ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ อาร์เอส กรุ๊ป กลับปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว และยังคงเติบโตสวนกระแสได้ตั้งแต่ต้นปี ดันยอดขาย commerce โตขึ้นทั้งทาง on air และ online นั่นเป็นเพราะ “Entertainmerce” ธุรกิจโมเดลใหม่ที่แตกต่าง ซึ่งผนวกทั้งธุรกิจ Entertainment และ Commerce เข้าด้วยกันอย่างแข็งแกร่งและเบ็ดเสร็จตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยในปัจจุบัน RS GROUP แบ่งโครงสร้างธุรกิจเป็น 2 ส่วน คือ
'เฮียฮ้อ ยืนยัน Entertainmerce แข็งแกร่ง พาโตสวนกระแส ดันกำไรนิวไฮตามเป้า

ธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนท์และมีเดีย ซึ่งได้แก่ ธุรกิจทีวีดิจิทัล ช่อง 8 ธุรกิจคลื่นวิทยุ COOLfarenheit และธุรกิจเพลงธุรกิจคอมเมิร์ซ ซึ่งได้แก่ RS Mall แพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าและบริการในหลากหลายกลุ่ม และ Lifestar บริษัทผลิตสินค้านวัตกรรมเพื่อสุขภาพและความงาม

นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “สัดส่วนธุรกิจในปัจจุบันของอาร์เอส กรุ๊ป แบ่งเป็น Commerce 60% และ Entertain & Media 40% เราเชื่อว่าใน 2 ปี Commerce จะโตขึ้นจนเป็น 80% แต่ไม่ได้หมายความว่า Entertain & Media จะไม่โตขึ้น แต่สัดส่วนการเติบโตของ Commerce จะโตเร็วกว่า เพราะด้วยมูลค่าตลาดที่ใหญ่กว่ามาก “การที่เรามองโอกาสและเตรียมพร้อมอยู่เสมอ จึงทำให้ธุรกิจของเราเติบโตมากกว่าได้รับผลกระทบในไตรมาสแรกของปี 2563 เพราะเรามีธุรกิจที่หลากหลายและปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้รวดเร็ว”

ขณะนี้ RS Mall ซึ่งเป็นธุรกิจพาณิชย์หลายช่องทาง (Multi Platform Commerce) ได้เข้าสู่การเป็น Virtual Mall ที่เข้าถึงผู้บริโภคทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ซึ่งได้แก่ ช่องทางโทรทัศน์ช่อง 8 และช่องพันธมิตร ทั้งไทยรัฐ เวิร์คพอยท์ และอมรินทร์ทีวี รวมถึงช่องทางออนไลน์ เว็บไซต์ www.rsmall.co.th แอปพลิเคชั่น และสื่อโซเชียลมีเดีย

โดยมีสินค้าที่ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิต แต่สินค้ายอดนิยมอยู่ในหมวดผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ โดยปัจจัยที่ผลักดันให้ธุรกิจเติบโตในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้คือ

สินค้าบำรุงสุขภาพที่มีคุณภาพสูงตอบโจทย์ลูกค้าในสถานการณ์โควิด-19การสั่งซื้อผ่านคอลเซ็นเตอร์ให้บริการตลอด 24 ชม.และช่องทางออนไลน์ รวมถึงการบริการส่งถึงมือผู้บริโภคอย่างรวดเร็วการบริหารข้อมูลลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมนำเทคโนโลยี PDS (Predictive Dialing System) และระบบ CRM มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขาย เสริมสร้างประสบการณ์และสร้างความเข้าใจที่มีต่อลูกค้าแต่ละรายให้ดียิ่งขึ้นLoyalty Program สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก RS Mall Plus ซึ่งยอดสมากชิกในปัจจุบันมีกว่า 1 แสนราย จากการเปิดรับสมาชิกไม่ถึงหนึ่งเดือน

ส่วนสินค้าขึ้นแท่นโปรดักส์แชมเปี้ยน 3 อันดับแรกของ RS Mall เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพทั้งหมด ได้แก่ เอส.โอ.เอ็ม.คอร์ดี้ ทิเบต แอนด์ ภูฏาน (S.O.M. Cordy Tibet & Bhutan) กาแฟสำเร็จรูป เอส.โอ.เอ็ม.ซีแม็กซ์ (S.O.M. CMax) และเอส.โอ.เอ็ม.ไอแคร์ (S.O.M. i-Kare) อาหารเสริมบำรุงสายตา ซึ่งทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์มียอดขายประมาณการในไตรมาสแรกกว่า 150 ล้านบาท

สำหรับช่อง 8 นั้นด้วยคอนเทนต์คุณภาพครบรสที่ผู้ชมทั่วประเทศให้การยอมรับ โดดเด่นด้วยละครซีรี่ส์ รายการข่าวที่เข้มข้น จนถึงรายการมวยไทยที่ได้รับความนิยมจากแฟนมวยมากที่สุด โดยเน้นการบริหารคอนเทนต์สร้างรายได้จากช่องทางอื่นๆ เช่น YouTube, Facebook, Line TV และพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ โดยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2563

ด้าน COOLfahrenheit สถานีเพลงไทยอันดับหนึ่งตลอดกาลจาก COOLISM ที่ครองใจผู้ฟังคนเมืองเสมอมา ด้วยจำนวนผู้ฟังผ่านระบบออนไลน์ 50 ล้านครั้งต่อเดือน ยอดผู้ฟังรวมเดือนละกว่า 1 พันล้านนาที ซึ่งในเร็วๆ นี้ COOLfarenheit จะชูคอนเซปต์ Music-Led Lifestyle ด้วยการทำ Podcast นำเสนอเรื่องราวไลฟ์สไตล์ที่น่าสนใจ เช่น เพลง ความสวยงาม กีฬา สุขภาพ อาหาร ฯลฯ เพื่อเติมเต็มคอนเทนต์ไลฟ์สไตล์ให้ตรงใจผู้ฟังมากยิ่งขึ้น

ในขณะที่ธุรกิจเพลง ได้มีการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องเพื่อยืนหยัดในยุคดิจิทัล โดยสร้างพันธมิตรทางธุรกิจและต่อยอดความสัมพันธ์กับผู้บริโภคผ่านช่องทางใหม่ๆ ล่าสุดจับมือกับ LINE ประเทศไทย เปิดให้บริการ LINE Melody และ LINE STICKERS ซึ่ง LINE STICKERS คาแรคเตอร์ D2B มียอดดาวน์โหลดเป็นอันดับ 1 ตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัว อีกทั้งเพลงของ D2B ยังติดอันดับการค้นหาสูงสุดประจำเดือนกุมภาพันธ์ โดยเพลงที่ถูกดาวน์โหลดมากที่สุด 3 อันดับแรกคือ ไม่เปลี่ยนใจ (เธอคนเดียว), ซ่าส์…(สั่นๆ) และ ยังคิดถึงกัน (หรือเปล่า) และเตรียมปล่อย LINE Melody และ LINE STICKERS เซ็ต Kamikaze และเพลงอื่นๆ จากคลังเพลงอาร์เอสอีกมากมาย ซึ่งคาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน

นายสุรชัย กล่าวย้ำว่า “แม้สถานการณ์การแพร่กระจายของโควิด-19 ในปัจจุบันจะส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมหยุดชะงัก แต่จากวิสัยทัศน์ของ อาร์เอส และการทำธุรกิจภายใต้โมเดล 'Entertainmerce’ ที่มีธุรกิจหลักที่แข็งแกร่งทั้งธุรกิจสื่อและธุรกิจเพลง และเราสามารถหลอมรวม synergy กันได้ดี ทำให้เราชนะและสำเร็จในธุรกิจ Commerce ได้เร็ว ถ้าพูดในแง่ value chain เรามีตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำที่เราสามารถเข้าไปควบคุมและจัดการได้ตลอดกระบวนการ จึงส่งผลให้การ synergy ระหว่างต้นน้ำถึงปลายน้ำเป็นไปอย่างสมบูรณ์ ด้วยความแตกต่างและศักยภาพของทีมงาน เฮียมั่นใจว่าปี 2563 เราจะทำกำไรนิวไฮได้ตามเป้า” สามารถติดตามข่าวสารของ อาร์เอส กรุ๊ป ได้ทาง www.rs.co.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4