ในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา สังคมออนไลน์และสื่อมวลชนต่างๆ ได้แชร์ภาพและคลิป #ขอชื่นชมการปฏิบัติงานของลูกเรือ ที่ได้รับการชื่นชม ในการช่วยเหลือผู้โดยสารท่านหนึ่ง เดินทางกับเที่ยวบิน FD 3109 เส้นทางหาดใหญ่-ดอนเมือง ซึ่งในภาพจะเห็นการปฏิบัติงานของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินผู้หญิงสองคน ที่ช่วยปฐมพยาบาลและใส่หน้ากากออกซิเจนให้ผู้โดยสารที่มีอาการป่วย ในขณะที่สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย
พรรษชล อินตรา(พีช) และวรภาดา ซื่อตรงมั่นคง(อิ๋ว) คือ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินในเที่ยวบินนั้นที่ประจำการด้านหลังเครื่อง ร่วมกับเพื่อนพนักงานต้อนรับอีก 2 คนที่อยู่ด้านหน้าเครื่อง
“สังเกต” อาการผู้โดยสาร
ทั้งสองคนเล่าถึงเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2563 เที่ยวบินจากหาดใหญ่ สู่กรุงเทพฯ ว่า ก่อนเครื่องลงจอด 15 นาทีที่ท่าอากาศยานดอนเมือง ระหว่างนั้นเครื่องบินต้องผ่านสภาพอากาศที่เลวร้ายมาตลอด ซึ่งกัปตันได้เปิดสัญญาณรัดเข็มขัดให้ทุกคนนั่งอยู่กับที่ โดยก่อนลงจอด พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินทุกคนได้เดินตรวจเช็คห้องโดยสาร ระหว่างนั้นเธอได้สังเกตอาการผู้โดยสารท่านหนึ่งที่นั่งบริเวณแถวที่ 27 เป็นระยะ ตั้งแต่ผู้โดยสารคนดังกล่าวมาขอยาแก้ปวด และมีอาการหน้าแดงผิดปกติ
เมื่อพรรษชลและวรภาดา นั่งประจำที่เพื่อดูแลความปลอดภัยตามมาตรฐานตรงประตูทางออกตามปกติไม่นานนัก ผู้โดยสารบริเวณที่นั่งแถวที่ 27 ได้เรียกขอความช่วยเหลือ และพบว่าผู้โดยสารในที่นั่งริมทางเดิน 27C ที่เธอสังเกตอาการอยู่ตลอดนั้น มีอาการหน้าแดง หายใจติดขัด ทั้งสองจึงแจ้งกัปตันเพื่อขออนุญาตและรีบเดินไปดูผู้โดยสารทั้งทีกัปตันเปิดสัญญาณรัดเข็มขัดเพื่อเตรียมนำเครื่องลงแล้ว และพบว่าผู้โดยสารมีอาการกึ่งไม่ได้สติ หายใจเบา ไม่สามารถสื่อสารกันได้ ซึ่งทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากโดยอัตโนมัติ พรรษชลและวรภาดาจึงรีบนำถังและอุปกรณ์ออกซิเจนช่วยกันปฐมพยาบาลตามขั้นตอนเพื่อช่วยเหลือผู้โดยสารอย่างรวดเร็ว
“สิ่งสำคัญคือการมีสติอยู่ตลอดเวลา เรารู้ว่าเราต้องทำอะไรในสถานการณ์เร่งด่วนนั้น เพราะได้รับการฝึกอบรมเรื่องความปลอดภัยอย่างเข้มข้นมาตลอดจนจำขึ้นใจ เรามองตากัน และทำตามขั้นตอน โดยคนนึงให้ออกซิเจนผู้โดยสาร ในขณะที่อีกคนช่วยเกาะยึดเพื่อนให้นั่งอย่างมั่นคง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยที่สุดทั้งกับตัวเราและผู้โดยสาร เนื่องจากขณะนั้นสภาพอากาศยังเลวร้ายอยู่” พรรษชลกล่าว
แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ไม่ถึง 5 นาที แต่เป็นช่วงเวลาที่มีความสำคัญมาก หลังจากให้ออกซิเจนผู้โดยสาร ทั้งสองต้องรบกวนผู้โดยสารที่นั่งข้างๆ ช่วยประคองถังออกซิเจนต่อ ซึ่งได้รับความช่วยเหลืออย่างดี หลังจากนั้นเธอทั้งสองจึงได้ประจำหน้าที่ เพื่อดูแลความปลอดภัยก่อนเครื่องลงสำหรับผู้โดยสารทุกคนต่อไป
หลังเครื่องบินจอดสนิท ลูกเรือได้ประกาศขอความช่วยเหลือจากบุคลากรทางการแพทย์ในเที่ยวบินนั้น เพื่อช่วยในการปฐมพยาบาล พร้อมประสานงานภาคพื้นตามขั้นตอน และพาผู้โดยสารส่งต่อที่ศูนย์พยาบาลท่าอากาศยานได้อย่างปลอดภัย
“ตลอด 10 ปีที่ทำงานลูกเรือ เคยเจอเหตุการณ์ในสถานการณ์ฉุกเฉินและต้องช่วยชีวิตผู้โดยสาร หนึ่งในเหตุการณ์ที่จำได้คือการช่วยเหลือทารก อายุ 4 เดือน ที่หยุดหายใจ ทำให้รู้ว่าทุกการฝึกฝนจนชำนาญสามารถช่วยชีวิตคนได้ เป็นหน้าที่ที่หน้าภูมิใจของลูกเรือที่แท้จริง” วรภาดากล่าว
“ทบทวน” ความรู้พร้อมทุกสถานการณ์
ในทุกๆ ปี พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของแอร์เอเชีย จะผ่านการอบรม สอบทั้งข้อเขียนและภาคปฏิบัติ เพื่อทบทวนความรู้ด้านความปลอดภัยการบินพร้อมปฐมพยาบาลเบื้องต้น ที่เรียกว่า Recurrent พร้อมการจำลองสถานการณ์ฉุกเฉิน (Role play) เพื่อให้ทุกคนสามารถควบคุมสติ และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างเป็นขั้นตอน
ในขณะที่ทุกเที่ยวบินก่อนการปฏิบัติหน้าที่ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินนั้นจะผลัดกันถามทบทวนด้านความปลอดภัยเป็นประจำ เพื่อให้ทุกคนพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ หรือหากมีข้อมูลอัพเดตด้านการปฐมพยาบาล ความปลอดภัยต่างๆ ก็จะมีการแจ้งในระบบ Docunet ซึ่งสามารถดูได้ผ่านอุปกรณ์มือถือ ทำให้อัพเดตได้อย่างทันท่วงที
“พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินทุกคนไม่อยากให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินหรือจำเป็นต้องช่วยชีวิตใครบนเครื่อง แต่เมื่อถึงสถานการณ์จำเป็น เราทุกคนจำเป็นต้องมีสติ ทำงานเป็นทีมตามขั้นตอนอย่างมืออาชีพ เพื่อดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสารทุกคน”
พรรษชล อินตรา และวรภาดา ซื่อตรงมั่นคง ทั้งสองคนเป็นลูกเรือที่ร่วมงานกับแอร์เอเชียมากว่า 10 ปี ตั้งแต่ปี 2553 ผ่านการอบรมด้านความปลอดภัยที่เข้มข้นตามฉบับแอร์เอเชีย เช่นเดียวกับพนักงานทุกคน โดยทั้งคู่ภูมิใจกับการทำหน้าที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน เพื่อดูแลความปลอดภัยให้ผู้โดยสารอย่างดีที่สุด
