สสว.จับมือพันธมิตร ปั้นเอสเอ็มอีเจาะส่งออกตลาดซีแอลเอ็มวี

พุธ ๐๕ สิงหาคม ๒๐๒๐ ๑๔:๔๙
สสว. จับมือ ธสน. และหน่วยงานพันธมิตร จัดโครงการ “เชื่อมผู้ผลิต เชื่อมผู้ส่งออก และผู้ซื้อในต่างประเทศ” หวังปั้นเอสเอ็มอี เจาะตลาดส่งออกสู่ประเทศซีแอลเอ็มวี (CLMV) เน้น 3 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ อาหาร เครื่องดื่ม และเครื่องสำอาง หวังยกระดับศักยภาพเอสเอ็มอี และเพิ่มรายได้เข้าประเทศ
สสว.จับมือพันธมิตร ปั้นเอสเอ็มอีเจาะส่งออกตลาดซีแอลเอ็มวี

นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เปิดเผยว่า ปัญหาหลักที่สำคัญประการหนึ่งของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีปัจจุบัน คือ การขาดตลาดเพื่อระบายสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ จะเป็นช่องทางสำคัญในการกระจายสินค้าไปสู่ผู้บริโภคจำนวนมาก และยังเป็นการยกระดับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไปสู่มาตรฐานสากล ทำให้เติบโตไปเป็นผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดใหญ่ในอนาคต

อย่างไรก็ตาม การที่จะพัฒนาเอสเอ็มอีไปสู่ตลาดต่างประเทศได้ จะต้องยกระดับมาตรฐานการผลิตให้อยู่ในระดับสากล ให้มีความรู้ในการเจาะตลาดประเทศเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง และเข้าถึงช่องทางการจัดจำหน่ายในประเทศนั้นๆ ดังนั้น สสว. จึงได้ร่วมมือกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) และหน่วยงานพันธมิตร จัดทำโครงการ “เชื่อมผู้ผลิต เชื่อมผู้ส่งออก และผู้ซื้อในต่างประเทศ” เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย และสร้างแรงขับเคลื่อนการเติบโตของภาคการส่งออกของประเทศตามนโยบายของรัฐบาล

โดยโครงการดังกล่าว จะมุ่งเน้นการพัฒนาความรู้ด้านการส่งออกให้แก่ผู้ประกอบการที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิตของผู้ส่งออก ตั้งแต่การสร้างทักษะและองค์ความรู้ที่จำเป็นต่อการส่งออกแบบรอบด้าน สร้างเครือข่ายธุรกิจและหาโอกาสทางการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการไทย ผ่านกิจกรรมการเจรจาจับคู่ธุรกิจ ให้ผู้ส่งออกสามารถส่งออกสินค้าและผลิตภัณฑ์ของตนเพิ่มมากขึ้นและเพิ่มสัดส่วนการค้าของผู้ประกอบการไทยกับผู้นำเข้าสินค้าโดยมุ่งเน้นในตลาดกลุ่มประเทศ ซีแอลเอ็มวี (CLMV) ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม รวมทั้งยังช่วยกระตุ้นการส่งออก โดยหาลู่ทางขยายการส่งออกสินค้าไทยไปยังตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพ

สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการเป้าหมายที่สนใจเข้าร่วมโครงการ จะต้องเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ทำธุรกิจภายในประเทศและวางแผนที่จะส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศและมีศักยภาพในการส่งออก หรือผู้ประกอบการที่สนใจจะส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ และมีความพร้อมแต่ยังไม่มีประสบการณ์ หรือผู้เริ่มต้นทำธุรกิจส่งออก โดยอุตสาหกรรมเป้าหมายจะอยู่ใน 1. กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร และรวมถึงสิ่งปรุงรส ผลไม้กระป๋อง และสินค้าแปรรูป 2. อุตสาหกรรมเครื่องดื่ม และ 3.อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง ทั้งนี้ หลักเกณฑ์การคัดเลือกเอสเอ็มอีเข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย 1. เป็นนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจส่งออกในอุตสาหกรรมเป้าหมาย 2. ต้องการขยายตลาดส่งออกในตลาดต่างประเทศ 3. มีสินค้าที่ได้มาตรฐานสำหรับการส่งออก

ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ จะได้รับความรู้เรื่องกระบวนการส่งออกสินค้า การบริหารความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศ และสิทธิ์ในการเข้าร่วมกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทยซึ่งเป็นผู้ผลิต ผู้ส่งออก กับผู้ซื้อหรือตัวแทนจำหน่ายจากต่างประเทศ รวมถึงการเข้าร่วมในช่องทางในการสื่อสารเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สินค้าของผู้ประกอบการไทยให้เป็นที่รู้จักในตลาดต่างประเทศ เช่น การจัดงานแสดงสินค้าในประเทศเป้าหมาย เป็นต้น

นายวีระพงศ์ กล่าวเสริมว่า “โครงการนี้ถือเป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างพันธมิตร ที่จะส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทย ผ่านการอำนวยความสะดวกด้านการส่งออก การรับบริการข้อมูลด้านการวิจัยพัฒนา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม การบริการทางการเงินและการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0”

ทั้งนี้ สสว. ได้ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรหลัก ได้แก่ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และหน่วยงานพันธมิตรเสริม ได้แก่ สถาบันอาหาร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) และหน่วยงานองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) จัดงาน “เปิดโลกการค้า เจรจาธุรกิจ พิชิตตลาดส่งออก” ในวันที่ 7 สิงหาคม 2563 เวลา 08.30-17.00 น. ณ ห้องแกรนด์บอลรูมชั้น 7 โรงแรม Sofitel Bangkok Sukhumvit กรุงเทพฯ โดยภายในงานประกอบด้วยการจับคู่ทางธุรกิจผ่านแอพพลิเคชั่นซูม (Zoom) หรือ Private Online B-2-B- Business Matching Event through Zoom ระหว่างผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยในธุรกิจอาหาร เครื่องดื่ม และเครื่องสำอาง จำนวน 50 บริษัท กับผู้ซื้อจากกลุ่มประเทศ CLMV จำนวน 26 บริษัท ในกลุ่ม ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trades) บริษัทที่ทำธุรกิจนำเข้าส่งออกสินค้าโดยไม่ได้มีฐานการผลิตสินค้าในประเทศตนเอง (Trading Firms) ตัวแทนจำหน่าย (Distributors) ผู้นำเข้า (Importers)

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4