การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจ สังคม และวิถีชีวิตของผู้คนทั่วโลก ผู้คนจำนวนมากหันมาช้อปปิ้งออนไลน์กันมากขึ้น จึงเป็นเสมือนแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการ SME เลือกที่จะเจาะตลาดธุรกิจอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทยด้วย
นางสาววรญา ดรงคมาศ รองประธานอาวุโส ฝ่ายอีคอมเมิร์ซ บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีนักช้อปรายใหม่หลายล้านรายเข้ามาเลือกซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มลาซาด้า ชี้ให้เห็นถึงโอกาสครั้งสำคัญ โดยเรามุ่งมั่นที่จะให้การสนับสนุน SME ไทยอย่างต่อเนื่อง เพราะกลุ่มผู้ประกอบการ SME ถือเป็นรากฐานและหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ที่การทำธุรกิจเป็นไปอย่างยากลำบาก อีคอมเมิร์ซจึงกลายเป็นช่องทางที่หลากหลายธุรกิจเข้ามาสร้างโอกาสใหม่ในการสร้างรายได้ และกระตุ้นยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
ลาซาด้าสนับสนุนและขับเคลื่อน SME ไทย ด้วยการพัฒนาเครื่องมือและบริการต่างๆ บนแพลตฟอร์มทั้ง เครื่องมือวิเคราะห์ธุรกิจขั้นสูง ที่จะช่วยให้ผู้ขายตัดสินใจทางธุรกิจได้ดีขึ้น, การเปิดตัวพาร์ทเนอร์โซลูชั่น (Partner Solutions) ซึ่งเป็นทีมงานสนับสนุนร้านค้าในการทำโฆษณาออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีเครื่องมือสปอนเซอร์ (Sponsored Solutions) ที่นำเสนอเครื่องมือทำการตลาดเพื่อให้ผู้ขายสามารถสร้างความตระหนักรู้ เพิ่มยอดขาย และเข้าถึงผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น
ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ นับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ขายในการกระตุ้นยอดขายและสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ซื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแคมเปญส่งท้ายปีที่เหล่านักช้อปต่างโปรดปราน อย่างแคมเปญ 9.9 ในปีที่ผ่านมามียอดคำสั่งซื้อสินค้าสูงกว่าช่วงเวลาปกติถึง 3.5 เท่า ในขณะที่ชั่วโมงแรกของแคมเปญ 11.11 ที่ผ่านมามีนักช้อปเข้ามาเลือกซื้อสินค้ากว่า 30 ล้านคน ผู้ขายจึงจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมเพื่อเพิ่มยอดขายในช่วงแคมเปญต่างๆ ของลาซาด้า ประกอบกับการใช้เครื่องมือทางการตลาดที่มีอย่างครบครันของลาซาด้าเป็นตัวช่วย
ทั้งนี้ ลาซาด้าได้ดำเนินโครงการมากมาย เพื่อช่วยเหลือและผลักดัน SME ไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมให้การสนับสนุนทั้งผู้บริโภคและสังคมไทย อาทิ SME Stimulus Package ช่วยเหลือผู้ขายรายใหม่กว่า 9 หมื่นราย และ O2O Promoters ช่วยเหลือพนักงานขายของแบรนด์ต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 นอกจากนี้ ลาซาด้ายังได้ร่วมมือกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อช่วยให้เกษตรกรไทยผู้ปลูกผลไม้ได้ขยายช่องทางการขายสู่แพลตฟอร์มลาซาด้า
ในด้านของผู้บริโภค ลาซาด้ามีนโยบายควบคุมราคาสำหรับผู้บริโภค เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าของใช้ในชีวิตประจำวันได้ในราคาที่เหมาะสม ด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ 'LazChoice’ นำเสนอสินค้าในราคาคุ้มค่า เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้กับคนไทย ทั้งยังได้สนับสนุนสังคมไทยผ่านการดำเนินโครงการ 'LazadaForGood ให้ทุกใจได้ทำดี’ และโครงการ 'COVID-19 Battle’ ในประเทศไทยอีกด้วย
ภายในงาน ยังได้ร่วมสนทนากับคุณสมชาย บริรักษ์เลิศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชียงใหม่เฟรชมิลค์ จำกัด ผู้ขายที่ปั้นรายได้สูงขึ้นกว่าช่วงก่อนโควิดถึง 1 แสนบาทต่อเดือน “ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ยอดขายหน้าร้านลดลงกว่า 40% เราจึงต้องเริ่มนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายบนลาซาด้า เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้แม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่ทุกคนต้องอยู่บ้าน โดยนับตั้งแต่เราได้เริ่มต้นธุรกิจกับลาซาด้าเพียงไม่กี่เดือน ทำให้ในปัจจุบันเรามีฐานลูกค้าถึง 52 จังหวัดทั่วไทย จากเดิมที่เรามีกลุ่มลูกค้าเพียงในพื้นที่ที่เรามีหน้าร้านออฟไลน์ ใน 3 จังหวัด เชียงใหม่ ลำพูน และกรุงเทพฯ ทั้งยังทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นในสินค้าของเรา และรู้จักหน้าร้านออฟไลน์ของเราเพิ่มมากขึ้นด้วยกว่า 20%” นอกจากนี้ยังมี คุณนัชชา ยงพิพัฒน์วงศ์ Marketing & PR Advisor of Momotara และ คุณภริตา หรั่งทอง เจ้าของร้าน Aoy mobike, ร่วมแชร์ประสบการณ์พลิกวิกฤตช่วงโควิดเป็นโอกาสสู่ความสำเร็จบนแพลตฟอร์มลาซาด้า
“ลาซาด้าพร้อมอยู่เคียงข้างคนไทยและสนับสนุนสังคมไทย โดยลาซาด้าเป็นเสมือนศูนย์กลางที่รวบรวมสินค้าครบวงจร และให้การสนับสนุนผู้ขายด้วยแพ็กเกจพิเศษที่ช่วยเพิ่มโอกาสทางการขาย ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าจำเป็นได้อย่างหลากหลายในราคาที่เหมาะสม นอกจากนี้ ลาซาด้ายังคงมุ่งมั่นและพร้อมให้การสนับสนุน SME ไทยอย่างต่อเนื่องและดีที่สุด เพื่อการเติบโตและความสำเร็จของ SME ไทยในอนาคต” นางสาววรญา กล่าวสรุป
เกี่ยวกับลาซาด้า (Lazada)
ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2012 ลาซาด้า กรุ๊ป เป็นผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ขับเคลื่อนและพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม ด้วยการนำเสนอธุรกิจการค้าและเทคโนโลยีอันทันสมัย พร้อมระบบโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่ง และเครือข่ายการชำระเงินที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ลาซาด้าได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคทั่วภูมิภาค พร้อมความมุ่งมั่นที่จะให้บริการเหล่านักช็อปออนไลน์กว่า 300 ล้านคนภายในปี 2030 ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา ลาซาด้าได้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่สำคัญของกลุ่มอาลีบาบาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้รับการขับเคลื่อนโดยโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีระดับโลก
