BEAUTY มองแนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลังเริ่มฟื้น ปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ “Business Re-engineering”

ศุกร์ ๑๔ สิงหาคม ๒๐๒๐ ๑๗:๐๑
BEAUTY มองแนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลังเริ่มฟื้น ปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ “Business Re-engineering” ปรับแนวทางบริหารจัดการ เพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจทั้งระบบ พร้อมควบคุมต้นทุนการผลิตและค่าใช้จ่ายในการบริหาร มุ่งเน้นขยายช่องทางจัดจำหน่าย อาทิ อีคอมเมิร์ซ และตัวแทนจำหน่ายขายส่งหัวเมืองใหญ่ ตลาดต่างประเทศสัญญาณดีออเดอร์ทยอยเข้า จับมือพันธมิตรจีนพัฒนาสินค้าใหม่ มาร์จิ้นสูง คาดการณ์รายได้ปีนี้มากกว่า 900 ล้านบาท เผยผลประกอบการไตรมาส2/63 รายได้ 128.93 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 61.36 ล้านบาท
BEAUTY มองแนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลังเริ่มฟื้น ปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ Business Re-engineering

นายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) (BEAUTY) ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง สุขภาพและบำรุงผิว เปิดเผยว่าแนวโน้มธุรกิจในครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป หลังสถานการณ์คลายล็อคดาวน์ บริษัทสามารถเปิดสาขาร้านค้าปลีกในห้างสรรพสินค้าได้ตามปกติ ประกอบกับการปรับกลยุทธ์ Business Re-engineering ปรับแนวทางบริหารจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจทั้งระบบ ควบคุมต้นทุนการผลิตและค่าใช้จ่ายในการบริหาร คาดว่าผลประกอบการจะกลับมาดีขึ้นภายในปลายปีนี้

แผนปรับกลยุทธ์ตลาดในประเทศ มุ่งเน้นขยายช่องทางการจำหน่ายที่มีการขยายตัวสูง อาทิ อีคอมเมิร์ซ ช่องทางสินค้าอุปโภค สินค้าประจำวัน (Consumer Product) กลุ่มสินค้า Fast Moving Consumer Goods ( FMCG ) เจาะกลุ่มผู้ค้าส่งเครื่องสำอางรายใหญ่ในจังหวัดหัวเมืองใหญ่( Local Distributor ) พร้อมทั้งขยายช่องทางการจำหน่ายออนไลน์ที่หลากหลาย เพิ่มความสามารถการนำเสนอสินค้าควบคู่กัน โดยสามารถซื้อขายผ่านเว็บไซต์ของบริษัท อีคอมเมิร์ซและระบบแพลตฟอร์มการค้าออนไลน์ชั้นนำต่างๆ

พัฒนาโมเดลการขายใหม่ อาทิ “บิวตี้ออนไลน์ช็อป” ลูกค้าที่เคยใช้บริการที่สาขาให้สามารถสั่งซื้อผ่านออนไลน์ได้ทันที ทุกสาขาจะมีช่องทางการสั่งซื้อสินค้าทั้งหน้าร้านสาขา(Offline Store) และผ่านระบบออนไลน์ได้ทั้ง 2 รูปแบบ รวมทั้งสร้างโมเดลธุรกิจที่หลากหลายร่วมกับพันธมิตรที่เป็นแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการขาย จากการปรับกลยุทธ์ดังกล่าวคาดว่าช่องทางจำหน่ายออนไลน์จะมียอดขายเพิ่มขึ้น 50% ในปีนี้

ช่องทางร้านค้าปลีก (Retails) บริษัทได้ปรับโครงสร้างองค์กรให้มีความคล่องตัว เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และลดภาระค่าใช้จ่ายในอนาคต โดยปิดสาขาที่ไม่มีศักยภาพในการเติบโต เพิ่มช่องทางการขายออนไลน์เข้ามาทดแทน เพื่อการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ในวงกว้าง และไม่มีข้อจำกัด ซึ่งบริษัทเชื่อว่านโยบายดังกล่าว จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว และเพิ่มความสามารถในการทำกำไรของบริษัทในอนาคต

สำหรับธุรกิจภาคการส่งออก ประเทศจีนปัจจุบันเริ่มมีคำสั่งซื้อเข้ามาแล้วหลังจากเปิดเมือง แต่อยู่ในระดับเพียง 50% ของยอดขายปกติ คาดว่าภายในไตรมาส 4/63 จะเริ่มเห็นยอดขายและกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น ทั้งในประเทศจีนและประเทศในการปกครองเช่น ฮ่องกง อย่างไรก็ตามบริษัทมีการปรับแผนออกสินค้าใหม่ที่มีกำไรดีมาชดเชยยอดขายที่ลดลง และร่วมมือกับตัวแทนจำหน่ายในประเทศจีนพัฒนาสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดในไตรมาส 3 เรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้บริษัทยังโฟกัสช่องทางจำหน่ายกลุ่มประเทศคลายล็อคดาวน์ กลุ่มประเทศในเขต (South East Asia) อาทิ กัมพูชา เวียดนาม พม่า และมาเลเซีย แม้จะมีคำสั่งซื้อบ้างแต่ยังติดเรื่องระบบการขนส่ง การปิดด่านผ่านทาง คาดว่าจะส่งผลกระทบในระยะสั้น เพราะสินค้าไทยและสินค้า BEAUTY ยังคงมีความต้องการหลังสถานการณ์คลี่คลาย ซึ่งบริษัทมีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับตัวแทนจำหน่าย สนับสนุนด้านการตลาดและสินค้าเพื่อปรับกลยุทธ์ธุรกิจตามสถานการณ์ที่ปรับเปลี่ยนต่อเนื่อง

“ธุรกิจ BEAUTY ยังมีโอกาสในการเติบโตจากการปรับกลยุทธ์ดังกล่าว และการสร้างช่องทางจำหน่ายใหม่ๆ การได้รับคำสั่งซื้อสินค้าจากตัวแทนจำหน่ายประเทศจีนและประเทศอื่นๆอย่างต่อเนื่องเป็นสัญญาณที่ดี สินค้า BEAUTY ยังคงได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภคจีนและประเทศเขตเอเซีย อย่างไรก็ตามสถานการณ์ดังกล่าวยังคงส่งผลกระทบต่อผลประกอบการไตรมาส 2-3 ต่อเนื่อง คาดว่ายอดขายและกำลังซื้อจะฟื้นตัวในปลายไตรมาส 3 เป็นต้นไป โดยคาดการณ์รายได้ทั้งปีนี้จะอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 900 ล้านบาท และรักษาอัตรากำไรขั้นต้นมากว่า 50 % ” นายแพทย์สุวิน กล่าว

สำหรับผลประกอบการงวดไตรมาส 2 มีรายได้รวม 128.93 ล้านบาท ลดลง 52.30% จากไตรมาสก่อนที่มีรายได้รวม 270.32 ล้านบาท และมีขาดทุนสุทธิ 61.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.63% จากไตรมาสก่อนที่มีขาดทุนสุทธิ 39.68 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2563 บริษัทมีรายได้รวม 399.25 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,080.34 ล้านบาท ลดลง 63.04% และมีขาดทุนสุทธิ 101.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 186.86% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 116.32 ล้านบาท อย่างไรก็ตามจากการที่บริษัทดำเนินการลดค่าใช้จ่ายทำให้ค่าใช้จ่ายภาพรวมของบริษัท ( SG&A )ในไตรมาส 2 เท่ากับ 137.58 ล้านบาทลดลง 47.57% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 262.37 ล้านบาท หรือลดลง 26.66% จากไตรมาส 1ปีเดียวกัน เท่ากับ 187.58 ล้านบาท

ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวลดลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เริ่มระบาดในประเทศจีน ส่งผลต่อยอดขายต่างประเทศอย่างมีนัยยะ รวมถึงการประกาศมาตรการปิดห้างสรรพสินค้าและปิดประเทศ (Lockdown)ในช่วงปลายไตรมาส1-2 (มี.ค.-พ.ค. 63)ทำให้บริษัทต้องปิดร้านค้าปลีกชั่วคราวเกือบ 300 สาขาทั่วประเทศ คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 95% ของจำนวนสาขาทั้งหมด ประกอบกับกำลังซื้อผู้บริโภคที่อ่อนตัวลง การชะลอตัวเศรษฐกิจ จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง การจับจ่ายชะลอตัว นอกจากนี้บริษัทเล็งเห็นผลกระทบในระยะยาวจึงมีมาตรการลดความเสี่ยงในอนาคต โดยในไตรมาส 1 และต่อเนื่องมาไตรมาส 2 ปี 2563 บริษัทได้ดำเนินกลยุทธ์หลายแนวทางเพื่อปรับโครงสร้างองค์กรให้มีความคล่องตัว เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และลดภาระค่าใช้จ่ายในอนาคต ส่งผลให้เกิดค่าใช้จ่ายที่ไม่เกิดขึ้นเป็นประจำ (Non-routine expenses) ในไตรมาส 2 จำนวน 32.03 ล้านบาท โดยค่าใช้จ่ายดังกล่าวเป็นค่าใช้จ่ายตามแนวทางการปิดสาขาที่ไม่มีศักยภาพในการเติบโต และได้รับผลกระทบจากนโยบายปิดศูนย์การค้าต่างๆ ตามประกาศของรัฐบาลจากสถานการณ์โควิด-19

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก การชะลอตัวของเศษฐกิจทำให้สิ่งแวดล้อมทางธุรกิจและพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากส่งผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัท อย่างไรก็ตามบริษัทมีการปรับกลยุทธ์และแผนธุรกิจตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปและประกอบกับบริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง กระแสเงินสดมีสภาพคล่อง ซึ่งทำให้บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถพัฒนาธุรกิจให้มีความแข็งแรงเพิ่มขึ้นและผ่านพ้นวิกฤตไปได้

BEAUTY มองแนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลังเริ่มฟื้น ปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ Business Re-engineering

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑ เม.ย. อ.อ.ป. ร่วม พิธีสรงน้ำพระ ขอพร เนื่องในวันสงกรานต์ประจำปี 2567 ทส.
๑๑ เม.ย. 1 จาก 1,159 ศูนย์การค้า เดอะ พาลาเดียม เวิลด์ ช้อปปิ้ง ส่งมอบลอตเตอรี่ที่ไม่ถูกรางวัล จำนวน 125,500 ใบ ให้กับศูนย์สาธารณสงเคราะห์เด็กพิเศษ วัดห้วยหมู
๑๑ เม.ย. JPARK ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผถห. อนุมัติปันผล 0.0375 บาทต่อหุ้น
๑๑ เม.ย. สเก็ตเชอร์ส สนับสนุนเทคโนโลยีเพื่อความสบายแก่บุคลากรทางการแพทย์ บริจาครองเท้ารุ่น GOwalk 7(TM) สำหรับบุคลากรทางการแพทย์
๑๑ เม.ย. ศูนย์คนหายไทยพีบีเอส ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ทำงานเชิงป้องกัน เก็บก่อนหาย ในผู้สูงอายุ
๑๑ เม.ย. จุฬาฯ อันดับ 1 ของไทย การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดย QS WUR by Subject 2024
๑๑ เม.ย. ครั้งแรกในไทย 'Pet Us' เนรมิตพื้นที่จัดกิจกรรม มะหมามาหาสงกรานต์ ชวนน้องหมาทั่วทั้ง 4 ภาคร่วมสนุกในช่วงสงกรานต์ 13-14 เมษายน ตอกย้ำความสำเร็จฉลอง 'Pet Us' ครบ 3
๑๑ เม.ย. LINE STICKER OCHI MOVE จาก OCEAN LIFE ไทยสมุทร คว้ารางวัลชนะเลิศ Best Sponsored Stickers in Insurance ในงาน LINE THAILAND AWARDS
๑๑ เม.ย. วว. ผนึกกำลังหน่วยงานเครือข่าย พัฒนาเชื่อมโยงการค้า ตลาด วิจัย เทคโนโลยี นวัตกรรม สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
๑๑ เม.ย. บริษัท เค วัน วัน ดี จำกัด ถือฤกษ์ดีจัดพิธีบวงสรวง ซีรี่ส์ Girl's Love เรื่องใหม่ Unlock Your Love : รักได้ไหม ?