Bluebik แนะธุรกิจใช้ “Agile” เพิ่มประสิทธิภาพการตลาดยุคโควิด-19 สร้างความได้เปรียบด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ได้รวดเร็ว ตรงจุด ทันความต้องการผู้บริโภค

อังคาร ๒๕ สิงหาคม ๒๐๒๐ ๐๙:๕๘
บลูบิค (Bluebik) แนะนำหลักการ Agile มาปรับใช้กับการทำการตลาดให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการได้รวดเร็วขึ้นกว่าการทำตลาดแบบเดิมด้วยการสร้างแคมเปญการตลาดขนาดเล็ก หรือประเมินความต้องการของลูกค้าแบบเรียลไทม์จากข้อมูลที่ทำการเก็บอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการทำการตลาดแบบ Agile จะช่วยสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นและนำเสนอสินค้าได้ทันความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น พร้อมแนะ 4 สเต็ปประยุกต์ใช้ Agile กับการทำการตลาดให้ประสบความสำเร็จในยุคโควิด-19 ระบาด ได้แก่ วางกรอบและแนวทางการทำงานให้ชัดเจน ซึ่งตั้งอยู่บนความเข้าใจเดียวกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง สร้างทีม Agile เฉพาะกิจ เริ่มจากแคมเปญการตลาดขนาดเล็ก และ หมั่นวัดและประเมินผลเพื่อค้นหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ
Bluebik แนะธุรกิจใช้ Agile เพิ่มประสิทธิภาพการตลาดยุคโควิด-19 สร้างความได้เปรียบด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ได้รวดเร็ว ตรงจุด ทันความต้องการผู้บริโภค

นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำด้านกลยุทธ์และการจัดการด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี เปิดเผยว่า หากธุรกิจต้องการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและนำเสนอสินค้าบริการให้ตรงใจ นักการตลาดยุคใหม่ควรต้องปรับกลยุทธ์การตลาดให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคหลังวิกฤตโควิด-19 ที่เปลี่ยนไปทั้งด้านอุปนิสัยและพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวไทย โดยนำหลักการ Agile มาปรับใช้ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและเสริมประสิทธิภาพในการทำการตลาดในวันที่ไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไป

Agile คือกระบวนการที่จะช่วยให้การทำงานรวดเร็วขึ้น เน้นสื่อสารระหว่างบุคคลเพื่อความเข้าใจกัน โดยมีการกระจายอำนาจการตัดสินใจ และเปลี่ยนวิธีการทำงานจากที่กำหนดเป้าหมายระยะยาวแบบมุ่งไปครั้งเดียว เป็นระยะสั้นๆ หรือที่เรียกว่า สปรินท์ (Sprint) เพื่อให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจ ซึ่งเกิดขึ้นได้ทุกวัน และแก้ไขปัญหาข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดการคิดริเริ่มสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ จากการระดมสมองอย่างไม่มีขีดจำกัด ส่งผลให้สินค้าและบริการได้รับการพิจารณาและปรับปรุงจากทุกฝ่ายพร้อมกัน มีระบบความคิดที่รอบคอบ สามารถดึงจุดแข็งของธุรกิจดั้งเดิมออกมาตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค แบบไร้ข้อผิดพลาดหรือมีข้อผิดพลาดน้อยที่สุด ที่สำคัญที่สุดคือ การร่วมงานอย่างใกล้ชิดและการสื่อสารที่ชัดเจน

“Agile ในบริบทของการทำการตลาดเป็นการสร้างแคมเปญการตลาดที่คล่องตัว สามารถปรับเปลี่ยนและนำเสนอผลิตภัณฑ์ได้อย่างรวดเร็ว จากการใช้ข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อพัฒนากลยุทธ์การตลาดตามความต้องการของผู้บริโภค โดยยิ่งธุรกิจออกแคมเปญการตลาดเร็วขึ้นเท่าไร จะได้รับผลตอบรับจากผู้บริโภคเร็วขึ้นเท่านั้น และสามารถนำผลตอบรับดังกล่าวมาปรับปรุงให้แคมเปญใหม่ตรงใจลูกค้ามากขึ้น และออกแคมเปญได้ในเวลาที่เหมาะสมทันต่อเหตุการณ์ ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ หรือหาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้แบบเรียลไทม์” นายพชร กล่าว

ทั้งนี้ การทำการตลาดแบบ Agile เป็นแนวทางที่หลายองค์กรในต่างประเทศนำไปใช้จริง จากรายงานการสำรวจองค์กรธุรกิจชั้นนำชื่อ State of Agile จาก Digital.ai บริษัทให้บริการโซลูชั่นการบริหารจัดการองค์กรในประเทศสหรัฐอเมริกาได้ทำการสอบถามความเห็นจากผู้บริหารและที่ปรึกษาธุรกิจจากหลายภาคอุตสาหกรรมมากกว่า 1,000 รายทั่วโลกเมื่อปี พ.ศ. 2562 พบว่า โดย 60% ขององค์กรที่นำหลักการ Agile มาปรับใช้ ระบุว่าช่วยให้ออกแคมเปญการตลาดได้รวดเร็วขึ้นกว่าการตลาดแบบเดิม และ 26% เปิดเผยว่าช่วยลดต้นทุนการทำแคมเปญลงด้วยเช่นกัน

นายพชร ยังระบุถึงขั้นตอนเบื้องต้นที่องค์กรธุรกิจสามารถนำหลักการ Agile ไปประยุกต์ใช้กับการทำการตลาดเพื่อเพิ่มความคล่องตัวและเสริมประสิทธิภาพในการทำการตลาดในยุคการแพร่กระจายของโควิด-19 ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ดังนี้

วางกรอบเป้าหมาย ซึ่งนับเป็นขั้นตอนลำดับแรก โดยตั้งอยู่บนความเข้าใจเดียวกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องประกอบด้วยการตั้งเป้าหมายและวางแนวทางการทำงานเบื้องต้น ทั้งการสร้างทีมงาน วิธีการทำงานของนักการตลาดหรือแนวทางการสร้างแคมเปญ เพื่อนำไปสู่การกำหนดรูปแบบการทำการตลาด และการนำแนวคิดไปปฏิบัติจริงสร้างทีม Agile Marketing เฉพาะกิจ ซึ่งมีความแตกต่างจากทีมงานอื่นๆ ภายในองค์กร โดยประกอบด้วยสมาชิกจำนวนไม่มากประมาณ 8 คน ที่มาจากหลายสายงานและมีทักษะแตกต่างกัน เพื่อช่วยให้การตัดสินใจต่างๆ และการทำงานประสานงานกันรวดเร็วและคล่องตัว โดยหน้าที่หลักของทีมคือการสร้าง ทดลองแคมเปญการตลาดใหม่ๆ และนำแคมเปญที่ประสบความสำเร็จไปต่อยอดปรับใช้แคมเปญอื่นๆ ในอนาคต โดยอ้างอิงตามข้อมูลผลลัพธ์จากแคมเปญก่อนหน้าเริ่มทำการตลาดจากแคมเปญเล็กๆ จะช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนแนวทางที่เหมาะสมได้ทันการณ์หากมีแนวโน้มยังไม่บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย อีกทั้งการทำแคมเปญเล็กจะใช้งบประมาณที่ไม่มากนัก และควรมีระยะเวลาการทำแคมเปญไม่เกิน 2 สัปดาห์แต่ต้องทำอย่างต่อเนื่องในระยะยาว โดยเบื้องต้นธุรกิจสามารถเริ่มจากการเลือกทำการตลาดกับลูกค้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเพื่อเป็นการทดลองก่อนวัดและประเมินผล โดยอ้างอิงจากข้อมูลผลลัพธ์ต่างๆ ที่เก็บรวบรวมได้ในการทำแคมเปญ ซึ่งจะทำให้ธุรกิจรู้ว่าแคมเปญแบบไหนเหมาะสมที่สุดและได้ผลลัพธ์ดีที่สุด เพื่อนำไปพัฒนาแคมเปญในอนาคตให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การวัดและประเมินผลแคมเปญยังช่วยค้นหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อสร้างการขยายตัวให้องค์กรต่อไป

ขณะเดียวกัน นายพชรยังแนะเคล็ดลับในการทำการตลาดแบบ Agile ให้ประสบความสำเร็จเพิ่มเติม โดยธุรกิจจำเป็นต้องคำนึงถึงหลักการ 3 ข้อ อาทิ การเรียนรู้สิ่งใหม่จากการทดลองทำจริง ซึ่งเป็นการนำความคิดต่างๆ ไปลองปฏิบัติจริง โดยไม่ต้องรอให้ความคิดดังกล่าวสมบูรณ์แบบ จากนั้น ประเมินผลลัพธ์จากข้อมูลที่ได้ และนำสิ่งที่เรียนรู้ไปใช้พัฒนาแคมเปญในอนาคต นอกจากนี้ องค์กรยังควรเพิ่มการประสานงานและแบ่งปันข้อมูลระหว่างหลายฝ่าย ทั้งระหว่างฝ่ายประชาสัมพันธ์ ฝ่ายปฏิบัติการ และฝ่ายขาย เพื่อให้ฝ่ายการตลาดได้เข้าถึงข้อมูลพฤติกรรมลูกค้าที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งจะช่วยให้สามารถออกแบบแคมเปญการตลาดได้ตรงกับความต้องการของลูกค้ายิ่งขึ้น ขณะที่หลักการสุดท้าย คือการให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ที่กำลังเกิดขึ้นมากกว่าคาดการณ์ ซึ่งเน้นที่การเข้าใจปัญหาและความต้องการที่เกิดขึ้นจริงของลูกค้า หลังจากนั้นนำปัญหาดังกล่าวมาคิดแคมเปญที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ แทนการทำแคมเปญโดยยึดตามคาดการณ์ล่วงหน้าที่อาจล่าช้าเกินไปและไม่ทันกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป

“หากธุรกิจต้องการอยู่รอดและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในโลกที่พฤติกรรมผู้บริโภคและปัจจัยแวดล้อมทางธุรกิจเปลี่ยนไว การเปลี่ยนแนวทางทำการตลาดแบบเดิม มาเป็นการทำการตลาดแบบ Agile ซึ่งมีความคล่องตัว จะช่วยให้องค์กรพร้อมรับมือเทรนด์ผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว และสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่งในตลาด” นายพชร กล่าวทิ้งท้าย

Bluebik แนะธุรกิจใช้ Agile เพิ่มประสิทธิภาพการตลาดยุคโควิด-19 สร้างความได้เปรียบด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ได้รวดเร็ว ตรงจุด ทันความต้องการผู้บริโภค

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๑๑ เปิดโพล! สงกรานต์ คนไทยยังอยาก รวย อวย Soft Power เสื้อลายดอก-กางเกงช้าง ต้องใส่สาดน้ำ
๑๖:๓๖ ฮีทสโตรก : ภัยหน้าร้อน อันตรายถึงชีวิต
๑๖:๐๐ STX เคาะราคา IPO 3.00 บาท/หุ้น เปิดจองซื้อ 18,19 และ 22 เม.ย. นี้ ปักธงเทรด mai 26 เมษายน 67
๑๗ เม.ย. ถอดบทสัมภาษณ์คุณอเล็กซานเดอร์ ฟาบิก (Alexander Fabig) และคุณปีเตอร์ โรห์เวอร์ (Peter Rohwer) ผู้เชี่ยวชาญ
๑๗ เม.ย. HIS MSC จัดงานสัมมนา The SuperApp ERP for Hotel
๑๗ เม.ย. ที่สุดแห่งปี! ครบรอบ 20 ปี TDEX (Thailand Dive Expo) มหกรรมธุรกิจท่องเที่ยวดำน้ำระดับเอเชีย งานเดียวที่นักดำน้ำรอคอย
๑๗ เม.ย. เคทีซีเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 19.99% ต่อปี แบ่งเบาภาระสมาชิกใหม่บัตรกดเงินสด เคทีซี พราว
๑๗ เม.ย. ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่ง CHAO เตรียมเสนอขาย IPO ไม่เกิน 87.7 ล้านหุ้น ระดมทุนเข้าจดทะเบียนใน SET
๑๗ เม.ย. แอร์เอเชีย บิน สุวรรณภูมิ-หาดใหญ่ เริ่มต้น 1,000 บาทต่อเที่ยว* เสริมทัพหาดใหญ่ บินเลือกได้ทั้งดอนเมืองและสุวรรณภูมิ!
๑๗ เม.ย. YONG จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นปี 2567 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ อนุมัติจ่ายเงินปันผล ในอัตรา 0.08 บาท/หุ้น