บีเอเอสเอฟมุ่งมั่นเพื่อเป้าหมายที่จะส่งเสริมให้เกิดเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน

พุธ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๐๒๐ ๑๖:๒๕
  • การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ลดลง 30% ของผลผลิตต่อตัน
  • ผลประกอบการประจำปีที่เพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืนในแต่ละผลิตภัณฑ์ที่ 7% ต่อปี
  • นำดิจิทัลเทคโนโลยีมาสู่พื้นที่เพาะปลูกทั่วโลกมากกว่า 400 ล้านเฮกตาร์ หรือ ราว 2,500 ล้านไร่
  • มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ของบีเอเอสเอฟนำมาใช้งานตามหลักความปลอดภัยที่ถูกต้อง
บีเอเอสเอฟมุ่งมั่นเพื่อเป้าหมายที่จะส่งเสริมให้เกิดเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน

บีเอเอสเอฟ ยึดมั่นในเป้าหมายที่ชัดเจนและสามารถวัดผลได้ เพื่อส่งเสริมให้เกิดเกษตรกรรมอย่างยั่งยืนภายในปี 2573 โดยมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายหลักที่จะช่วยให้เกษตรกรรมมีความยั่งยืนมากขึ้น และสนับสนุนความต้องการที่เร่งด่วนของสังคม บีเอเอสเอฟจะช่วยเกษตรกรบรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 30% ต่อตันของปริมาณผลผลิต ธุรกิจอารักขาพืชของบีเอเอสเอฟ จะมีผลประกอบการประจำปีที่เพิ่มขึ้นจากผลงานด้านความยั่งยืนที่สำคัญในห่วงโซ่ธุรกิจถึง 7% นอกจากนี้ บีเอเอสเอฟจะนำดิจิทัลเทคโนโลยีมาสู่พื้นที่เพาะปลูกมากกว่า 400 ล้านเฮกตาร์ หรือ ราว 2,500 ล้านไร่ และจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ของบีเอเอสเอฟถูกนำมาใช้งานตามหลักความปลอดภัยที่ถูกต้อง คำมั่นสัญญาใหม่นี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับการดำเนินตามกลยุทธ์ของบีเอเอสเอฟในด้านการเกษตรที่เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2562

"เกษตรกรรมคือพื้นฐานสำคัญที่จะนำไปสู่การดำเนินชีวิตด้วยสุขภาวะที่ดีของทุกคนบนโลก ในทศวรรษอันใกล้ ความมั่นคงทางอาหารของเราจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเพื่อให้สามารถเข้าถึงอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และราคาที่สามารถจับต้องได้อย่างเพียงพอสำหรับประชากรในโลกที่เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน เราจำเป็นต้องลดผลกระทบที่มีต่อโลก การเปลี่ยนแปลงนี้ถูกขับเคลื่อนเพื่อให้มีผลผลิตที่ดีขึ้น - ผลผลิตที่เกิดจากรูปแบบที่ได้รับการยอมรับว่ามีประโยชน์ต่อสังคม ซึ่งดีต่อโลกใบนี้และช่วยให้เกษตรกรมีรายได้" วินเซนต์ กลอส ประธานบริหารธุรกิจอารักขาพืช ของบีเอเอสเอฟ กล่าว "ด้วยเป้าหมายที่เชื่อมโยงกัน เราสนับสนุนเกษตรกรทั่วโลกเพื่อทำงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ในการร่วมกันสร้างผลลัพธ์ในเชิงบวกต่อระบบอาหารจากเกษตรกรรม"

เกษตรกรรมที่เท่าทันภูมิอากาศ
บีเอเอสเอฟ จะสนับสนุนเกษตรกรให้มีการใช้คาร์บอนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีความยืดหยุ่นต่อสภาพอากาศที่ผันผวนด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มผลผลิต ช่วยให้การทำการเกษตรมีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งรวมไปถึง :
- ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยบริหารจัดการไนโตรเจน เช่น Vibelsol(R) และ Vizura(R) ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
- ผลิตภัณฑ์อารักขาพืช ในส่วนสารกำจัดวัชพืช Kixor(R) ที่ช่วยให้เกษตรกรปลูกพืชโดยไม่ต้องไถพรวน ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากดิน และลดการใช้น้ำมันดีเซล
- พืชสายพันธุ์ใหม่ อย่างเช่น InVigor(R) ที่ช่วยให้เมล็ดพันธุ์คาโนลา เพิ่มผลผลิตได้อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติบโตภายใต้สภาพอากาศที่ผันผวนมากขึ้น
- หัวเชื้อจุลินทรีย์ และดิจิทัลโซลูชั่นส์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่

ในขณะเดียวกัน บีเอเอสเอฟกำลังคิดค้นแนวทางที่จะกระตุ้นประสิทธิภาพของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และสร้างแนวทางใหม่ๆ ให้กับเกษตรกร ด้วยผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นส์เหล่านี้ บีเอเอสเอฟจะช่วยลดการปล่อยก๊าซก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 30% ต่อตันของผลผลิต

วิธีการที่ยั่งยืน
เป้าหมายของบีเอเอสเอฟ คือการเพิ่มโซลูชั่นส์ที่ยั่งยืนให้กับเกษตรกรทุกๆ ปี จึงทำให้ บีเอเอสเอฟลงทุนอย่างต่อเนื่องตามแนวทางการดำเนินงานด้านนวัตกรรมในส่วนงานวิจัยและพัฒนาอย่างเป็นระบบโดยเกณฑ์การดำเนินงานอย่างยั่งยืน แนวทางการดำเนินงานด้านนวัตกรรมในส่วนงานวิจัยและพัฒนาของบีเอเอสเอฟ ประกอบด้วยโซลูชันส์ที่สนับสนุนการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม อันได้แก่ :
- โซลูชั่นส์ที่มีมี Revysol(R) เป็นองค์ประกอบหลักสำหรับสารป้องกันกำจัดโรคพืช ที่ยังสามารถช่วยเพิ่มผลผลิตข้าวสาลีได้ถึง 4% บนพื้นที่เพาะปลูกเดิม และยังช่วยให้เกษตรกรสามารถปกป้องที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติได้
- ตั้งเป้าหมายในการใช้โซลูชั่นส์ทางชีวภาพ (BioSolution) เช่น ฟีโรโมน RAK(R) ซึ่งรบกวนการผสมพันธุ์ของแมลงเม่าบางชนิด ปกป้องพืชตลอดทั้งวงจรชีวิตในฐานะผู้ดูแลธรรมชาติที่เสริมการอารักขาพืชแบบเดิม
- นวัตกรรมการปรับปรุงพันธุ์เช่น แตงโมจิ๋ว Pingo Doce(R) ที่ช่วยให้ผู้บริโภคหลีกเลี่ยงขยะจากอาหารได้ดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้ บีเอเอสเอฟนำกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งหมดมาเทียบกับเกณฑ์ที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน และผ่านข้อกำหนดตามความยั่งยืนโดยหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน (Sustainable Solution Steering) หน่วยงานธุรกิจอารักขาพืชของบีเอเอสเอฟจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสนับสนุนเป้าหมายของกลุ่มบริษัทบีเอเอสเอฟ ที่ตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 22 พันล้านยูโร ภายในปี 2568 ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เป็นตัวเร่ง (Accelerator Products) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยสนับสนุนความยั่งยืนในตลอดห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) หน่วยงานอารักขาพืช มีเป้าหมายที่จะเพิ่มส่วนแบ่งการขายของโซลูชั่นส์ทุกปี ด้วยการสนับสนุนด้านความยั่งยืนที่ 7%

ฟาร์มดิจิทัล
ดิจิทัลไลเซชั่นสามารถช่วยให้ภาคการเกษตร ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และยั่งยืน ด้วยเหตุนี้ บีเอเอสเอฟจะช่วยเกษตรกรด้วยเครื่องมือทางดิจิทัลในการเติบโตทางธุรกิจอย่างมีกำไร ในขณะที่ลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลช่วยให้เกษตรกรมีผลผลิตมากขึ้นด้วยต้นทุนที่น้อยลง เพื่อให้กระบวนการทำการเกษตรมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตั้งแต่การดูแลพื้นที่เพาะปลูกไปจนถึงกระบวนการทั้งหมดในการผลิตและจัดจำหน่ายอาหาร (food supply chain) ผลิตภัณฑ์ดิจิทัล ในนาม xarvio(TM) ของบีเอเอสเอฟ ช่วยให้มีการใช้ผลิตภัณฑ์อารักขาพืชอย่างเหมาะสม การเติมสารอาหารในพืชและดิน การคำนวนพื้นที่เพาะปลูกอย่างเหมาะสม (automated buffer zones) และการเฝ้าติดตามความหลากหลายทางชีวภาพ อาทิ ประชากรแมลงที่เป็นศัตรูพืชและเป็นประโยชน์ต่อพืช เครื่องมือดิจิทัลยังมีความสามารถในการเข้าถึงเกษตรกรจำนวนมากรวมถึงในประเทศที่มีการพัฒนาน้อย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความรู้และสร้างความตระหนักถึงความยั่งยืนในเกษตรกรรม บีเอเอสเอฟตั้งเป้าหมายที่จะนำดิจิทัลเทคโนโลยีไปสู่พื้นที่เพาะปลูกมากกว่า 400 ล้านเฮกตาร์ หรือราว 2,500 ล้านไร่ ภายในปี 2573

การดูแลผลิตภัณฑ์แบบครบวงจร
บีเอเอสเอฟให้ความสำคัญกับความปลอดภัยต่อสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก โดยนำเสนอการดูแลผลิตภัณฑ์ทุกชนิดอย่างถูกต้อง เพื่อให้แน่ใจว่าการใช้ผลิตภัณฑ์อย่างถูกต้องและปลอดภัยในพื้นที่เกษตรกรรม บีเอเอสเอฟสร้างการเข้าถึงของเครื่องมือเกี่ยวกับดูแลผลิตภัณฑ์และการบริการที่ปรับให้เหมาะสมกับการทำงานประจำวันของเกษตรกรทุกคน สิ่งเหล่านี้รวมถึงอุปกรณ์ป้องกันตนเอง การฝึกอบรมที่ปรับให้เหมาะสม ดิจิทัลโซลูชั่นส์ และเทคโนโลยี แอพพลิเคชั่นใหม่ เช่น โดรน ที่ช่วยลดเวลาในการทำงานและลดการสัมผัสสารอารักขาพืชที่อาจเกิดขึ้น การริเริ่มใช้โดรนได้เปิดตัวแล้วในประเทศจีนและโคลอมเบีย อีกตัวอย่างหนึ่งของความพยายามอย่างต่อเนื่องของบีเอเอสเฟในการทำให้การดูแลผลิตภัณฑ์อารักขาพืชง่ายขึ้นและปลอดภัยขึ้นคือ ระบบการถ่ายโอนแบบปิด easyconnect ซึ่งได้รับการพัฒนาร่วมกับพันธมิตรและได้รับการสนับสนุนจากผู้มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมการเกษตร โดยคาดว่าจะเปิดตัวในตลาดครั้งแรกในปี 2564/2565
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมโปรดไปที่ เว็ปไซด์ความยั่งยืน

รับข่าวสารล่าสุดจากบีเอเอสเอฟผ่านการแจ้งเตือนบนสมาร์ทโฟนของคุณ ลงทะเบียนเพื่อรับบริการข่าวสารของเราได้ที่ basf.com/pushnews.

เกี่ยวกับแผนกอารักขาพืช ของบีเอเอสเอฟ

เนื่องจากประชากรโลกมีจำนวนเพิ่มขึ้น โลกจึงต้องใช้ความสามารถในการพัฒนาและสร้างเกษตรกรรมที่ยั่งยืนและสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น เรามีภารกิจในการทำงานร่วมกับเกษตรกร ผู้ทำงานด้านเกษตรกรรม ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการแมลงและบุคลากรอื่นๆเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ข้างต้น นี่เป็นเหตุผลที่เราลงทุนอย่างมากในด้านการวิจัยและการพัฒนาและขยายสายงานอย่างกว้างขวางซึ่งรวมถึงการพัฒนาเมล็ดและคุณสมบัติสายพันธุ์ การใช้เทคโนโลยีเคมีและชีวภาพเพื่อปกป้องพืช การจัดการดิน ความแข็งแรงของพืช การควบคุมสัตว์ที่เป็นศัตรูพืชและการเกษตรดิจิทัล ทีมผู้เชี่ยวชาญของเราในห้องแลป พื้นที่เพาะปลูก สำนักงาน และสายงานการผลิตเชื่อมโยงแนวคิดใหม่เข้ากับการปฏิบัติเพื่อสร้างแนวคิดที่นำมาใช้ได้จริง สำหรับเกษตรกร, ชุมชนและโลก ในปี 2019 แผนกธุรกิจของเรามียอดขายจำนวน 7.8 พันล้านยูโร สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.agriculture.basf.com หรือช่องทางโซเชียลมีเดียของเรา

เกี่ยวกับบีเอเอสเอฟ

สำหรับบีเอเอสเอฟ เราสร้างเคมีเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน เราผสานความสำเร็จทางเศรษฐกิจ ร่วมกับการปกป้องรักษาสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม โดยพนักงานจำนวนกว่า 117,000 คนของกลุ่มบริษัทบีเอเอสเอฟทุ่มเททำงานเพื่อความสำเร็จของลูกค้าในแทบทุกอุตสาหกรรมและเกือบทุกประเทศทั่วโลก กลุ่มธุรกิจของ บีเอเอสเอฟประกอบไปด้วย 6 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเคมีภัณฑ์ กลุ่มแมททีเรียล กลุ่มอินดัสเทรียลโซลูชั่นส์ กลุ่มเทคโนโลยีพื้นผิววัสดุ กลุ่มเคมีเพื่อสุขภาพและโภชนาการ และกลุ่มโซลูชั่นส์การเกษตร บีเอเอสเอฟมียอดขายมากกว่า 59 พันล้านยูโรในปี 2019 หุ้นของบีเอเอสเอฟได้มีการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่แฟรงก์เฟิร์ต (BAS) และ American Depositary Receipts (BASFY) ในสหรัฐอเมริกา ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบีเอเอสเอฟได้ที่เว็บไซต์ www.basf.com

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4