ปัจจัยสำคัญด้านพื้นฐาน —ราคาทองคำแท่งที่เริ่มขยับขึ้นในตลาดโลก หลังดอลลาร์อ่อนค่าลงมาบ้างแล้ว แม้อาจเผชิญกับแรงต้านของค่าเงินบาทที่ยังมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นจากเงินทุนที่ไหลเข้าตลาดหุ้น
กรอบการเคลื่อนไหวเชิงเทคนิคราคาทองคำแท่ง (Gold SPOT)
Source: Reuters Daily
Source: Reuters 30 Min
ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะสั้น — Directional index บ่งบอกถึงทิศทางลง, กราฟ MACD 30 นาทีอยู่ในแดนลบบ่งบอกถึงทิศทางขาลง ทว่าเส้น MACD ได้ตัดเส้น Trigger จากด้านล่างและ MACDF อยู่ในแดนบวก ทำให้ราคาอาจปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในช่วงต้นของวัน, Fast Stochastic ดูลงเล็กน้อยในช่วงนี้, RSI 30 นาทีอยู่ที่ระดับ 61.43 ถือได้ว่าอยู่ในระดับกลางๆและไม่มีสัญญาณ oversold หรือ overbought, แนวรับแนวต้านของวันอยู่ที่ $952-$981 ทิศทางตลาดระยะสั้นดูเป็นตลาด Sideways-down ระหว่างแนวรับแนวต้าน ส่วนค่าเงินบาทในวันนี้แนวโนมทรงตัวอยู่ในช่วงราคาเดิมกับเมื่อวาน ที่ระดับ ฿34.00-฿34.20
ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะกลาง - Directional Index ระดับวันยังคงบ่งบอกว่าทิศทางโดยรวมของราคาทองคำยังดูบวกอยู่, RSI อยู่ที่ระดับ 60.126 และยังถือเป็น Neutral, MACD อยู่ในแดนบวกและยังคงทำให้มองราคาทองคำระยะกลางเป็นขาขึ้นอยู่, Fast Stochastic ระดับวันเคลื่อนตัวลง และดูได้ว่าราคาอาจปรับตัวลงเล็กน้อย, ทิศทางตลาดระยะกลางยังคงดูเป็นบวก โดยจะใช้แนวต้านเดิมที่ Fibo 61.8% ที่ $952 เป็นแนวรับที่สำคัญต่อไป และแนวต้านราคาระยะกลางยังอยู่ที่ $1,000
Source: YLG’s estimations
ราคาทองคำแท่งที่ร้านค้าปลีกปิดล่าสุด (เส้นสีแดง = 15,800 บาท) ซึ่งสูงกว่าราคาทองคำแท่ง (SPOT) ในตลาดโลกเช้านี้ (เส้นสีน้ำเงิน = 15,598 หรือที่ $963.75) แสดงถึงราคาทองคำแท่ง ณ. หน้าร้านขายปลีก มีพรีเมี่ยมจากราคาในตลาดโลก อยู่ 202 บาท ขณะที่ราคาของ GFM09 เมื่อวานนี้ปิดตลาดอยู่ที่ 15,780 บาท จะมีพรีเมี่ยมจากราคาในตลาดโลก อยู่ราว 182 บาท ซึ่งมากกว่าที่ร้านค้าปลีก ดังนั้น การเปิดสถานะซื้อ (Long) GFM09 แล้ว ขาย (Short) ทองคำแท่งที่ร้านทอง จะทำให้มีส่วนต่างของกำไรที่คาดหวัง อยู่ที่ 202-182 = 20 บาทต่อทองคำแท่ง 1 บาทเท่านั้น จึงยังไม่คุ้มค่ากับค่าคอมมิชชั่น (ประมาณ 120 บาทต่อ 1 บาททอง) ในการทำกำไรจากส่วนต่างราคาได้ในวันนี้
กลยุทธ์และคำแนะนำ หากนักลงทุนต้องการเล่นระยะสั้นให้เล่น Range Trading ระหว่างแนวรับแนวต้านที่ $952-$981 ทว่าหากต้องการเล่นระยะกลางและรับความเสี่ยงได้สูงให้ท่านเล่น Long โดยคาดว่าทองคำจะปรับตัวขึ้นต่อไปจนถึง High เดิมที่ $1,000 โดยปรับฐานเพียงเล็กน้อย หากต้องการเล่นระยะกลางและรับความเสี่ยงได้น้อยให้รอจังหวะเล่น Long ในจังหวะที่ราคาปรับตัวลงในช่วงวัน ท่านที่ถือ Long ไว้ให้ถือต่อได้ ส่วนท่านที่ถือ Short ให้หาจังหวะปิดในช่วงนี้
ข่าวสารสำคัญเพื่อประกอบการลงทุน
ปัจจัยบวก
ค่าเงินดอลลาร์ — ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบเงินยูโร มาที่ $1.4143 จากที่ปิด $1.4301 เมื่อวันก่อนหน้า หลังตัวเลขGDP ของยุโรปติดลบมากสุดในรอบ 13 ปี + ตัวเลขล่าสุดของสหรัฐบ่งบอกถึงสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ผ่านมา อาจไม่ยั่งยืน ขณะที่เช้านี้เริ่มอ่อนค่าลง มาที่ $1.4155
ตลาดทองเอเชียเช้านี้ (06:30 น.) — ราคาอยู่ที่ 963.75 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากที่ปิดในตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ หลังค่าเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าลงเล็กน้อย
ปัจจัยลบ
ค่าเงินดอลลาร์ — ดอลลาร์ดีดขึ้นจากจุดต่ำสุดของปีเมื่อเทียบกับยูโรในช่วงการซื้อขายที่ตลาดยุโรปวันพุธ หลังจากแหล่งข่าวทางการเงินในเอเชียระบุว่าพวกตนจะยังคงซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐต่อไป ถึงแม้มีการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ
ประธาน FED — คาดว่าจะเห็นการขยายตัวทางเศรษฐกิจในเชิงบวกปลายปีนี้ แต่จะยังไม่ใช่การขยายตัวที่แข็งแกร่ง โดยอัตราการว่างงานจะยังขยับสูงขึ้นต่อไปและยังไม่มีแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อในระยะใกล้นี้ ขณะเดียวกันก็กำลังพยายามลดการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐลง พร้อมๆ กับรักษาระดับการบริโภคมวลรวมให้มีเสถียรภาพเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป
ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ — นายจ้างสหรัฐลดตำแหน่งงานในภาคเอกชนลง 532,000 ตำแหน่ง ซึ่งแย่กว่านักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยบลูมเบอร์กคาดไว้ที่ 525,000 ตำแหน่ง + ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานก็เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด ขณะที่ตัวเลขดัชนีภาคบริการก็ยังแสดงถึงภาวะหดตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เศรษฐกิจที่เคยคิดว่ากำลังดีขึ้นนั้น อาจไม่ยั่งยืนนัก และความวิตกนี้เองได้ส่งผลให้ความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างดอลลาร์พุ่งขึ้นทันที
ภาวะเศรษฐกิจยูโรโซน — เศรษฐกิจยุโรปในไตรมาส 1/52 หดตัวมากที่สุดในรอบ 13 ปี ทำให้ค่าเงินยูโรร่วงลงทันทีที่ตัวเลขได้ถูกประกาศออกมา
ราคาน้ำมัน — ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน ก.ค.ปิดร่วงแรง -$2.43 มาที่ $66.12 ต่อบาร์เรล หลังปริมาณสำรองน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่ผู้เชี่ยวชาญประเมินไว้ว่าจะลดลงราว 1.5 ล้านบาร์เรล ขณะที่เช้านี้ราคาน้ำมันขยับขึ้นเล็กน้อย มาที่ $66.17 ต่อบาร์เรล
ค่าเงินบาท — ค่าเงินบาทปิดแข็งค่าขึ้น 9 สต. มาอยู่ที่ 34.00 บาทต่อดอลลาร์ จากที่ปิด 34.09 บาทต่อดอลลาร์เมื่อวันก่อนหน้า หลัง ธปท. ได้เข้าแทรกแซงไม่ให้ค่าเงินบาทแข็งค่าไปกว่า 34.00 บาทต่อดอลลาร์เพื่อลดผลกระทบต่อผู้ส่งออก จากภาวะเงินทุนไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในวันนี้ค่าเงินบาทมีแนวรับสำคัญที่ 33.89 บาทและ 33.78 บาทตามลำดับ ส่วนแนวต้านในวันนี้จะอยู่ที่ 34.14 บาทและ 34.28 บาทตามลำดับ
ตลาดทอง นิวยอร์ก + ลอนดอน — ราคาทองคำเริ่มร่วงลงตั้งแต่ก่อนเปิดตลาดที่ลอนดอนและร่วงลงต่อเนื่องมายังตลาดนิวยอร์ก ตามค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าอย่างรวดเร็ว หลังความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลกถูกบั่นทอนลงจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปที่ส่งสัญญาณการฟื้นตัวอาจไม่ยั่งยืน
กองทุนทองคำ — SPDR กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. 3 มิ.ย.52 ลดลง -1.53 ตันจากวันก่อนหน้า รวมถือทองคำไว้ทั้งสิ้น 1,132.50 ตัน เทียบเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3.55 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 36.4 ล้านออนซ์
ปัจจัยที่ต้องเฝ้าติดตาม
ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ — สหรัฐเตรียมประกาศตัวเลขสำคัญทั้งจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานใหม่ ประสิทธิภาพการผลิตนอกภาคเกษตรและต้นทุนค่าจ้างต่อหน่วยในคืนนี้
ธนาคารกลางอังกฤษและยุโรป — มีแนวโน้มคงดอกเบี้ยในการประชุมเพื่อกำหนดนโยบายในวันนี้ แต่อาจหันมาซื้อสินทรัพย์ เช่นพันธบัตรแทน เพื่ออัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ
ข้อมูลจาก YLG ศูนย์รับซื้อ-ขายทองคำแท่ง มาตรฐาน LBMA