นายกัลกุล ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยประจำไตรมาส 3/2553 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2553 ว่ามีกำไรสุทธิ 41.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 564.94% จากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีผลขาดทุนอยู่ที่ 8.93 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิของงวด 9 เดือนปี 2553 อยู่ที่ 71.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 1,394.05% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีผลขาดทุนอยู่ที่ 5.55 ล้านบาท
สาเหตุที่ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากรายได้รวมของงวด 9 เดือนปี 2553 ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยอยู่ที่ 826.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 289.50 ล้านบาท หรือคิดเป็น 53.90% ซึ่งเป็นรายได้ที่เกิดจากยอดขายต่างประเทศมีการขยายตัวในทิศทางที่ดีขึ้น โดยอยู่ที่ 385.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 268.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 229.95% ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นงวด 9 เดือนคิดเป็น 28.14% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนคิดเป็น 20.30% หรือเพิ่มขึ้น 38.62%
เขากล่าวต่อถึงทิศทางผลประกอบการในไตรมาส 4/53 ว่ายังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 3/53 เนื่องจากธุรกิจของบริษัทและบริษัทย่อยขยายตัวตามความต้องการสินค้าในอุตสาหกรรมไฟฟ้า ตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย และการลงทุนในระบบขนส่งมวลชน รวมถึงโอกาสในการขยายตลาดไปสู่ตลาดใหม่ๆ ที่มีผู้แข่งขันน้อยราย นอกจากนี้คาดว่า GUNKULจะเริ่มมีรายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โดยสัญญาแรกกำลังการผลิต 3.0 เมกกะวัตต์ คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าให้กับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)ได้ในปลายเดือนธันวาคมนี้ ขณะที่การประมูลงานใหม่ยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) แล้วประมาณ 600 ล้านบาท จึงทำให้มั่นใจว่าผลการดำเนินงานในปีนี้น่าจะเติบโตแบบก้าวกระโดดจากปี 2552 ที่มีรายได้รวม 873 ล้านบาท