นายสุรศิษฎ์ บุญญาภิสันท์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ภายใต้ยุทธศาตร์การดำเนินงานของ กสอ. ในฐานะเป็นหน่วยงานหลักที่มีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาและแสวงหาโอกาสให้กับผู้ประกอบการ SMEs ไทย ด้วยการเปิดตลาดใหม่ๆ ที่จะนำสินค้าและบริการไปจัดจำหน่ายยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะประเทศแถบลุ่มแม่น้ำโขงที่มีระบบการคมนาคมขนส่งที่เชื่อมกัน จึงทำให้ไทยมีศักยภาพที่จะส่งสินค้าไปจำหน่ายยังประเทศดังกล่าวได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น กสอ.จึงจัดโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตเพื่อยกระดับความสามารถการแข่งขัน (MDICP-BRICP) อย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว ซึ่งดำเนินการใน 3 ส่วนหลัก ได้แก่ 1.การจัดอบรมสัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ 2.การให้คำปรึกษาแนะนำ ณ สถานประกอบการ และ 3.การจับคู่ธุรกิจให้ผู้ประกอบการเพื่อเปิดตลาดต่างประเทศ
สำหรับการจัดอบรมสัมมนาและให้คำปรึกษานั้น กรมฯ ได้ร่วมกับวิทยาลัยบัณฑิตนวัตกรรมการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ในการสนับสนุนด้านวิชาการและองค์ความรู้ ขณะที่การจับคู่ธุรกิจนั้น บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) ได้ให้การสนับสนุนในการนำพาผู้ประกอบการ SMEs ไทยไปเปิดตลาดในต่างประเทศ โดยเริ่มต้นที่ประเทศเวียดนาม ก่อนจะขยายไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคใกล้เคียงและประเทศจีน ซึ่งล่าสุด บมจ.ล็อกซเล่ย์ เป็นสื่อกลางในการนำผู้ประกอบการไทยไปพบปะผู้ประกอบการเวียดนามในงานจับคู่ธุรกิจไทย-เวียดนาม ณ สภาหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งเวียดนาม (VCCI) เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา ณ กรุงโฮจิมินห์ ซิตี้ ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
“จากความสำเร็จดังกล่าว กรมฯ เล็งเห็นว่า ล็อกซเล่ย์ เป็นบริษัทที่มีศักยภาพที่จะช่วยเป็นพลังผลักดันให้ผู้ประกอบการ SMEs ไทย สามารถนำผลิตภัณฑ์สินค้าและบริการเข้าไปเปิดตลาดในเวียดนามได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เนื่องจากล็อกซเล่ย์มีความพร้อมหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีประสบการณ์ด้านการดำเนินธุรกิจในเวียดนามมานาน” รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าว
นายธงชัย ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ล็อกซเล่ย์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากบริษัทฯ มีนโยบายบุกตลาดต่างประเทศอย่างจริงจังมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับโครงการ MDICP-BRICP ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ดังนั้น บริษัทฯ จึงเข้ามาสนับสนุนในโครงการดังกล่าว โดยเริ่มต้นจากการเข้าไปช่วยจัดงานจับคู่ธุรกิจไทย-เวียดนามเมื่อเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากล็อกซเล่ย์มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านการดำเนินธุรกิจในเวียดนามมาเป็นเวลานาน ทำให้มีสายสัมพันธ์อันดีกับหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชนของเวียดนาม อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีสำนักงานตั้งอยู่ที่กรุงโฮจิมินห์ ซิตี้ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็นด้านกฎหมาย กฎระเบียบข้อบังคับทางการค้าต่างๆ การจัดส่งสินค้า และการกระจายสินค้า เป็นต้น
ล่าสุด บริษัทฯ ได้จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ “ความร่วมมือทางการค้าในสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม” ระหว่าง บมจ.ล็อกซเล่ย์ และผู้ประกอบการ SMEs จำนวน 4 ราย ได้แก่ 1.บริษัท ดีไซน์ ออลเทอร์เนทีฟ จำกัด ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ห้องแล็ป 2.บริษัท Keen Contractor จำกัด ผู้ให้บริการด้านตกแต่งภายใน 3.บริษัท เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักส์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารเสริมและเครื่องดื่มจากธัญพืช และ 4.บริษัท ที.เอ็ม.ซี แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ผู้ให้บริการออกแบบ ผลิตและติดตั้งอุปกรณ์ไฮโดรลิก
“บทบาทของล็อกซเล่ย์ คือ เป็นพี่เลี้ยงให้กับผู้ประกอบการ SMEs ที่ต้องการนำสินค้าและบริการเข้าไปเปิดตลาดในเวียดนาม โดยบริษัทฯ จะทำหน้าที่อำนวยความสะดวกในทุกด้าน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงให้กับผู้ประกอบการ เพราะเวียดนามจะมีวัฒนธรรมทางธุรกิจค่อนข้างแตกต่างออกไป สำหรับผู้ประกอบการทั้ง 4 รายที่มาร่วมลงนามในครั้งนี้ถือเป็นการนำร่อง ซึ่งล็อกซเล่ย์ยังเปิดกว้างรับผู้ประกอบการที่สนใจเข้ามาเป็นพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง และในอนาคตจะขยายตลาดไปสู่ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค และประเทศจีนต่อไป ตั้งเป้าว่า ภายในปีหน้าจะมีผู้ประกอบการ SMEs เข้ามาร่วมโครงการเพิ่มขึ้นประมาณ 50-100 ราย ในทุกภาคอุตสาหกรรม” นายธงชัยกล่าว
?
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 023488636 จิตติศักดิ์ ศํกดิ์สมวาศ