สรุปภาวะตลาดหลักทรัพย์และการซื้อขายหลักทรัพย์ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2554

ศุกร์ ๑๑ มีนาคม ๒๐๑๑ ๐๙:๒๙
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET) ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ปิดที่ 987.91 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.47% จากสิ้นเดือนก่อน สวนทางกับตลาดหลักทรัพย์ส่วนใหญ่ในภูมิภาค เนื่องจากผู้ลงทุนต่างประเทศกลับมาซื้อสุทธิ 8,432 ล้านบาท และการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหลักทรัพย์กลุ่มพลังงานในช่วงที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว การเพิ่มขึ้นของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ส่งผลให้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 8,003,836 ล้านบาท และ forward P/E ratioปรับเพิ่มขึ้นเป็น 11.79 เท่า จาก 11.48 เท่า ณ สิ้นเดือนก่อน

ในเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงกลางเดือน ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้ลงทุนต่างประเทศเริ่มมีสถานะซื้อสุทธิในตลาดหลักทรัพย์ไทย และเป็นช่วงที่สถานการณ์ความไม่สงบทางการเมือง ในประเทศแถบตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือส่งสัญญาณความรุนแรงมากขึ้นจนทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET) ปิดที่ 987.91 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.47% จากสิ้นเดือนก่อน แต่ยังคงปรับตัวลดลง 4.34% จากสิ้นปี 2553 ในขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 263.56 จุด ปรับตัวลดลง 0.57% จากสิ้นเดือนก่อน และลดลง 3.37% จากสิ้นปี 2553

สำหรับดัชนีหลักทรัพย์รายอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกกลุ่มเมื่อเทียบกับเดือนก่อน ยกเว้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวลดลง โดยกลุ่มธุรกิจการเงิน และกลุ่มทรัพยากร เป็นเพียง 2 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ดัชนีหลักทรัพย์รายกลุ่มปรับเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่าการเพิ่มขึ้นของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ โดยปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.49% และ 4.07% จากเดือนก่อน ตามลำดับ

ราคาหลักทรัพย์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นส่งผลให้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (market capitalization) ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ของ SET อยู่ที่ 8,003,836 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.47% จากเดือนก่อน ในขณะที่มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของ mai อยู่ที่ 51,152 ล้านบาท ลดลง 5.53% จากเดือนก่อน เนื่องจาก บมจ. เด็มโก้ ซึ่ง ณ สิ้นเดือน กุมภาพันธ์ 2554 บริษัทมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดเท่ากับ 2,128 ล้านบาท ได้เปลี่ยนการจดทะเบียนจากตลาดหลักทรัพย์ mai ไปที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET)

นอกจากนี้ราคาหลักทรัพย์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นยังส่งผลให้อัตราส่วนระหว่างราคาหลักทรัพย์ต่อกำไรสุทธิคาดการณ์ต่อหุ้น (forward P/E ratio) ของตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET) ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 11.79 เท่า จาก 11.48 เท่า ณ สิ้นเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม แม้ว่าดัชนีหลักทรัพย์จะปรับตัวเพิ่มขึ้น ตลาดหลักทรัพย์ไทยยังคงให้อัตราเงินปันผลตอบแทนสูงสุดในภูมิภาค โดย ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2554 มีอัตราเงินปันผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 3.80% ซึ่งใกล้เคียงกับ ณ สิ้นเดือนมกราคม 2554 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 3.82%

มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยรายวันในเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ของ SET และ mai อยู่ที่ 28,124.64 ล้านบาท ลดลง 21.88% จากเดือนก่อน แต่เพิ่มขึ้น 97.43% จากเดือนกุมภาพันธ์ 2553 โดยผู้ลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิด้วยมูลค่า 8,432 ล้านบาทและมีสัดส่วนมูลค่าซื้อขาย 25.73 % ของมูลค่าซื้อขายรวม ซึ่งเป็นสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงสุดในรอบ 29 เดือน นับจากเดือนตุลาคม 2551 อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาตั้งแต่ต้นปี 2554 จนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ผู้ลงทุนต่างประเทศยังคงมีสถานะขายสุทธิ 20,248 ล้านบาท

หากพิจารณาตามกลุ่มอุตสาหกรรม พบว่าสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ในหมวดพลังงานและสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับหมวดอื่น โดยเพิ่มเป็น 33.28% ของมูลค่าซื้อขายรวม จาก 29.28% ในเดือนก่อน นอกจากนี้ หากพิจารณาสัดส่วนมูลค่าซื้อขายแยกตามกลุ่มหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (market capitalization) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2554 พบว่าผู้ลงทุนสนใจซื้อขายหลักทรัพย์ในกลุ่มที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงสุด 10 อันดับแรก เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 45.59% ของมูลค่าซื้อขายรวม จาก 42.06% ในเดือนก่อน

สำหรับตลาดอนุพันธ์ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2554 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยรายวันรวม 25,199 สัญญา เพิ่มขึ้น 79.88% จากเดือนกุมภาพันธ์ 2553 แต่ลดลง 5.17% จากเดือนก่อน ทั้งนี้เนื่องจากปริมาณการซื้อขาย Single Stock Futures ลดลง 29.25% จากเดือนก่อน อย่างไรก็ตาม ปริมาณการซื้อขายของ SET50 Index Futures รวมทั้ง Gold Futures ทั้งขนาด 50 บาท และ 10 บาทปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดย Gold Futures ขนาด 10 บาท มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยรายวัน 3,430 สัญญา ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มซื้อขายในเดือนสิงหาคม 2553

การระดมทุนในเดือนกุมภาพันธ์ 2554 บริษัทจดทะเบียนมีการระดมทุนในตราสารทุนมูลค่ารวม 23,650.11 ล้านบาท โดยมีการระดมทุนเฉพาะในตลาดรองเท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นการระดมทุนของ 2 บริษัท ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม ได้แก่ บมจ. อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) และ บมจ. สหวิริยาสตีลอินดัสตรี (SSI) มูลค่าระดมทุน 17,280 ล้านบาท และ 6,099 ล้านบาท ตามลำดับ

ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.set.or.th/setresearch/ หรือสอบถามข้อมูลที่ S-E-T Call Center โทร. 0 2229 2222

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑ เม.ย. อ.อ.ป. ร่วม พิธีสรงน้ำพระ ขอพร เนื่องในวันสงกรานต์ประจำปี 2567 ทส.
๑๑ เม.ย. 1 จาก 1,159 ศูนย์การค้า เดอะ พาลาเดียม เวิลด์ ช้อปปิ้ง ส่งมอบลอตเตอรี่ที่ไม่ถูกรางวัล จำนวน 125,500 ใบ ให้กับศูนย์สาธารณสงเคราะห์เด็กพิเศษ วัดห้วยหมู
๑๑ เม.ย. JPARK ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผถห. อนุมัติปันผล 0.0375 บาทต่อหุ้น
๑๑ เม.ย. สเก็ตเชอร์ส สนับสนุนเทคโนโลยีเพื่อความสบายแก่บุคลากรทางการแพทย์ บริจาครองเท้ารุ่น GOwalk 7(TM) สำหรับบุคลากรทางการแพทย์
๑๑ เม.ย. ศูนย์คนหายไทยพีบีเอส ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ทำงานเชิงป้องกัน เก็บก่อนหาย ในผู้สูงอายุ
๑๑ เม.ย. จุฬาฯ อันดับ 1 ของไทย การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดย QS WUR by Subject 2024
๑๑ เม.ย. ครั้งแรกในไทย 'Pet Us' เนรมิตพื้นที่จัดกิจกรรม มะหมามาหาสงกรานต์ ชวนน้องหมาทั่วทั้ง 4 ภาคร่วมสนุกในช่วงสงกรานต์ 13-14 เมษายน ตอกย้ำความสำเร็จฉลอง 'Pet Us' ครบ 3
๑๑ เม.ย. LINE STICKER OCHI MOVE จาก OCEAN LIFE ไทยสมุทร คว้ารางวัลชนะเลิศ Best Sponsored Stickers in Insurance ในงาน LINE THAILAND AWARDS
๑๑ เม.ย. วว. ผนึกกำลังหน่วยงานเครือข่าย พัฒนาเชื่อมโยงการค้า ตลาด วิจัย เทคโนโลยี นวัตกรรม สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
๑๑ เม.ย. บริษัท เค วัน วัน ดี จำกัด ถือฤกษ์ดีจัดพิธีบวงสรวง ซีรี่ส์ Girl's Love เรื่องใหม่ Unlock Your Love : รักได้ไหม ?