เมื่อวานนี้ (9 พ.ค.54) นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยถึงบรรยากาศวันแรกของการยื่นกู้ “โครงการบ้าน ธอส. เพื่อที่อยู่อาศัยแห่งแรก” ว่าแคมเปญนี้ได้รับความ สนใจจากประชาชนอย่างล้นหลาม โดยมีลูกค้ามารอรับบัตรคิว ตั้งแต่เวลา 04.00 น. และธนาคารได้เปิดให้บริการรับยื่นกู้ตั้งแต่เวลา 8.30 - 15.30 น. โดยข้อมูล ณ เวลา 16.30 น. มีลูกค้ายื่นกู้ในวันแรกจำนวน 5,875 ราย วงเงิน 8,885 ล้านบาท เฉลี่ยรายละ 1.5 ล้านบาท โดยลูกค้าส่วนใหญ่มาใช้บริการที่สาขาสำนักพระราม 9 (สำนักงานใหญ่) มากที่สุด วงเงิน 709 ล้านบาท รองลงมาเป็นสาขาเชียงใหม่ สาขาหาดใหญ่ สาขาพัทยา และสาขาศรีนครินทร์ ตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีสื่อมวลชนทุกแขนงเข้าร่วมสังเกตการณ์ จะเห็นได้ว่าการทำงานของธนาคารทุกขั้นตอนการมีความชัดเจนและโปร่งใสด้วยระบบไอทีบันทึกข้อมูลประมวลผลโชว์ตัวเลขวงเงินยื่นกู้ออนไลน์ทั่วประเทศแบบ Real Time ทุก 10 วินาที 153 แห่ง ทั้งนี้ ธนาคารปิดระบบบันทึกข้อมูลในเวลา 17.00 น.
“สำหรับรายละเอียด “โครงการบ้าน ธอส.เพื่อที่อยู่อาศัยแห่งแรก” วงเงิน 25,000 ล้านบาท เสนออัตรา ดอกเบี้ย 0% 2 ปีแรก ปีที่ 3 - 5 คิดอัตราดอกเบี้ย เท่ากับ MRR - 0.50% ต่อปี (ลูกค้าสวัสดิการ) ส่วนลูกค้ารายย่อยทั่วไป คิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MRR ปีที่ 6 เป็นต้นไป คิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MRR - 1.00% ต่อปี (ลูกค้าสวัสดิการ) MRR - 0.50% ต่อปี (ลูกค้ารายย่อยทั่วไป) ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ธอส.เท่ากับ 6.75% ต่อปี ผ่อนได้นานสูงสุด 30 ปี พิเศษสุดสำหรับ ลูกค้าตามโครงการนี้ รัฐบาลช่วยแบ่งเบาภาระค่าจดจำนอง และค่าธรรมเนียมการโอนครึ่งหนึ่งหรือจ่ายตามจริงสูงสุด 1.00% (จากค่าโอนปกติ 2.00% ของราคาประเมิน) โดยกำหนดเงื่อนไขการให้กู้สำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยแห่งแรกเป็นของตนเอง จะต้องไม่เคยมีชื่อเป็นเจ้าบ้านในทะเบียนบ้าน และไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง ให้กู้เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือ ห้องชุด ให้กู้เพื่อปลูกสร้างอาคาร หรือเพื่อซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร โดยราคาที่อยู่อาศัยและวงเงินให้กู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท และหลักเกณฑ์การพิจารณาการให้สินเชื่อเป็นไปตามระเบียบของธนาคาร” นายวรวิทย์ฯกล่าว
สำหรับเอกสารหลักฐานที่ลูกค้าต้องนำมาแสดงในวันยื่นกู้ ต้องลงนามรับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ มี 5 อย่าง ได้แก่ 1.สำเนาบัตรประชาชน/ข้าราชการ+ทะเบียนสมรส (กรณีสมรสแล้ว) 2.สำเนาทะเบียนบ้านทุกหน้า 3.เอกสารแสดงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน บัญชีเงินฝาก สำเนาการค้าหลักฐานการเสียภาษีเงินได้ หรือหลักฐานการแสดงฐานะทางการเงินอื่นๆ 4.สำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย/สัญญามัดจำ หรือสำเนาใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร/คำขออนุญาต และ 5. สำเนาโฉนด หรือสำเนาหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด โดยธนาคารได้กำหนดขั้นตอนการดำเนินการและวิธีปฏิบัติในการรับเรื่องยื่นกู้โครงการดังกล่าวไว้ 4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 เปิดให้รับบัตรคิวและรับแบบฟอร์มคำขอกู้ ขั้นตอนที่ 2 เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความครบถ้วนถูกต้องของเอกสารตามลำดับบัตรคิว ขั้นตอนที่ 3 รับบัตรคิวเพื่อรอบันทึกข้อมูลการยื่นกู้เข้าระบบ ขั้นตอนที่ 4 เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลจองสิทธิ์วงเงินกู้ดอกเบี้ยพิเศษตามลำดับบัตรคิว และลูกค้าจะได้รับใบติดตามเรื่อง หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ธนาคารจะติดต่อกลับตามขั้นตอนและวิธีปฏิบัติงานสินเชื่อของธนาคารอีกครั้งหนึ่ง .ทั้งนี้ หากลูกค้าที่สนใจยื่นกู้ในโครงการฯ สามารถติดต่อได้ที่สาขาทั่วประเทศ จำนวน 153 แห่ง โดยขอให้เตรียมเอกสารหลักฐานประกอบการยื่นกู้ให้ครบถ้วน เพื่อจะได้ไม่พลาดโอกาสทองครั้งนี้
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร 02-645 9000 หรือทาง www.ghbank.co.th