“การลงทุนในเทคโนโลยีของระบบซื้อขายใหม่นี้ ซึ่งมีความเร็วเทียบได้กับตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำ จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจและโอกาสทางธุรกิจ โดยดึงดูดการซื้อขายจากผู้ลงทุนทั่วโลก และสามารถรองรับผู้ลงทุนแบบ High Frequency Trading และการใช้โปรแกรมซื้อขาย (Algorithmic Trading) ซึ่งมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว อีกทั้งจะช่วยให้เราสามารถเชื่อมต่อกับตลาดหลักทรัพย์อื่นได้ง่าย และด้วยระบบของ Cinnober ที่สามารถรองรับการซื้อขายของทุกผลิตภัณฑ์ จะช่วยจะสนับสนุนให้การออกผลิตภัณฑ์ใหม่มีความคล่องตัว และรวดเร็วทันต่อความต้องการของผู้ลงทุนด้วย” นายจรัมพรกล่าว
ด้าน Mr.Nils-Robert Persson Executive Chairman of Cinnober กล่าวว่า รู้สึกยินดีและภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้รับเลือกและร่วมเป็นพันธมิตรกับตลาดหลักทรัพย์ไทยซึ่งเป็นก้าวสำคัญของบริษัท Cinnober ในการเปิดตลาดไปยังภูมิภาคอื่นๆ ด้วยเทคโนโลยีการซื้อขายที่สามารถประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพสูง และมีความยืดหยุ่น จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขันให้กับตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่ตลาดหลักทรัพย์ทุกแห่งต้องสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงและความต้องการของผู้ลงทุนได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งกล่าวได้ว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ก้าวสู่โอกาสทางธุรกิจที่สำคัญ และจะเป็นอีกหนึ่งตลาดทุนที่มีความน่าสนใจอย่างต่อเนื่องแน่นอน
แผนการพัฒนาระบบงานซื้อขายและระบบที่เกี่ยวข้องนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนแม่บทการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ IT Master Plan เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ จะได้ทำงานร่วมกับบริษัทสมาชิกอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามแผนที่วางไว้ต่อไป